แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ สุขภาพการนอน แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ สุขภาพการนอน แสดงบทความทั้งหมด

02 กันยายน 2568

อาการลมหลับ: ปัญหาสุขภาพที่ไม่ควรมองข้าม

อาการลมหลับ: ปัญหาสุขภาพที่ไม่ควรมองข้าม

อาการลมหลับ: ปัญหาสุขภาพที่ไม่ควรมองข้าม

ลมหลับ หรือ Obstructive Sleep Apnea (OSA) เป็นความผิดปกติของการนอนหลับที่พบได้บ่อยและส่งผลกระทบต่อสุขภาพอย่างมาก ผู้ป่วยจะมีภาวะทางเดินหายใจอุดกั้นบางส่วนหรือทั้งหมดขณะนอนหลับ ส่งผลให้ร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ เกิดเป็นภาวะหยุดหายใจเป็นช่วงๆ อาการเหล่านี้นำไปสู่ปัญหาสุขภาพอื่นๆ ตามมาได้มากมาย บทความนี้นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับอาการลมหลับ สาเหตุ ผลกระทบ วิธีการรักษา และแนวทางการป้องกัน

สาเหตุของอาการลมหลับ

อาการลมหลับเกิดจากการอุดกั้นของทางเดินหายใจส่วนบนขณะนอนหลับ โดยมีสาเหตุหลักมาจาก:

  1. น้ำหนักตัวเกินหรืออ้วน ไขมันที่สะสมบริเวณคอ ลิ้นไก่ และด้านหลังลำคอ จะไปเบียดทางเดินหายใจ
  2. โครงสร้างใบหน้าและลำคอผิดปกติ เช่น ลิ้นไก่ยาว คางสั้น ลิ้นโต ต่อมทอนซิลโต
  3. อายุที่เพิ่มขึ้น กล้ามเนื้อบริเวณคอจะหย่อนคล้อยลงตามอายุ
  4. พันธุกรรม หากมีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคลมหลับ จะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรค
  5. ปัจจัยอื่นๆ เช่น การดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ การใช้ยานอนหลับ

ผลกระทบของอาการลมหลับ

อาการลมหลับส่งผลกระทบต่อสุขภาพทั้งระยะสั้นและระยะยาว ดังนี้

  • ระยะสั้น: อ่อนเพลีย ง่วงนอนตอนกลางวัน ปวดศีรษะตอนเช้า สมาธิลดลง หงุดหงิดง่าย ความจำแย่ลง
  • ระยะยาว: ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคเบาหวาน ภาวะหยุดหายใจขณะหลับเฉียบพลัน

ข้อมูลน่าเหลือเชื่อเกี่ยวกับอาการลมหลับ

ทราบหรือไม่ว่า

  • ผู้ชายมีแนวโน้มเป็นโรคลมหลับมากกว่าผู้หญิง
  • ผู้ป่วยโรคลมหลับบางรายอาจหยุดหายใจขณะหลับได้มากกว่า 30 ครั้งต่อชั่วโมง
  • เสียงกรนดังเป็นสัญญาณเตือนเบื้องต้นของโรคลมหลับ แต่อย่าเข้าใจผิดว่าคนกรนทุกคนจะเป็นโรคลมหลับ

การวินิจฉัยและการรักษาอาการลมหลับ

แพทย์วินิจฉัยอาการลมหลับโดยการซักประวัติ ตรวจร่างกาย และตรวจการนอนหลับ (Polysomnography) ซึ่งจะบันทึกคลื่นสมอง ชีพจร การหายใจ และระดับออกซิเจนในเลือดขณะนอนหลับ

วิธีการรักษาอาการลมหลับมีหลายวิธีขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรคและสุขภาพโดยรวมของผู้ป่วย ได้แก่

  1. การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น ลดน้ำหนัก งดสูบบุหรี่ งดแอลกอฮอล์ นอนตะแคง
  2. การใช้เครื่องมือช่วยหายใจขณะหลับ เช่น เครื่อง CPAP (Continuous Positive Airway Pressure)
  3. การผ่าตัด ในกรณีที่โครงสร้างใบหน้าและลำคอผิดปกติ

การป้องกันอาการลมหลับ

แม้เราจะไม่สามารถควบคุมปัจจัยเสี่ยงบางอย่างของโรคลมหลับได้ แต่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและดูแลสุขภาพอย่างสม่ำเสมอสามารถลดความเสี่ยงในการเกิดโรคได้

  • ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
  • งดสูบบุหรี่และหลีกเลี่ยงควันบุหรี่
  • จำกัดปริมาณแอลกอฮอล์
  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

ข้อมูลทางสถิติ

จากข้อมูลขององค์กรอนามัยโลก พบว่ามีประชากรโลกประมาณ 936 ล้านคน ป่วยเป็นโรคลมหลับ และคาดการณ์ว่าจำนวนผู้ป่วยจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในประเทศไทยพบผู้ป่วยโรคลมหลับประมาณ 1.9 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 3 ของประชากร

ปัจจัยเสี่ยง ความชุกของโรคลมหลับ
น้ำหนักตัวเกินหรืออ้วน 40-90%
โครงสร้างใบหน้าและลำคอผิดปกติ 70%
อายุมากกว่า 65 ปี 20-40%
พันธุกรรม เพิ่มความเสี่ยง 2-4 เท่า

อาการลมหลับเป็นปัญหาสุขภาพที่ไม่ควรมองข้าม หากคุณมีอาการเสี่ยง ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้อง การดูแลสุขภาพ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรค และทำให้คุณมีสุขภาพการนอนที่ดีขึ้น

#ลมหลับ #หยุดหายใจขณะหลับ #สุขภาพการนอน #OSA

บทความน่าสนใจ

บทความยอดนิยมตลอดกาล

บทความที่อยู่ในกระแส