28 สิงหาคม 2566

ทำไมทะเลถึงมีสีฟ้าและสีเขียว?

ทำไมทะเลถึงมีสีฟ้าและสีเขียว?

ทำไมทะเลถึงมีสีฟ้าและสีเขียว?

เมื่อเรามองออกไปยังท้องทะเลอันกว้างใหญ่ สิ่งแรกที่สะดุดตาคงหนีไม่พ้นสีสันอันงดงาม บางครั้งเป็นสีฟ้าครามสดใส บางครั้งเป็นสีเขียวมรกตชวนหลงใหล เคยสงสัยกันไหมว่าอะไรเป็นปัจจัยที่ทำให้ทะเลมีสีสันแตกต่างกันออกไป? บทความนี้จะพาไปค้นหาคำตอบที่น่าสนใจเกี่ยวกับความลับของสีสันแห่งท้องทะเลกัน

แสงแดด: จุดเริ่มต้นของทุกสรรพสี

แท้จริงแล้วสีสันของท้องทะเลไม่ได้เกิดจากตัวน้ำทะเลเองโดยตรง แต่เกิดจากการกระเจิงของแสงอาทิตย์ที่ตกกระทบลงบนผิวน้ำ แสงแดดประกอบด้วยแสงสีต่างๆ 7 สี ได้แก่ ม่วง คราม น้ำเงิน เขียว เหลือง แสด แดง เมื่อแสงแดดผ่านเข้ามาในน้ำ โมเลกุลของน้ำจะดูดกลืนแสงสีแดง ส้ม เหลือง และเขียว ไว้ได้ดีกว่าสีน้ำเงิน ส่วนแสงสีน้ำเงินจะถูกกระเจิงออกไปในทุกทิศทาง ทำให้เรามองเห็นน้ำทะเลเป็นสีฟ้า

สาหร่าย: ศิลปินแห่งสีเขียว

นอกจากแสงแดดแล้ว สิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่เรียกว่า “แพลงก์ตอนพืช” ก็มีบทบาทสำคัญในการกำหนดสีสันของท้องทะเล แพลงก์ตอนพืชมีสารสีเขียวที่เรียกว่า “คลอโรฟิลล์” ซึ่งทำหน้าที่ดูดกลืนแสงแดดเพื่อใช้ในการสังเคราะห์แสง เมื่อแพลงก์ตอนพืชมีจำนวนมาก น้ำทะเลบริเวณนั้นก็จะยิ่งมีสีเขียวชัดเจนขึ้น

ปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อสีสัน

นอกจากแสงแดดและแพลงก์ตอนพืชแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อสีสันของท้องทะเล เช่น

  • ความลึกของน้ำ: ยิ่งน้ำลึก แสงแดดก็ยิ่งส่องลงไปได้น้อย ทำให้น้ำทะเลมีสีเข้มขึ้น
  • ตะกอน: ตะกอนดิน ทราย หรือโคลน ที่ถูกพัดพามาจากแม่น้ำหรือชายฝั่ง สามารถทำให้น้ำทะเลมีสีขุ่นหรือเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลได้
  • สิ่งปนเปื้อน: สารเคมีหรือของเสียที่ถูกปล่อยลงสู่ทะเล อาจส่งผลต่อปริมาณและชนิดของแพลงก์ตอนพืช ซึ่งส่งผลต่อสีสันของน้ำทะเลได้เช่นกัน

ความมหัศจรรย์ที่ซ่อนอยู่

สีสันอันหลากหลายของท้องทะเลไม่เพียงแต่สร้างความสวยงามตระการตา แต่ยังสะท้อนถึงความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศทางทะเลอีกด้วย การทำความเข้าใจเกี่ยวกับปัจจัยที่ส่งผลต่อสีสันของท้องทะเล จะช่วยให้เราสามารถอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลอันมีค่านี้ไว้ให้คงอยู่ต่อไป

#ทะเล #สีฟ้า #สีเขียว #วิทยาศาสตร์

บทความน่าสนใจ

บทความยอดนิยมตลอดกาล

บทความที่อยู่ในกระแส