หลังจากที่ลดลงอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายเดือน อัตราการตัดไม้ทำลายป่าในพื้นที่ป่าแอมะซอนของบราซิลกลับเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้งในเดือนกุมภาพันธ์ 2023 นับเป็นครั้งแรกภายใต้การนำของประธานาธิบดีลูอิส อีนาซียู ลูลา ดา ซิลวา ซึ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยข้อมูลจากระบบเตือนภัยการตัดไม้ทำลายป่าแบบเรียลไทม์ DETER ของสถาบันวิจัยอวกาศแห่งชาติบราซิล (INPE) เปิดเผยว่า ในเดือนกุมภาพันธ์ 2023 มีพื้นที่ป่าแอมะซอนถูกทำลายไปกว่า 322 ตารางกิโลเมตร เพิ่มขึ้นถึง 62% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
การตัดไม้ทำลายป่าที่เพิ่มขึ้นนี้ สร้างความกังวลอย่างมากต่อนักสิ่งแวดล้อมและนักวิทยาศาสตร์ เนื่องจากป่าแอมะซอนเป็นป่าฝนเขตร้อนขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และมีบทบาทสำคัญในการควบคุมสภาพภูมิอากาศโลก โดยป่าแห่งนี้ดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จำนวนมหาศาล ช่วยลดภาวะโลกร้อน
แม้ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปว่าการตัดไม้ทำลายป่าที่เพิ่มขึ้นนี้เป็นผลมาจากนโยบายของรัฐบาลลูลาโดยตรง แต่นักวิเคราะห์หลายคนมองว่าเป็นสัญญาณที่น่ากังวล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงคำมั่นสัญญาของลูลาในการยุติการตัดไม้ทำลายป่าในแอมะซอนภายในปี 2030
ตารางแสดงอัตราการตัดไม้ทำลายป่าในแอมะซอน (ตารางกิโลเมตร)
เดือน | 2022 | 2023 | % เปลี่ยนแปลง |
---|---|---|---|
มกราคม | 167 | 113 | -32% |
กุมภาพันธ์ | 199 | 322 | +62% |
มีปัจจัยหลายอย่างที่อาจอยู่เบื้องหลังการตัดไม้ทำลายป่าที่เพิ่มขึ้นนี้ เช่น
- การบังคับใช้กฎหมายสิ่งแวดล้อมที่ลดลง
- ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทางการเกษตรที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นแรงจูงใจให้มีการบุกรุกพื้นที่ป่าเพื่อทำการเกษตร
- การเปลี่ยนแปลงนโยบายของรัฐบาล
การตัดไม้ทำลายป่าในแอมะซอนเป็นปัญหาที่ซับซ้อนและท้าทาย ซึ่งต้องอาศัยความพยายามร่วมกันจากหลายภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนทั่วไป ในการแก้ไขปัญหานี้อย่างยั่งยืน
ข้อมูลจาก: INPE (Instituto Nacional de Pesquisas Espaciais) - Brazil
#แอมะซอน #บราซิล