แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ รักบี้ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ รักบี้ แสดงบทความทั้งหมด

09 กันยายน 2568

การเปลี่ยนแปลงสมรรถภาพทางกาย ความเสียหายของกล้ามเนื้อ และการทำงานของสมองในนักรักบี้ระดับสูงตลอดฤดูกาลแข่งขัน

การเปลี่ยนแปลงสมรรถภาพทางกาย ความเสียหายของกล้ามเนื้อ และการทำงานของสมองในนักรักบี้ระดับสูงตลอดฤดูกาลแข่งขัน

การเปลี่ยนแปลงสมรรถภาพทางกาย ความเสียหายของกล้ามเนื้อ และการทำงานของสมองในนักรักบี้ระดับสูงตลอดฤดูกาลแข่งขัน

รักบี้เป็นกีฬาที่ต้องใช้กำลังกายสูง ต้องอาศัยทั้งความแข็งแรง ความเร็ว และความอดทนอย่างมาก นักกีฬาต้องเผชิญกับการปะทะที่รุนแรงตลอดการแข่งขัน ซึ่งส่งผลกระทบต่อร่างกายทั้งในแง่ของสมรรถภาพทางกาย ความเสียหายของกล้ามเนื้อ และการทำงานของสมอง บทความนี้จะนำเสนอข้อมูลจากงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Sports, Vol. 12, Pages 223 เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับนักรักบี้ระดับสูงตลอดฤดูกาลแข่งขัน

1. สมรรถภาพทางกาย

งานวิจัยชิ้นนี้ศึกษาการเปลี่ยนแปลงของสมรรถภาพทางกายในนักรักบี้ระดับสูงจำนวน 20 คน ตลอดฤดูกาลแข่งขัน โดยทำการทดสอบสมรรถภาพทางกาย 4 ด้าน ได้แก่:

  1. ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขา: วัดจากการทดสอบยกน้ำหนัก
  2. ความเร็ว: วัดจากการวิ่งระยะสั้น 40 เมตร
  3. ความคล่องตัว: วัดจากการวิ่งแบบสลับทิศทาง
  4. ความอดทน: วัดจากการวิ่งแบบ VO2 Max

ผลการศึกษาพบว่า สมรรถภาพทางกายของนักกีฬามีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญตลอดฤดูกาลแข่งขัน โดย:

สมรรถภาพทางกาย ช่วงต้นฤดูกาล ช่วงกลางฤดูกาล ช่วงปลายฤดูกาล
ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขา (กก.) 150 ± 10 160 ± 8 155 ± 9
ความเร็ว (วินาที) 5.2 ± 0.3 5.0 ± 0.2 5.3 ± 0.4
ความคล่องตัว (วินาที) 8.5 ± 0.5 8.0 ± 0.4 8.8 ± 0.6
ความอดทน (มล./กก./นาที) 55 ± 5 60 ± 4 57 ± 6
  • ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขาเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วงกลางฤดูกาล และลดลงเล็กน้อยในช่วงปลายฤดูกาล
  • ความเร็วและความคล่องตัวเพิ่มขึ้นในช่วงกลางฤดูกาล และลดลงในช่วงปลายฤดูกาล
  • ความอดทนเพิ่มขึ้นในช่วงกลางฤดูกาล และลดลงในช่วงปลายฤดูกาล

การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า การฝึกซ้อมและการแข่งขันตลอดฤดูกาลส่งผลต่อสมรรถภาพทางกายของนักกีฬาอย่างมาก โดยนักกีฬามักจะมีสมรรถภาพทางกายสูงสุดในช่วงกลางฤดูกาล และลดลงในช่วงปลายฤดูกาลเนื่องจากความเหนื่อยล้าสะสมและการบาดเจ็บ

2. ความเสียหายของกล้ามเนื้อ

การปะทะที่รุนแรงในกีฬารักบี้เป็นสาเหตุหลักของความเสียหายของกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะกล้ามเนื้อส่วนล่าง เช่น กล้ามเนื้อต้นขา กล้ามเนื้อน่อง และกล้ามเนื้อสะโพก งานวิจัยชิ้นนี้พบว่า ระดับของ creatine kinase (CK) ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ความเสียหายของกล้ามเนื้อ เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญหลังการแข่งขัน

ระดับ CK ก่อนการแข่งขันอยู่ที่ 150 U/L และเพิ่มขึ้นเป็น 1,000 U/L หลังการแข่งขัน ซึ่งบ่งชี้ถึงความเสียหายของกล้ามเนื้อระดับปานกลาง ระดับ CK ที่สูงขึ้นสัมพันธ์กับความรู้สึกปวดเมื่อยกล้ามเนื้อและการฟื้นตัวที่ช้าลง

Fun Fact: คุณรู้หรือไม่ว่า ระดับ CK ของนักกีฬารักบี้อาจพุ่งสูงถึง 10,000 U/L หลังการแข่งขันที่เข้มข้น ซึ่งเป็นระดับที่สูงกว่าคนทั่วไปถึง 100 เท่า!

3. การทำงานของสมอง

แม้ว่ากีฬารักบี้จะขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแกร่งของร่างกาย แต่การทำงานของสมองก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน นักกีฬาต้องใช้สมองในการตัดสินใจ วางแผน และตอบสนองต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว งานวิจัยชิ้นนี้ได้ศึกษาผลกระทบของการปะทะในกีฬารักบี้ต่อการทำงานของสมอง โดยใช้แบบทดสอบประเมินความจำ ความสนใจ และเวลาตอบสนอง

ผลการศึกษาพบว่า การทำงานของสมองของนักกีฬาไม่ได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญหลังการแข่งขัน แม้ว่าระดับ CK จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งแสดงให้เห็นว่า สมองของนักกีฬามีความทนทานต่อการปะทะในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม งานวิจัยอื่นๆ แสดงให้เห็นว่า การปะทะอย่างรุนแรงและบ่อยครั้งในระยะยาว อาจส่งผลเสียต่อสมองในอนาคตได้

4. สรุป

งานวิจัยชิ้นนี้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการติดตามและดูแลนักกีฬารักบี้ระดับสูงตลอดฤดูกาลแข่งขัน การฝึกซ้อมที่เหมาะสม โภชนาการที่ดี และการพักผ่อนอย่างเพียงพอ เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้นักกีฬารักษาสมรรถภาพทางกาย ลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ และป้องกันผลกระทบต่อสมองในระยะยาวได้

#รักบี้ #กีฬา #สุขภาพ #สมอง

บทความน่าสนใจ

บทความยอดนิยมตลอดกาล

บทความที่อยู่ในกระแส