ราชวงศ์โจว (周朝, 1046-256 ปีก่อนคริสตกาล) นับเป็นราชวงศ์ที่มีอายุยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์จีน ครอบคลุมช่วงเวลาเกือบ 800 ปี นับตั้งแต่การโค่นล้มราชวงศ์ซาง (Shang Dynasty) จนถึงการล่มสลายและแบ่งแยกเป็นยุครัฐ warring states ช่วงเวลาแห่งการปกครองของราชวงศ์โจวเต็มไปด้วยความรุ่งโรจน์ ความวุ่นวาย การเปลี่ยนแปลงทางสังคมและปรัชญาที่สำคัญยิ่ง ซึ่งหล่อหลอมอารยธรรมจีนให้เป็นรากฐานมาจนถึงทุกวันนี้
การก่อตั้งราชวงศ์และยุคทองแห่งความเจริญ (1046-771 ปีก่อนคริสตกาล)
ราชวงศ์โจวภายใต้การนำของพระเจ้าโจวอู่หวัง (King Wu of Zhou) ได้โค่นล้มราชวงศ์ซางลงได้สำเร็จในปี 1046 ปีก่อนคริสตกาล โดยอ้างอาณัติแห่งสวรรค์ (Mandate of Heaven) ซึ่งเป็นแนวคิดที่เชื่อว่าผู้ปกครองได้รับสิทธิ์ในการปกครองจากสวรรค์ ตราบเท่าที่ยังคงปกครองอย่างยุติธรรมและมีคุณธรรม
ในช่วงต้นยุคราชวงศ์โจวตะวันตก (Western Zhou Dynasty) ราชสำนักโจวได้ขยายอาณาเขตออกไปอย่างกว้างขวาง ผ่านการทำสงครามและการสร้างพันธมิตรกับรัฐต่างๆ ระบบศักดินา (feudalism) ถูกนำมาใช้ โดยพระเจ้าโจวจะพระราชทานที่ดินและอำนาจให้แก่ขุนนางและเชื้อพระวงศ์ เพื่อแลกเปลี่ยนกับความจงรักภักดีและการสนับสนุนทางทหาร
ยุคนี้ถือเป็นยุคทองแห่งความเจริญรุ่งเรืองของราชวงศ์โจว เกิดนวัตกรรมทางด้านเกษตรกรรม เครื่องมือเครื่องใช้ที่ทำจากเหล็ก และการพัฒนาภาษาเขียนอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ยังเป็นยุคที่ศาสนาและปรัชญาเฟื่องฟู โดยเฉพาะลัทธิขงจื๊อ (Confucianism) ที่มีอิทธิพลต่อสังคมจีนอย่างมาก
ยุคแห่งความวุ่นวายและการแบ่งแยก (771-256 ปีก่อนคริสตกาล)
ปี 771 ปีก่อนคริสตกาล ชนเผ่าจากทางเหนือได้รุกรานราชธานีโจวตะวันตก จนทำให้ราชสำนักต้องย้ายไปยังลั่วหยาง (Luoyang) นับเป็นจุดเริ่มต้นของยุคราชวงศ์โจวตะวันออก (Eastern Zhou Dynasty) อำนาจของราชสำนักโจวเริ่มเสื่อมถอยลง ขณะที่รัฐศักดินาต่างๆ เริ่มเข้มแข็งขึ้นและทำสงครามแย่งชิงอำนาจกันเอง
ยุคราชวงศ์โจวตะวันออกยังแบ่งออกเป็นยุคชุนชิว (Spring and Autumn Period, 771-476 ปีก่อนคริสตกาล) และยุครณรัฐ (Warring States Period, 475-221 ปีก่อนคริสตกาล) ในยุคชุนชิวมีรัฐศักดินาที่เข้มแข็งประมาณ 12 รัฐ ขณะที่ยุครณรัฐลดลงเหลือเพียง 7 รัฐหลักๆ ที่ทำสงครามกันอย่างต่อเนื่อง
แม้จะเป็นยุคแห่งความขัดแย้ง แต่ยุคราชวงศ์โจวตะวันออกกลับเป็นยุคที่ความคิดและปรัชญาต่างๆ เบ่งบาน นักปราชญ์เช่น ขงจื๊อ เล่าจื๊อ และซุนจื๊อ ได้เสนอแนวคิดทางปรัชญาที่หลากหลาย ซึ่งส่งผลต่อความคิดและวัฒนธรรมจีนในเวลาต่อมา นอกจากนี้ เทคโนโลยีทางการทหาร การปกครอง และการค้าก็พัฒนาไปอย่างมากเช่นกัน
มรดกของราชวงศ์โจว
แม้ราชวงศ์โจวจะล่มสลายลงในปี 256 ปีก่อนคริสตกาล แต่มรดกของราชวงศ์โจวยังคงอยู่และส่งอิทธิพลต่ออารยธรรมจีนอย่างลึกซึ้ง ไม่ว่าจะเป็น:
- ระบบการเมืองและสังคม: แนวคิดอาณัติแห่งสวรรค์ ระบบศักดินา และปรัชญาการปกครองแบบขงจื๊อ กลายเป็นรากฐานสำคัญของระบบการเมืองและสังคมจีนในเวลาต่อมา
- ภาษาและวรรณคดี: ยุคราชวงศ์โจวเป็นยุคที่ภาษาเขียนจีนพัฒนาขึ้นอย่างมาก ผลงานวรรณคดีคลาสสิกเช่น อี้จิง (I Ching) และซือจิง (Classic of Poetry) ถือกำเนิดขึ้นในยุคนี้
- ปรัชญาและความคิด: ปรัชญาต่างๆ ที่ถือกำเนิดขึ้นในยุคราชวงศ์โจว เช่น ขงจื๊อ เล่าจื๊อ และซุนจื๊อ ได้หล่อหลอมความคิดและค่านิยมของชาวจีนมาจนถึงปัจจุบัน
สรุปแล้ว ราชวงศ์โจวนับเป็นยุคแห่งความรุ่งโรจน์และการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์จีน เป็นยุคที่ความคิด ปรัชญา และระบบการเมืองแบบจีนเริ่มก่อร่างสร้างตัว และกลายเป็นรากฐานสำคัญของอารยธรรมจีนที่ยิ่งใหญ่ในเวลาต่อมา
#ราชวงศ์โจว #ประวัติศาสตร์จีน #อารยธรรมจีน #ปรัชญาจีน