28 กุมภาพันธ์ 2566

หลอดเลือดแดงที่เลี้ยงหัวใจ: หลอดเลือดโคโรนารี เส้นเลือดสำคัญที่คุณควรรู้จัก


หลอดเลือดแดงที่เลี้ยงหัวใจ: หลอดเลือดโคโรนารี เส้นเลือดสำคัญที่คุณควรรู้จัก

หัวใจ อวัยวะที่เปรียบเสมือนเครื่องยนต์สำคัญของร่างกาย ทำหน้าที่สูบฉีดเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ อย่างไม่หยุดยั้ง แต่รู้หรือไม่ว่า หัวใจเองก็ต้องการออกซิเจนและสารอาหารเพื่อหล่อเลี้ยงกล้ามเนื้อให้แข็งแรงเช่นกัน ภารกิจสำคัญนี้จึงตกเป็นของ “หลอดเลือดโคโรนารี” หลอดเลือดขนาดเล็กแต่ทรงพลังที่ทำหน้าที่หล่อเลี้ยงหัวใจให้เต้นเป็นจังหวะได้ตลอดชีวิต

หลอดเลือดโคโรนารีคืออะไร ทำไมจึงสำคัญ

หลอดเลือดโคโรนารี (Coronary Artery) คือ หลอดเลือดแดงขนาดเล็กที่แตกแขนงออกมาจากหลอดเลือดแดงใหญ่เอออร์ตา (Aorta) บริเวณใกล้กับหัวใจ ทำหน้าที่ลำเลียงเลือดที่อุดมไปด้วยออกซิเจนและสารอาหารไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจโดยตรง สามารถแบ่งออกเป็น 2 เส้นหลัก ได้แก่:

  1. หลอดเลือดโคโรนารีซ้าย (Left Coronary Artery): เป็นเส้นเลือดหลักที่แตกแขนงออกไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจห้องล่างซ้ายและผนังหัวใจด้านหน้า
  2. หลอดเลือดโคโรนารีขวา (Right Coronary Artery): ทำหน้าที่เลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจห้องล่างขวา ผนังหัวใจด้านล่าง และผนังหัวใจด้านหลังบางส่วน

หลอดเลือดโคโรนารีจึงเปรียบเสมือนเส้นเลือดชีวิตของหัวใจ หากเกิดการอุดตันหรือตีบแคบขึ้น จะส่งผลให้เลือดไม่สามารถไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจได้อย่างเพียงพอ เป็นสาเหตุของโรคหลอดเลือดหัวใจ ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันและหัวใจวายได้

ภัยเงียบที่คุกคามหลอดเลือดโคโรนารี

ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้หลอดเลือดโคโรนารีตีบตัน เกิดจากการสะสมของไขมัน คอเลสเตอรอล และหินปูนที่ผนังหลอดเลือด เกิดเป็นคราบพลัค (Plaque) ทำให้หลอดเลือดแข็งตัว ขาดความยืดหยุ่น และมีขนาดเล็กลง ส่งผลให้เลือดไหลเวียนได้น้อยลง ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ ได้แก่:

  • โรคเบาหวาน
  • ความดันโลหิตสูง
  • ไขมันในเลือดสูง
  • การสูบบุหรี่
  • ภาวะอ้วน
  • ขาดการออกกำลังกาย
  • ความเครียด
  • พันธุกรรม

ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า โรคหัวใจและหลอดเลือดเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ของประชากรโลก โดยในปี พ.ศ. 2563 มีผู้เสียชีวิตจากโรคหัวใจทั่วโลกสูงถึง 18.6 ล้านคน

สัญญาณเตือนภัยที่ไม่ควรมองข้าม

อาการของโรคหลอดเลือดหัวใจ มักไม่แสดงอาการชัดเจนในระยะแรก ผู้ป่วยอาจไม่ทราบว่าตนเองกำลังเผชิญกับโรคนี้ อย่างไรก็ตาม หากมีอาการเหล่านี้ ควรรีบพบแพทย์โดยด่วน

  • เจ็บหน้าอก เหมือนมีอะไรมาทับ ปวดร้าวไปที่แขนซ้าย ไหล่ คอ กราม หรือหลัง
  • หายใจหอบเหนื่อย แม้ไม่ได้ออกแรง
  • ใจสั่น หัวใจเต้นผิดจังหวะ
  • คลื่นไส้ อาเจียน
  • เหงื่อออก ตัวเย็น
  • เป็นลมหมดสติ

ดูแลหัวใจให้แข็งแรง ห่างไกลโรค

การดูแลสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดเป็นสิ่งสำคัญที่ควรเริ่มต้นตั้งแต่อายุยังน้อย โดยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต ดังนี้

ด้าน วิธีปฏิบัติ
ควบคุมอาหาร เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ลดอาหารไขมันสูง คอเลสเตอรอลสูง และโซเดียม เช่น - เลือกเนื้อสัตว์ไขมันต่ำ เช่น ปลา อกไก่ สันในหมู - เน้นผักผลไม้สด ธัญพืชไม่ขัดสี - หลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป อาหารทอด อาหารรสจัด
ออกกำลังกาย ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อย 30 นาที/ครั้ง สัปดาห์ละ 5 วัน เช่น เดินเร็ว วิ่งเหยาะ ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน
ควบคุมน้ำหนัก ควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน โดยวัดค่าดัชนีมวลกาย (BMI) ให้อยู่ระหว่าง 18.5 - 22.9 กิโลกรัมต่อตารางเมตร
งดสูบบุหรี่ สารพิษในบุหรี่ทำลายหลอดเลือดและหัวใจ การหลีกเลี่ยงบุหรี่จึงช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจได้มาก
ตรวจสุขภาพประจำปี ควรตรวจสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดเป็นประจำทุกปี โดยเฉพาะผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยง

Fun Fact: รู้หรือไม่ว่า ใน 1 วัน หัวใจของคนเราเต้นเฉลี่ยประมาณ 100,000 ครั้ง และสูบฉีดเลือดมากกว่า 2,000 แกลลอน หรือเทียบเท่ากับน้ำในสระว่ายน้ำขนาดเล็ก เลยทีเดียว

การดูแลสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดเป็นเรื่องใกล้ตัวที่ไม่ควรมองข้าม การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตและใส่ใจสุขภาพตั้งแต่วันนี้ จะช่วยให้เรามีหัวใจที่แข็งแรงและใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขและยืนยาว

#หัวใจ #หลอดเลือด #สุขภาพ #โรคหัวใจ

บทความน่าสนใจ

บทความยอดนิยมตลอดกาล

บทความที่อยู่ในกระแส