24 มีนาคม 2567

การกระตุ้นสมองด้วยแม่เหล็กแบบซ้ำรูปแบบใหม่ ช่วยลดเวลาในการรักษาโรคไบโพลาร์


การกระตุ้นสมองด้วยแม่เหล็กแบบซ้ำรูปแบบใหม่ ช่วยลดเวลาในการรักษาโรคไบโพลาร์

การกระตุ้นสมองด้วยแม่เหล็กแบบซ้ำรูปแบบใหม่ ช่วยลดเวลาในการรักษาโรคไบโพลาร์

โรคไบโพลาร์ หรือ โรคอารมณ์สองขั้ว เป็นความเจ็บป่วยทางจิตเวชที่ส่งผลต่ออารมณ์ ความคิด และพฤติกรรมของผู้ป่วย โดยผู้ป่วยจะมีอาการของอารมณ์ที่ผันผวนอย่างรุนแรง สลับกันระหว่างช่วงอารมณ์ดีผิดปกติ หรือช่วงที่มีพลังงานสูง (Mania) กับ ช่วงอารมณ์ซึมเศร้าอย่างรุนแรง (Depression)

ปัจจุบัน การรักษาโรคไบโพลาร์หลักๆ จะใช้ยาเป็นหลัก ร่วมกับการรักษาทางจิตใจ และการปรับพฤติกรรม อย่างไรก็ตาม ยาที่ใช้รักษาโรคไบโพลาร์มักมีผลข้างเคียง และผู้ป่วยบางรายอาจไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยาเท่าที่ควร ดังนั้น นักวิจัยจึงได้พยายามค้นหาวิธีการรักษาโรคไบโพลาร์แบบใหม่ๆ ที่มีประสิทธิภาพและผลข้างเคียงน้อยกว่า ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ “การกระตุ้นสมองด้วยแม่เหล็กแบบซ้ำ” หรือ Repetitive Transcranial Magnetic Stimulation (rTMS)

rTMS คืออะไร

rTMS เป็นเทคนิคการรักษาแบบไม่รุกล้ำ (Non-invasive) ที่ใช้สนามแม่เหล็กความเข้มข้นสูง เพื่อกระตุ้นหรือยับยั้งการทำงานของเซลล์ประสาทในสมอง โดยแพทย์จะวางขดลวดแม่เหล็กไว้ใกล้กับหนังศีรษะของผู้ป่วย และส่งคลื่นแม่เหล็กสั้นๆ ผ่านกะโหลกศีรษะไปยังบริเวณเป้าหมายในสมอง ซึ่งคลื่นแม่เหล็กนี้จะเหนี่ยวนำให้เกิดกระแสไฟฟ้าขนาดเล็กในเซลล์ประสาท ช่วยปรับเปลี่ยนกิจกรรมทางไฟฟ้าในสมอง

rTMS ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (FDA) ในการรักษาโรคซึมเศร้าชนิดรุนแรงที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยา และจากงานวิจัยจำนวนมาก พบว่า rTMS มีประสิทธิภาพในการรักษาโรคไบโพลาร์เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการลดอาการซึมเศร้าในผู้ป่วยโรคไบโพลาร์

รูปแบบใหม่ของ rTMS ช่วยลดเวลาในการรักษา

เดิมที การรักษาด้วย rTMS นั้นใช้เวลานานพอสมควร โดยผู้ป่วยต้องเข้ารับการรักษาติดต่อกันหลายสัปดาห์ สัปดาห์ละ 5 ครั้ง แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีการพัฒนารูปแบบใหม่ของ rTMS ที่เรียกว่า “Intermittent Theta Burst Stimulation (iTBS)” ซึ่งเป็นรูปแบบการกระตุ้นที่ให้ความถี่สูงขึ้นในช่วงเวลาสั้นๆ พบว่า iTBS สามารถลดระยะเวลาในการรักษาลงเหลือเพียง 1-2 สัปดาห์ โดยที่ยังคงประสิทธิภาพในการรักษาเทียบเท่ากับ rTMS แบบเดิม

ตัวอย่างงานวิจัยที่แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของ iTBS ในการรักษาโรคไบโพลาร์:

  • Blumberger DM, et al. (2018). Effectiveness of theta burst versus high-frequency repetitive transcranial magnetic stimulation in adults with depression: a systematic review and meta-analysis. The British Journal of Psychiatry, 212(6), 357-366.
  • Soares JC, et al. (2018). Accelerated intermittent theta burst stimulation as an antidepressant treatment for bipolar depression: A randomized controlled trial. Journal of Affective Disorders, 234, 194-202.

งานวิจัยเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่า iTBS อาจเป็นทางเลือกในการรักษาโรคไบโพลาร์ที่มีประสิทธิภาพ ใช้เวลาน้อยกว่า และมีผลข้างเคียงน้อยกว่าเมื่อเทียบกับ rTMS แบบเดิม

ผลข้างเคียงของ rTMS

โดยทั่วไปแล้ว rTMS ถือว่าเป็นวิธีการรักษาที่ปลอดภัย มีผลข้างเคียงน้อย ผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยที่สุดคืออาการปวดศีรษะเล็กๆ ซึ่งมักจะหายไปเองภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังการรักษา อย่างไรก็ตาม rTMS อาจไม่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยบางกลุ่ม เช่น ผู้ป่วยที่มีประวัติของโรคลมชัก หรือผู้ป่วยที่มีโลหะฝังอยู่ในบริเวณศีรษะ ดังนั้น การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนรับการรักษาด้วย rTMS จึงเป็นสิ่งสำคัญ

อนาคตของ rTMS ในการรักษาโรคไบโพลาร์

แม้ว่า rTMS จะแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการรักษาโรคไบโพลาร์ แต่ยังคงต้องมีการศึกษาวิจัยเพิ่มเติมเพื่อยืนยันประสิทธิภาพและความปลอดภัยในระยะยาว รวมถึงการศึกษาเปรียบเทียบประสิทธิภาพของ rTMS กับวิธีการรักษาแบบอื่นๆ

อย่างไรก็ตาม ด้วยความก้าวหน้าทางเทคนิคและงานวิจัยที่เพิ่มมากขึ้น เชื่อว่าในอนาคต rTMS จะกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการรักษาโรคไบโพลาร์ และช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้

#สุขภาพจิต #ไบโพลาร์

บทความน่าสนใจ

บทความยอดนิยมตลอดกาล

บทความที่อยู่ในกระแส