ทำไมประเทศซาอุดีอาระเบียถึงมีน้ำมันมาก
ประเทศซาอุดีอาระเบียเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะประเทศที่มีปริมาณน้ำมันสำรองมากที่สุดในโลก โดยคิดเป็นประมาณ 17% ของปริมาณน้ำมันสำรองทั่วโลก แต่คำถามที่น่าสนใจคือ อะไรเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ประเทศแห่งนี้อุดมไปด้วยทรัพยากรอันล้ำค่าเช่นนี้? บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจเบื้องลึกของภูมิศาสตร์โบราณ ธรณีวิทยาอันเป็นเอกลักษณ์ และปัจจัยอื่นๆ ที่ทำให้ซาอุดีอาระเบียกลายเป็นมหาอำนาจด้านพลังงานของโลก
1. การก่อกำเนิดในอดีต: มหาสมุทรโบราณและแอ่งสะสมตะกอน
ย้อนกลับไปเมื่อหลายล้านปีก่อน บริเวณที่เป็นประเทศซาอุดีอาระเบียในปัจจุบันเคยเป็นส่วนหนึ่งของมหาสมุทรโบราณที่เรียกว่า "เทธิส" มหาสมุทรแห่งนี้อุดมไปด้วยสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก เมื่อสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ตายลง ซากของมันจะจมลงสู่ก้นมหาสมุทร และถูกทับถมด้วยตะกอนอย่างช้าๆ เป็นเวลานับล้านปี
บริเวณนี้ยังมีลักษณะเป็นแอ่งสะสมตะกอนขนาดใหญ่ ซึ่งเอื้อต่อการทับถมของซากสิ่งมีชีวิตและอินินทรีย์วัตถุอื่นๆ เป็นชั้นหนา การเคลื่อนตัวของเปลือกโลกในเวลาต่อมา ทำให้เกิดการยกตัวของพื้นที่ และกักเก็บน้ำมันและก๊าซธรรมชาติไว้ใต้ดิน
2. โครงสร้างทางธรณีวิทยาที่เหมาะสม: กับดักน้ำมัน
นอกจากการมีแหล่งกำเนิดของน้ำมันแล้ว ซาอุดีอาระเบียยังมีโครงสร้างทางธรณีวิทยาที่เอื้อต่อการกักเก็บน้ำมันไว้ใต้ดินอีกด้วย โครงสร้างเหล่านี้เรียกว่า "กับดักน้ำมัน" ซึ่งเป็นชั้นหินที่มีรูปร่างโค้งงอ หรือมีชั้นหินเนื้อแน่นปิดทับอยู่ ทำให้น้ำมันไม่สามารถเล็ดลอดออกไปได้
ตัวอย่างกับดักน้ำมันที่สำคัญในซาอุดีอาระเบีย เช่น Ghawar Field ซึ่งเป็นแหล่งน้ำมันขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และ Safaniya Oil Field ซึ่งเป็นแหล่งน้ำมันนอกชายฝั่งที่ใหญ่ที่สุดในโลก
3. กระบวนการทางธรณีวิทยา: ความร้อนและแรงกดดัน
ซากสิ่งมีชีวิตที่ทับถมกันอยู่ใต้ดินจะถูกความร้อนและแรงกดดันจากชั้นหินที่ปิดทับอยู่เป็นเวลานาน กระบวนการนี้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมี และแปรสภาพซากสิ่งมีชีวิตให้กลายเป็นน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติ
4. การค้นพบและพัฒนาแหล่งน้ำมัน
แม้ว่าซาอุดีอาระเบียจะมีศักยภาพในการผลิตน้ำมันสูง แต่การค้นพบและพัฒนาแหล่งน้ำมันก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ประเทศนี้กลายเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลก ในช่วงทศวรรษที่ 1930 บริษัทน้ำมันจากต่างประเทศ เช่น Standard Oil of California (ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น Chevron) ได้เข้ามาสำรวจและพัฒนาแหล่งน้ำมันในซาอุดีอาระเบีย การค้นพบแหล่งน้ำมันขนาดใหญ่ เช่น Dammam Field ในปี 1938 และ Ghawar Field ในปี 1948 ทำให้ซาอุดีอาระเบียกลายเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายสำคัญของโลกในเวลาต่อมา
5. ความสำคัญของปริมาณน้ำมันสำรอง
ปริมาณน้ำมันสำรอง หมายถึง ปริมาณน้ำมันดิบที่สามารถสกัดขึ้นมาใช้ได้อย่างคุ้มค่าในเชิงเศรษฐกิจ ณ ปัจจุบัน ซาอุดีอาระเบียมีปริมาณน้ำมันสำรองที่พิสูจน์แล้วประมาณ 268 พันล้านบาร์เรล ซึ่งคิดเป็นประมาณ 17% ของปริมาณน้ำมันสำรองทั่วโลก ปริมาณน้ำมันสำรองที่มหาศาลนี้ ทำให้ซาอุดีอาระเบียมีบทบาทสำคัญในการกำหนดราคาน้ำมันในตลาดโลก
ตารางแสดงปริมาณน้ำมันสำรองของประเทศต่างๆ (ล้านบาร์เรล)
ประเทศ | ปริมาณน้ำมันสำรอง |
---|---|
เวเนซุเอลา | 303,806 |
ซาอุดีอาระเบีย | 268,350 |
แคนาดา | 169,709 |
อิหร่าน | 155,600 |
อิรัก | 147,223 |
สรุป
ปริมาณน้ำมันมหาศาลของซาอุดีอาระเบียเป็นผลมาจากปัจจัยหลายอย่างผสมผสานกัน ทั้งสภาพภูมิศาสตร์โบราณ โครงสร้างทางธรณีวิทยาที่เหมาะสม กระบวนการทางธรณีวิทยาที่ยาวนาน และการค้นพบและพัฒนาแหล่งน้ำมันอย่างต่อเนื่อง ปัจจัยเหล่านี้ทำให้ซาอุดีอาระเบียกลายเป็นประเทศที่มีบทบาทสำคัญยิ่งต่อเศรษฐกิจโลก และยังคงเป็นผู้เล่นหลักในอุตสาหกรรมพลังงานโลกต่อไปในอนาคต
#ซาอุดีอาระเบีย #น้ำมัน #พลังงาน #เศรษฐกิจ