29 กุมภาพันธ์ 2563

เรายังสามารถใช้ชีวิตต่อไปได้แม้ว่าจะไม่มีอะไรเหลืออยู่เลย


เรายังสามารถใช้ชีวิตต่อไปได้แม้ว่าจะไม่มีอะไรเหลืออยู่เลย

การที่ชีวิตต้องเผชิญกับความสูญเสียเป็นเรื่องธรรมดา สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นการสูญเสียคนรัก การงาน ทรัพย์สิน หรือแม้กระทั่งความฝัน ความรู้สึกสูญเสียในช่วงแรกนั้น ย่อมนำมาซึ่งความเจ็บปวด ความเศร้าโศก และความว่างเปล่า จนอาจทำให้เราตั้งคำถามกับชีวิตว่า “จะก้าวเดินต่อไปอย่างไร เมื่อไม่มีสิ่งที่เรารักเหลืออยู่เลย” แต่ท่ามกลางความสิ้นหวังนี้ สิ่งสำคัญคือเราต้องตระหนักว่ามนุษย์นั้นมีความยืดหยุ่นทางจิตใจอย่างน่าอัศจรรย์ เรามีกำลังภายในที่จะเยียวยาตัวเอง และสร้างชีวิตใหม่ขึ้นมาได้อีกครั้ง

1. ยอมรับความรู้สึกและเปิดใจรับความช่วยเหลือ

สิ่งแรกที่เราต้องทำคือยอมรับความรู้สึกของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นความเศร้า เสียใจ โกรธ หรือผิดหวัง การพยายามกดเก็บความรู้สึกเหล่านี้ไว้ จะยิ่งทำให้เราจมอยู่กับความทุกข์ได้นานขึ้น เปิดใจพูดคุยกับคนใกล้ชิด ครอบครัว หรือเพื่อนฝูง เพื่อระบายความรู้สึก หรือแม้แต่การ seeking professional help จากนักจิตวิทยาหรือจิตแพทย์ ก็สามารถช่วยให้เราก้าวผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ได้ง่ายขึ้น

2. ค้นหาคุณค่าและเป้าหมายใหม่ในชีวิต

เมื่อเราสูญเสียสิ่งสำคัญไป สิ่งที่เราทำได้คือการค้นหาคุณค่าและเป้าหมายใหม่ๆในชีวิต ลองมองหาสิ่งที่เราสนใจ สิ่งที่เราอยากทำ หรือสิ่งที่เราอยากเรียนรู้เพิ่มเติม การตั้งเป้าหมายใหม่ ไม่เพียงแต่จะช่วยให้เรามีแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต แต่ยังช่วยเติมเต็มความรู้สึกว่างเปล่าภายในใจได้อีกด้วย

3. มุ่งเน้นไปที่สิ่งที่เรายังควบคุมได้

ในช่วงเวลาที่เราสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง อาจรู้สึกเหมือนกับว่าชีวิตนี้ไม่เหลืออะไรให้ควบคุมได้อีกต่อไป แต่ความจริงแล้ว เรายังคงมีอำนาจในการตัดสินใจ และกำหนดทิศทางชีวิตของเราเองได้ ลองเริ่มจากสิ่งเล็กๆรอบตัว เช่น การดูแลสุขภาพกายใจ การจัดสรรเวลาในแต่ละวัน หรือการพัฒนาตัวเองในด้านต่างๆ สิ่งเหล่านี้จะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจ และทำให้เรารู้สึกถึงการมี control ในชีวิตมากขึ้น

4. เรียนรู้จากประสบการณ์และเติบโตเป็นคนที่แข็งแกร่งขึ้น

ทุกๆประสบการณ์ในชีวิต ล้วนแต่มีบทเรียนซ่อนอยู่ แม้แต่ในช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุด การสูญเสียอาจสอนให้เรารู้จักคุณค่าของสิ่งที่เรามีอยู่ ทำให้เรามองเห็นโลกในมุมมองที่ต่างออกไป และทำให้เราเติบโตเป็นคนที่เข้มแข็งและ resilient มากขึ้น จงมองเห็นความทุกข์เป็นบททดสอบ ที่จะช่วยหล่อหลอมให้เราเป็นคนที่ดีขึ้นกว่าเดิม

5. ความหวังและกาลเวลาคือยาที่ดีที่สุด

แม้ในวันที่มืดที่สุด จงอย่าละทิ้งความหวัง เชื่อมั่นว่าวันพรุ่งนี้ย่อมต้องดีกว่าวันนี้เสมอ และกาลเวลาจะเยียวยาทุกสิ่งทุกอย่าง แม้ในตอนนี้เราอาจจะยังมองไม่เห็นหนทาง แต่อย่างน้อยขอให้เชื่อมั่นว่า เราไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวบนโลกใบนี้ ยังมีคนที่รักและหวังดีกับเราคอยอยู่เคียงข้างเสมอ

Fun Fact เกี่ยวกับความเข้มแข็งของมนุษย์
- งานวิจัยพบว่า มนุษย์เรามีความสามารถในการปรับตัวทางจิตใจได้อย่างน่าทึ่ง แม้ต้องเผชิญกับความทุกข์ยากแสนสาหัส - สมองของเรามีความยืดหยุ่นสูง สามารถสร้างเส้นใยประสาทใหม่ๆ เพื่อทดแทนส่วนที่เสียหายได้ - ความเชื่อมั่นในตัวเอง ความหวัง และการสนับสนุนจากคนรอบข้าง ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้เราก้าวข้ามผ่านความยากลำบากไปได้

สุดท้ายนี้ ขอให้เราทุกคนจดจำไว้ว่า ชีวิตคือการเดินทางที่มีทั้งช่วงเวลาที่สวยงาม และช่วงเวลาที่ยากลำบาก แต่ไม่ว่าเราจะต้องเผชิญกับอุปสรรคใดก็ตาม ขอจงอย่ายอมแพ้ จงลุกขึ้นสู้ด้วยความกล้าหาญ และก้าวเดินต่อไปข้างหน้าอย่างภาคภูมิ เพราะแม้ในวันที่เราไม่เหลืออะไรเลย เรายังมีลมหายใจ และลมหายใจนี้เองคือสิ่งยืนยันว่า เรายังสามารถเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ

#ความหวัง #เริ่มต้นใหม่ #ก้าวเดินต่อไป #ชีวิต

บทความน่าสนใจ

บทความยอดนิยมตลอดกาล

บทความที่อยู่ในกระแส