รักบี้เป็นกีฬาที่ต้องใช้กำลังกายสูง ต้องอาศัยทั้งความแข็งแรง ความเร็ว และความอดทนอย่างมาก นักกีฬาต้องเผชิญกับการปะทะที่รุนแรงตลอดการแข่งขัน ซึ่งส่งผลกระทบต่อร่างกายทั้งในแง่ของสมรรถภาพทางกาย ความเสียหายของกล้ามเนื้อ และการทำงานของสมอง บทความนี้จะนำเสนอข้อมูลจากงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Sports, Vol. 12, Pages 223 เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับนักรักบี้ระดับสูงตลอดฤดูกาลแข่งขัน
1. สมรรถภาพทางกาย
งานวิจัยชิ้นนี้ศึกษาการเปลี่ยนแปลงของสมรรถภาพทางกายในนักรักบี้ระดับสูงจำนวน 20 คน ตลอดฤดูกาลแข่งขัน โดยทำการทดสอบสมรรถภาพทางกาย 4 ด้าน ได้แก่:
- ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขา: วัดจากการทดสอบยกน้ำหนัก
- ความเร็ว: วัดจากการวิ่งระยะสั้น 40 เมตร
- ความคล่องตัว: วัดจากการวิ่งแบบสลับทิศทาง
- ความอดทน: วัดจากการวิ่งแบบ VO2 Max
ผลการศึกษาพบว่า สมรรถภาพทางกายของนักกีฬามีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญตลอดฤดูกาลแข่งขัน โดย:
สมรรถภาพทางกาย | ช่วงต้นฤดูกาล | ช่วงกลางฤดูกาล | ช่วงปลายฤดูกาล |
---|---|---|---|
ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขา (กก.) | 150 ± 10 | 160 ± 8 | 155 ± 9 |
ความเร็ว (วินาที) | 5.2 ± 0.3 | 5.0 ± 0.2 | 5.3 ± 0.4 |
ความคล่องตัว (วินาที) | 8.5 ± 0.5 | 8.0 ± 0.4 | 8.8 ± 0.6 |
ความอดทน (มล./กก./นาที) | 55 ± 5 | 60 ± 4 | 57 ± 6 |
- ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขาเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วงกลางฤดูกาล และลดลงเล็กน้อยในช่วงปลายฤดูกาล
- ความเร็วและความคล่องตัวเพิ่มขึ้นในช่วงกลางฤดูกาล และลดลงในช่วงปลายฤดูกาล
- ความอดทนเพิ่มขึ้นในช่วงกลางฤดูกาล และลดลงในช่วงปลายฤดูกาล
การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า การฝึกซ้อมและการแข่งขันตลอดฤดูกาลส่งผลต่อสมรรถภาพทางกายของนักกีฬาอย่างมาก โดยนักกีฬามักจะมีสมรรถภาพทางกายสูงสุดในช่วงกลางฤดูกาล และลดลงในช่วงปลายฤดูกาลเนื่องจากความเหนื่อยล้าสะสมและการบาดเจ็บ
2. ความเสียหายของกล้ามเนื้อ
การปะทะที่รุนแรงในกีฬารักบี้เป็นสาเหตุหลักของความเสียหายของกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะกล้ามเนื้อส่วนล่าง เช่น กล้ามเนื้อต้นขา กล้ามเนื้อน่อง และกล้ามเนื้อสะโพก งานวิจัยชิ้นนี้พบว่า ระดับของ creatine kinase (CK) ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ความเสียหายของกล้ามเนื้อ เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญหลังการแข่งขัน
ระดับ CK ก่อนการแข่งขันอยู่ที่ 150 U/L และเพิ่มขึ้นเป็น 1,000 U/L หลังการแข่งขัน ซึ่งบ่งชี้ถึงความเสียหายของกล้ามเนื้อระดับปานกลาง ระดับ CK ที่สูงขึ้นสัมพันธ์กับความรู้สึกปวดเมื่อยกล้ามเนื้อและการฟื้นตัวที่ช้าลง
Fun Fact: คุณรู้หรือไม่ว่า ระดับ CK ของนักกีฬารักบี้อาจพุ่งสูงถึง 10,000 U/L หลังการแข่งขันที่เข้มข้น ซึ่งเป็นระดับที่สูงกว่าคนทั่วไปถึง 100 เท่า!
3. การทำงานของสมอง
แม้ว่ากีฬารักบี้จะขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแกร่งของร่างกาย แต่การทำงานของสมองก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน นักกีฬาต้องใช้สมองในการตัดสินใจ วางแผน และตอบสนองต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว งานวิจัยชิ้นนี้ได้ศึกษาผลกระทบของการปะทะในกีฬารักบี้ต่อการทำงานของสมอง โดยใช้แบบทดสอบประเมินความจำ ความสนใจ และเวลาตอบสนอง
ผลการศึกษาพบว่า การทำงานของสมองของนักกีฬาไม่ได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญหลังการแข่งขัน แม้ว่าระดับ CK จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งแสดงให้เห็นว่า สมองของนักกีฬามีความทนทานต่อการปะทะในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม งานวิจัยอื่นๆ แสดงให้เห็นว่า การปะทะอย่างรุนแรงและบ่อยครั้งในระยะยาว อาจส่งผลเสียต่อสมองในอนาคตได้
4. สรุป
งานวิจัยชิ้นนี้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการติดตามและดูแลนักกีฬารักบี้ระดับสูงตลอดฤดูกาลแข่งขัน การฝึกซ้อมที่เหมาะสม โภชนาการที่ดี และการพักผ่อนอย่างเพียงพอ เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้นักกีฬารักษาสมรรถภาพทางกาย ลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ และป้องกันผลกระทบต่อสมองในระยะยาวได้
#รักบี้ #กีฬา #สุขภาพ #สมอง