พระนางคลีโอพัตราที่ 7 ฟิโลพาเตอร์ (69 - 30 ปีก่อนคริสตกาล) ปรากฏพระนามในประวัติศาสตร์ในฐานะ "คลีโอพัตรา" พระองค์ทรงเป็นฟาโรห์องค์สุดท้ายแห่งอียิปต์โบราณ พระนามของพระองค์ไม่ได้เป็นเพียงสัญลักษณ์ของความงามอันเลื่องชื่อเท่านั้น หากแต่ยังสะท้อนถึงพระปรีชาสามารถในการเมืองและการทูต ซึ่งส่งผลต่อประวัติศาสตร์ของทั้งอียิปต์และจักรวรรดิโรมันอย่างใหญ่หลวง บทความนี้จะพาคุณย้อนรอยพระราชประวัติของพระนาง ตั้งแต่การขึ้นครองราชย์ การช่วงชิงอำนาจ จนถึงจุดจบอันน่าเศร้า พร้อมเผยให้เห็นถึงบทบาทสำคัญของพระนางที่มีต่อประวัติศาสตร์โลก
การขึ้นครองราชย์และการแย่งชิงอำนาจ
พระนางคลีโอพัตราเสด็จพระราชสมภพในราชวงศ์ปโตเลมี ซึ่งเป็นราชวงศ์เชื้อสายกรีกที่ปกครองอียิปต์ต่อจากพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช หลังการเสด็จสวรรคตของพระราชบิดาในปี 51 ปีก่อนคริสตกาล พระนางซึ่งมีพระชนมายุเพียง 18 พรรษา ได้ขึ้นครองราชย์ร่วมกับพระอนุชา โทเลมีที่ 13 อย่างไรก็ตาม การแก่งแย่งอำนาจภายในราชสำนักส่งผลให้พระนางถูกขับไล่ออกจากอียิปต์ในปี 48 ปีก่อนคริสตกาล
สัมพันธภาพกับ Julius Caesar และการกลับคืนสู่อำนาจ
ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น จูเลียส ซีซาร์ ผู้นำแห่งโรมัน ได้เดินทางมายังอียิปต์เพื่อติดตามปอมเปย์ คู่แข่งทางการเมือง พระนางคลีโอพัตราทรงเล็งเห็นโอกาสในการกอบกู้บัลลังก์ จึงได้ลอบเข้าพบซีซาร์และทรงทำให้ซีซาร์หลงใหลในพระสิริโฉมและพระปรีชาสามารถ ซีซาร์ได้ให้การสนับสนุนพระนางในการต่อสู้แย่งชิงราชบัลลังก์กลับคืนมา และในที่สุด พระนางก็ได้ขึ้นครองราชย์เป็นฟาโรห์แห่งอียิปต์อย่างแท้จริงในปี 47 ปีก่อนคริสตกาล ความสัมพันธ์ระหว่างพระนางกับซีซาร์ได้พัฒนาไปสู่ความรัก และทั้งสองพระองค์มีพระโอรสด้วยกันหนึ่งพระองค์ คือ ซีซาร์เรียน
พันธมิตรกับ Mark Antony และจุดจบของราชวงศ์
หลังการลอบสังหารซีซาร์ในปี 44 ปีก่อนคริสตกาล พระนางคลีโอพัตราได้ให้การสนับสนุน มาร์ค แอนโทนี หนึ่งในแม่ทัพของซีซาร์ ทั้งสองได้กลายเป็นพันธมิตรทางการเมืองและคนรักกัน อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ของทั้งคู่สร้างความไม่พอใจให้กับอ็อกเทเวียน รัชทายาทของซีซาร์ จนนำไปสู่สงครามกลางเมือง กองทัพของแอนโทนีและพระนางคลีโอพัตราพ่ายแพ้ต่อกองทัพของอ็อกเทเวียนในยุทธนาวีที่อActium แอนโทนีและพระนางคลีโอพัตราตัดสินพระทัยปลิดพระชนม์เองในปี 30 ปีก่อนคริสตกาล นับเป็นการสิ้นสุดราชวงศ์ปโตเลมีและการผนวกอียิปต์เข้าเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิโรมัน
มรดกของพระนางคลีโอพัตรา
พระนางคลีโอพัตรายังคงเป็นบุคคลในประวัติศาสตร์ที่ได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง พระนางเป็นสัญลักษณ์ของสตรีผู้ทรงอำนาจ พระปรีชาสามารถในการทูตและการเมืองของพระนางทำให้พระนางสามารถรักษาเอกราชของอียิปต์ไว้ได้ในช่วงเวลาที่จักรวรรดิโรมันกำลังแผ่อิทธิพล อย่างไรก็ตาม พระนางก็ถูกมองว่าเป็นผู้หญิงที่เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมและใช้อำนาจในทางที่ผิด เรื่องราวของพระนางยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้กับงานวรรณกรรม ละครเวที และภาพยนตร์มากมายในปัจจุบัน
ข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับพระนางคลีโอพัตรา
- พระนางคลีโอพัตราไม่ได้เป็นชาวอียิปต์แท้ แต่สืบเชื้อสายมาจากราชวงศ์ปโตเลมี ซึ่งเป็นชาวกรีก
- พระนางทรงเป็นฟาโรห์องค์แรกในราชวงศ์ปโตเลมีที่สามารถตรัสภาษาอียิปต์ได้
- นอกจากภาษาอียิปต์แล้ว พระนางยังทรงเชี่ยวชาญในภาษาอื่น ๆ อีกหลายภาษา รวมถึง กรีก ละติน เปอร์เซีย และเอธิโอเปีย
เหตุการณ์สำคัญ | ปี (ก่อนคริสตกาล) |
---|---|
พระนางคลีโอพัตราเสด็จพระราชสมภพ | 69 |
ขึ้นครองราชย์ร่วมกับพระอนุชา โทเลมีที่ 13 | 51 |
ถูกขับไล่ออกจากอียิปต์ | 48 |
พบกับ Julius Caesar และกลับคืนสู่อำนาจ | 47 |
Julius Caesar ถูกลอบสังหาร | 44 |
พบกับ Mark Antony และสร้างพันธมิตร | 41 |
พ่ายแพ้ในยุทธนาวีที่ Actium | 31 |
พระนางคลีโอพัตราและ Mark Antony ปลิดพระชนม์เอง | 30 |
แม้เวลาจะผ่านไปกว่าสองพันปี แต่พระนามของ "คลีโอพัตรา" ยังคงดังก้องอยู่ในฐานะสัญลักษณ์ของสตรีผู้ทรงอำนาจ พระปรีชาสามารถ และความงามอันเป็นตำนาน พระองค์คือฟาโรห์หญิงผู้ยิ่งใหญ่ ผู้ซึ่งพระนามของพระองค์จะถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์โลกตลอดกาล
#คลีโอพัตรา #อียิปต์โบราณ #ประวัติศาสตร์ #โรมัน