เคล็ดลับการปลูกมะปรางให้หวานหอม
มะปราง ผลไม้รสชาติเปรี้ยวอมหวาน มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว เป็นที่ชื่นชอบของใครหลายคน นอกจากจะรับประทานสดๆ แล้ว ยังสามารถนำไปแปรรูปเป็นอาหารคาวหวานได้หลากหลายเมนู สำหรับใครที่สนใจอยากปลูกมะปรางไว้ทานเองที่บ้าน บทความนี้ได้รวบรวมเคล็ดลับต่างๆ ที่จะช่วยให้มะปรางของเราออกผลดก หวาน กรอบ อร่อย ถูกใจคนปลูกอย่างแน่นอน
1. การเลือกพันธุ์มะปราง
การเลือกพันธุ์มะปรางนับเป็นขั้นตอนแรกและสำคัญที่สุด เพราะพันธุ์มะปรางแต่ละชนิดมีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป ยกตัวอย่างเช่น
- พันธุ์มะปรางหวาน เช่น มะปรางทองหยอด จะมีรสชาติหวานเป็นพิเศษ เนื้อเยอะ เมล็ดเล็ก
- พันธุ์มะปรางเปรี้ยว เช่น มะปรางเปรี้ยว จะมีรสเปรี้ยวจัด เหมาะสำหรับนำไปทำยำ
- พันธุ์มะปรางทนโรค เช่น มะปรางสุโขทัย จะทนทานต่อโรคและแมลงได้ดี
ดังนั้น ควรเลือกพันธุ์มะปรางให้เหมาะสมกับความต้องการของเรา และศึกษาข้อมูลของแต่ละพันธุ์ให้ดีก่อนตัดสินใจ
2. การเตรียมดินปลูก
มะปรางชอบดินร่วนปนทราย ระบายน้ำได้ดี ก่อนปลูกควรไถพรวนดินตากแดดทิ้งไว้ประมาณ 1-2 สัปดาห์ เพื่อฆ่าเชื้อโรคในดิน จากนั้นขุดหลุมปลูกขนาดประมาณ 50x50x50 เซนติเมตร ผสมดินปลูกกับปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักในอัตราส่วน 1:1 รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยสูตร 15-15-15 ประมาณ 1 กิโลกรัม
3. การปลูกและดูแลรักษา
ควรปลูกมะปรางในช่วงต้นฤดูฝน ระยะปลูกที่เหมาะสมคือ 6x8 เมตร หลังจากปลูกแล้วควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะช่วง 1-2 ปีแรก ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักปีละ 2-3 ครั้ง และใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 ปีละ 3-4 ครั้ง นอกจากนี้ควรตัดแต่งกิ่งเป็นประจำ เพื่อช่วยให้ต้นมะปรางโปร่ง แสงแดดส่องถึง ช่วยลดปัญหาโรคและแมลง และทำให้มะปรางออกผลดก
4. การให้น้ำ
มะปรางเป็นไม้ผลที่ต้องการน้ำปานกลาง ควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะช่วงที่มะปรางกำลังออกดอกและติดผล แต่ควรระวังอย่าให้น้ำขัง เพราะอาจทำให้รากเน่าได้
5. การใส่ปุ๋ย
การใส่ปุ๋ยเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้มะปรางเจริญเติบโตดี ออกผลดก โดยควรใส่ปุ๋ยทั้งปุ๋ยคอกและปุ๋ยเคมี
- ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก ช่วยปรับสภาพดิน เพิ่มอินทรียวัตถุ ทำให้ดินร่วนซุย ควรใส่ปีละ 2-3 ครั้ง
- ปุ๋ยเคมี ช่วยเพิ่มธาตุอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของมะปราง ควรใส่สูตร 15-15-15 ปีละ 3-4 ครั้ง หรืออาจใช้ปุ๋ยทางใบฉีดพ่น เพื่อเพิ่มความเขียว เร่งการออกดอก และเพิ่มผลผลิต
6. การเก็บเกี่ยว
มะปรางจะเริ่มให้ผลผลิตเมื่ออายุประมาณ 3-4 ปี หลังปลูก โดยจะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ในช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายน สังเกตผลมะปรางที่สุกได้ที่ จะมีสีเขียวอมเหลือง เนื้อแน่น มีกลิ่นหอม รสชาติหวาน สามารถเก็บไว้ได้นาน 1-2 สัปดาห์
ตารางแสดงปริมาณธาตุอาหารที่มะปรางต้องการในแต่ละช่วงการเจริญเติบโต
ช่วงการเจริญเติบโต | ไนโตรเจน (N) | ฟอสฟอรัส (P) | โพแทสเซียม (K) |
---|---|---|---|
ระยะต้นกล้า | สูง | ปานกลาง | ต่ำ |
ระยะแตกใบอ่อน | สูง | สูง | ปานกลาง |
ระยะออกดอก | ต่ำ | สูง | สูง |
ระยะติดผล | ปานกลาง | สูง | สูง |
Fun Fact
- รู้หรือไม่ว่า มะปรางเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซี ซึ่งมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน บำรุงผิวพรรณ และช่วยต้านอนุมูลอิสระ
ข้อมูลอ้างอิง
- กรมวิชาการเกษตร. (2564). https://www.doa.go.th
#มะปราง #ปลูกมะปราง #ผลไม้ไทย #เกษตร