22 มกราคม 2568

เภสัชจลนศาสตร์ของ Efmoroctocog alfa ผ่านแบบจำลองสองช่องแสดงให้เห็นผู้ป่วยฮีโมฟีเลีย เอ ที่มีการสลายตัวสองระยะ เวลาคงอยู่ในกระแสเลือดเฉลี่ยที่นาน และครึ่งชีวิตแบบเบต้า


เภสัชจลนศาสตร์ของ Efmoroctocog alfa ผ่านแบบจำลองสองช่องแสดงให้เห็นผู้ป่วยฮีโมฟีเลีย เอ ที่มีการสลายตัวสองระยะ เวลาคงอยู่ในกระแสเลือดเฉลี่ยที่นาน และครึ่งชีวิตแบบเบต้า

เภสัชจลนศาสตร์ของ Efmoroctocog alfa ผ่านแบบจำลองสองช่องแสดงให้เห็นผู้ป่วยฮีโมฟีเลีย เอ ที่มีการสลายตัวสองระยะ เวลาคงอยู่ในกระแสเลือดเฉลี่ยที่นาน และครึ่งชีวิตแบบเบต้า

ฮีโมฟีเลีย เอ เป็นโรคเลือดออกทางพันธุกรรมที่เกิดจากการขาดแฟกเตอร์ VIII (FVIII) ซึ่งส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด ผู้ป่วยฮีโมฟีเลีย เอ มักประสบกับอาการเลือดออกง่ายและต้องได้รับการรักษาด้วยยา FVIII เป็นประจำเพื่อป้องกันและรักษาอาการเลือดออก Efmoroctocog alfa เป็นยา FVIII ชนิดใหม่ที่มีครึ่งชีวิตที่ยาวกว่ายา FVIII อื่น ๆ บทความนี้จะอธิบายถึงเภสัชจลนศาสตร์ของ Efmoroctocog alfa ในผู้ป่วยฮีโมฟีเลีย เอ โดยเน้นที่การวิเคราะห์ข้อมูลด้วยแบบจำลองสองช่อง

แบบจำลองสองช่องและเภสัชจลนศาสตร์

แบบจำลองสองช่องเป็นแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ที่ใช้ในการอธิบายการกระจายตัวและการกำจัดยาในร่างกาย แบบจำลองนี้แบ่งร่างกายออกเป็นสองช่อง ได้แก่ ช่องกลาง (Central compartment) ซึ่งเป็นช่องที่ยาดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดและถูกกำจัดออก และช่องรอบนอก (Peripheral compartment) ซึ่งเป็นช่องที่ยาจะกระจายไปยังเนื้อเยื่อต่าง ๆ

ในกรณีของ Efmoroctocog alfa แบบจำลองสองช่องแสดงให้เห็นว่า ยานี้มีการกระจายตัวอย่างรวดเร็วไปยังช่องรอบนอกและมีการกำจัดออกจากร่างกายอย่างช้า ๆ จากช่องกลาง นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้ Efmoroctocog alfa มีครึ่งชีวิตที่ยาวนานกว่ายา FVIII อื่น ๆ

ผลการศึกษา

งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร JCM ฉบับที่ 13 หน้า 4986 ได้ทำการศึกษาเภสัชจลนศาสตร์ของ Efmoroctocog alfa ในผู้ป่วยฮีโมฟีเลีย เอ จำนวน 20 ราย โดยทำการฉีดยาทางหลอดเลือดดำครั้งเดียวในขนาดต่าง ๆ จากนั้นจึงทำการเก็บตัวอย่างเลือดเป็นระยะเวลาหนึ่งเพื่อวัดระดับยาในเลือด ผลการศึกษาพบว่า:

  • Efmoroctocog alfa มีการสลายตัวแบบสองระยะ (Biphasic decay) ซึ่งหมายความว่าระดับยาในเลือดจะลดลงอย่างรวดเร็วในช่วงแรกหลังจากการให้ยา จากนั้นจะลดลงอย่างช้า ๆ ในช่วงเวลาที่เหลือ
  • ค่าครึ่งชีวิตแบบเบต้า (Beta half-life) ของ Efmoroctocog alfa อยู่ที่ประมาณ 17 ชั่วโมง ซึ่งหมายความว่าระดับยาในเลือดจะลดลงครึ่งหนึ่งทุก ๆ 17 ชั่วโมง
  • เวลาคงอยู่ในกระแสเลือดเฉลี่ย (Mean residence time) ของ Efmoroctocog alfa อยู่ที่ประมาณ 25 ชั่วโมง ซึ่งหมายความว่าโมเลกุลของยาจะอยู่ในกระแสเลือดเป็นเวลาเฉลี่ย 25 ชั่วโมง

ตารางแสดงค่าพารามิเตอร์ทางเภสัชจลนศาสตร์ของ Efmoroctocog alfa

พารามิเตอร์ ค่าเฉลี่ย ช่วง (Min-Max)
ครึ่งชีวิตแบบเบต้า (ชั่วโมง) 17.2 14.5-20.8
เวลาคงอยู่ในกระแสเลือดเฉลี่ย (ชั่วโมง) 25.1 21.3-29.6

ความสำคัญทางคลินิก

เภสัชจลนศาสตร์ของ Efmoroctocog alfa ที่มีครึ่งชีวิตที่ยาวนานกว่ายา FVIII อื่น ๆ ส่งผลให้:

  • ลดความถี่ในการให้ยา (Infusion frequency) ลง ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย
  • รักษาระดับ FVIII ในเลือดให้คงที่ (Steady-state levels) ได้นานขึ้น ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดเลือดออก
  • อาจเป็นประโยชน์สำหรับผู้ป่วยบางรายที่ไม่สามารถฉีดยาได้บ่อยครั้ง เช่น เด็กเล็ก

ข้อสรุป

การศึกษาเภสัชจลนศาสตร์ของ Efmoroctocog alfa โดยใช้แบบจำลองสองช่อง แสดงให้เห็นว่า ยานี้มีการสลายตัวแบบสองระยะ ครึ่งชีวิตแบบเบต้าที่ยาวนาน และเวลาคงอยู่ในกระแสเลือดเฉลี่ยที่นาน คุณสมบัติเหล่านี้ส่งผลดีต่อการรักษาผู้ป่วยฮีโมฟีเลีย เอ เนื่องจากช่วยลดความถี่ในการให้ยา รักษาระดับ FVIII ในเลือดให้คงที่ และเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ป่วย อย่างไรก็ตาม ควรมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อยืนยันผลลัพธ์เหล่านี้และประเมินประสิทธิภาพและความปลอดภัยในระยะยาวของ Efmoroctocog alfa ในผู้ป่วยฮีโมฟีเลีย เอ

#ฮีโมฟีเลีย #เภสัชจลนศาสตร์ #EfmoroctocogAlfa #แบบจำลองสองช่อง

บทความน่าสนใจ

บทความยอดนิยมตลอดกาล

บทความที่อยู่ในกระแส