07 สิงหาคม 2568

ภัยเงียบใต้ผืนใบ: เมื่อตัวอ่อนแมลงเม่า กลายเป็นศัตรูพืชทำลายผลผลิตกว่า 10% ทั่วโลก

ภัยเงียบใต้ผืนใบ: เมื่อตัวอ่อนแมลงเม่า กลายเป็นศัตรูพืชทำลายผลผลิตกว่า 10% ทั่วโลก

ภัยเงียบใต้ผืนใบ:
เมื่อตัวอ่อนแมลงเม่า กลายเป็นศัตรูพืชทำลายผลผลิตกว่า 10% ทั่วโลก

ทราบหรือไม่ว่า ผลผลิตทางการเกษตรทั่วโลกกว่า 10% ต้องสูญเสียไปจากการเข้าทำลายของแมลงศัตรูพืช และในบรรดาเหล่าแมลงร้าย ตัวอ่อนของแมลงเม่าหลายชนิดก็ถือเป็นภัยเงียบที่สร้างความเสียหายให้กับพืชผลทางการเกษตรอย่างมหาศาล บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกถึงพฤติกรรมการกัดกินของตัวอ่อนแมลงเม่า ผลกระทบต่อผลผลิตทางการเกษตร และแนวทางการควบคุมที่เหมาะสมเพื่อลดความเสียหายที่จะเกิดขึ้น


ทำไมตัวอ่อนแมลงเม่า จึงกลายเป็นภัยร้ายต่อพืชผล?

ตัวอ่อนของแมลงเม่านั้นมีลักษณะเด่นคือ มีปากแบบกัดกิน ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้ในการกัดแทะใบพืชเป็นอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงระยะตัวอ่อน พวกมันมีความต้องการอาหารสูงมาก เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงรูปร่างเป็นดักแด้และเติบโตเป็นแมลงเม่าในที่สุด

  • พืชอาหารของตัวอ่อนแมลงเม่า มีความหลากหลาย ตั้งแต่พืชผักสวนครัว ไม้ผล ไปจนถึงพืชเศรษฐกิจที่สำคัญเช่น ข้าวโพด ฝ้าย ยาสูบ
  • การระบาดของตัวอ่อนแมลงเม่า เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากแมลงเม่าเพศเมียสามารถวางไข่ได้ครั้งละหลายร้อยฟอง และไข่ใช้เวลาฟักตัวเพียงไม่กี่วัน

ผลกระทบจากการเข้าทำลายของตัวอ่อนแมลงเม่า

ตัวอ่อนแมลงเม่าสร้างความเสียหายโดยตรงต่อพืชผลทางการเกษตรหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น...

รูปแบบการทำลาย ผลกระทบ
กัดกินใบ ลดพื้นที่ผิวใบที่ใช้ในการสังเคราะห์แสง ส่งผลต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตของพืช
กัดกินดอกและผล ทำลายส่วนที่เป็นผลผลิตโดยตรง ลดปริมาณและคุณภาพของผลผลิต
ชอนไชเข้าทำลายลำต้นและราก ส่งผลต่อระบบลำเลียงอาหารของพืช ทำให้พืชอ่อนแอและตายได้

นอกจากผลกระทบโดยตรงแล้ว การเข้าทำลายของตัวอ่อนแมลงเม่ายังเป็นการเปิดช่องทางให้เชื้อโรคและแมลงศัตรูพืชชนิดอื่น ๆ สามารถเข้าทำลายพืชได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

ตัวเลขที่น่าตกใจ: ความสูญเสียจากตัวอ่อนแมลงเม่า

องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) รายงานว่า แต่ละปีทั่วโลกต้องสูญเสียผลผลิตทางการเกษตรจากการเข้าทำลายของแมลงศัตรูพืชคิดเป็นมูลค่ากว่า 4 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยตัวอ่อนแมลงเม่า เป็นหนึ่งในแมลงศัตรูพืชกลุ่มหลักที่สร้างความเสียหาย

  • ตัวอย่างเช่น ตัวอ่อนของหนอนเจาะสมอฝ้าย (cotton bollworm) ซึ่งเป็นแมลงเม่าชนิดหนึ่ง สามารถสร้างความเสียหายให้กับผลผลิตฝ้ายทั่วโลกได้มากถึง 30%
  • ในขณะที่ตัวอ่อนของผีเสื้อกลางคืนกะหล่ำปลี (cabbage looper) เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของแมลงเม่าที่สร้างความเสียหายรุนแรงต่อพืชผักตระกูลกะหล่ำ

แนวทางการควบคุมตัวอ่อนแมลงเม่า

การควบคุมตัวอ่อนแมลงเม่าอย่างมีประสิทธิภาพ จำเป็นต้องอาศัยความเข้าใจในวงจรชีวิตของแมลง รวมถึงการประยุกต์ใช้วิธีการควบคุมที่หลากหลาย เช่น

  1. การใช้กับดัก pheromone เพื่อดักจับแมลงเม่าเพศผู้ ลดโอกาสในการผสมพันธุ์และวางไข่
  2. การใช้เชื้อจุลินทรีย์ที่เป็นปฏิปักษ์ต่อแมลง เช่น เชื้อแบคทีเรียบีที (Bacillus thuringiensis) เพื่อควบคุมปริมาณตัวอ่อน
  3. การใช้สารสกัดจากพืชสมุนไพร ที่มีฤทธิ์ในการไล่แมลง เช่น ตะไคร้หอม สะเดา เป็นต้น
  4. การจัดการแปลงปลูกให้สะอาด กำจัดวัชพืชซึ่งเป็นแหล่งอาศัยและอาหารของแมลงเม่า

นอกจากนี้ การทำความเข้าใจพฤติกรรมของแมลงเม่าแต่ละชนิด เช่น ช่วงเวลาที่แมลงออกหากิน ชนิดของพืชอาหาร เป็นต้น จะช่วยให้สามารถเลือกใช้วิธีการควบคุมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น


การดูแลเอาใจใส่ หมั่นสังเกตความผิดปกติของพืช และการควบคุมอย่างทันท่วงที จะช่วยลดความเสียหายจากตัวอ่อนแมลงเม่าได้อย่างยั่งยืน และช่วยรักษาผลผลิตทางการเกษตรให้เพียงพอต่อความต้องการของประชากรโลกต่อไป

#แมลงเม่า #ศัตรูพืช #ผลผลิตทางการเกษตร #การควบคุมแมลง

บทความน่าสนใจ

บทความยอดนิยมตลอดกาล

บทความที่อยู่ในกระแส