วิวัฒนาการเบนเข้าหากันของหนามพืช ผ่านการควบคุมยีนซ้ำแล้วซ้ำเล่าตลอดช่วงเวลาอันยาวนาน
หนามพืช: ไม่ได้เหมือนกันอย่างที่คิด
แม้หนามพืชจะดูคล้ายคลึงกัน แต่แท้จริงแล้ว กลไกทางพันธุกรรมที่อยู่เบื้องหลังกลับแตกต่างกันออกไปตามสายพันธุ์ งานวิจัยนี้ได้ศึกษาพืช 6 ชนิด จาก 4 วงศ์พืช ที่มีวิวัฒนาการของหนามแตกต่างกัน ได้แก่ แตงกวา มะนาว ส้ม สาเก องุ่น และมะยม โดยเปรียบเทียบกับพืชที่ไม่มีหนามในวงศ์เดียวกัน เช่น แตงโม และมะละกอ
การควบคุมยีนซ้ำแล้วซ้ำเล่า: กุญแจสำคัญสู่วิวัฒนาการหนามพืช
ผลการศึกษาพบว่า ยีนที่ควบคุมการสร้าง trichome หรือขนเล็กๆ บนผิวพืช ถูกนำกลับมาใช้ใหม่ (gene co-option) ในการสร้างหนามพืช โดยยีนนี้จะถูกกระตุ้นให้ทำงานในเนื้อเยื่อที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละชนิดพันธุ์ ตัวอย่างเช่น ในแตงกวา ยีนนี้จะทำงานในเนื้อเยื่อชั้น epidermis หรือชั้นผิวหนังชั้นนอก ส่วนในมะนาว ยีนจะทำงานในเนื้อเยื่อ subepidermal หรือชั้นใต้ผิวหนังชั้นนอก
ตารางแสดงความสัมพันธ์ระหว่างชนิดพืช ยีนที่ควบคุมหนาม และตำแหน่งของหนาม
ชนิดพืช | ยีนที่ควบคุมหนาม | ตำแหน่งของหนาม |
---|---|---|
แตงกวา | CsGL1 | ชั้น epidermis |
มะนาว | CitRKD1 | ชั้น subepidermal |
ส้ม | CsGL1 | ชั้น epidermis และ subepidermal |
ความสำคัญของการค้นพบ
การค้นพบนี้ชี้ให้เห็นถึงความซับซ้อนและยืดหยุ่นของวิวัฒนาการ แสดงให้เห็นว่าธรรมชาติสามารถนำองค์ประกอบที่มีอยู่เดิมมาปรับใช้ใหม่เพื่อสร้างลักษณะใหม่ๆ ที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม นอกจากนี้ ยังช่วยให้นักวิทยาศาสตร์เข้าใจกลไกการควบคุมการสร้างหนามพืช ซึ่งอาจนำไปสู่การประยุกต์ใช้ในการปรับปรุงพันธุ์พืชเพื่อเพิ่มความต้านทานต่อศัตรูพืชในอนาคต
Fun Fact!
ทราบหรือไม่ว่า หนามของกุหลาบ ไม่ใช่หนามแท้จริง แต่เป็นส่วนที่เปลี่ยนแปลงมาจากเปลือกของลำต้นต่างหาก!
#พืช #วิวัฒนาการ #พันธุศาสตร์ #หนาม