17 กรกฎาคม 2566

ศักยภาพของถ่านชีวภาพจากเตาเผาเคลื่อนที่ขนาดเล็ก: นวัตกรรมเพื่อการเกษตรและการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ศักยภาพของถ่านชีวภาพจากเตาเผาเคลื่อนที่ขนาดเล็ก: นวัตกรรมเพื่อการเกษตรและการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ศักยภาพของถ่านชีวภาพจากเตาเผาเคลื่อนที่ขนาดเล็ก: นวัตกรรมเพื่อการเกษตรและการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ในยุคสมัยที่โลกกำลังเผชิญกับวิกฤตการณ์ด้านสิ่งแวดล้อม การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติ การแสวงหานวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ยั่งยืนจึงกลายเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งยวด ในภาคการเกษตร ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของความมั่นคงทางอาหารของโลก กำลังเผชิญกับความท้าทานจากผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นภัยแล้ง น้ำท่วม หรือการเสื่อมโทรมของดิน หนึ่งในแนวทางแก้ไขปัญหาที่ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง คือ การนำเอา "ถ่านชีวภาพ" (Biochar) มาประยุกต์ใช้

ถ่านชีวภาพ: สารพัดประโยชน์จากของเหลือทางการเกษตร

ถ่านชีวภาพ คือ ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากกระบวนการเผาไหม้แบบไร้อากาศหรือมีออกซิเจนต่ำ (Pyrolysis) ของวัสดุชีวภาพ เช่น เศษไม้ กิ่งไม้ ฟางข้าว หรือแกลบ กระบวนการนี้จะเปลี่ยนวัสดุชีวภาพให้กลายเป็นถ่านที่มีรูพรุนสูง มีพื้นที่ผิวมาก และอุดมไปด้วยธาตุอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อพืช

จากงานวิจัย "Characterization of Biochar Produced in a Mobile Handmade Kiln from Small-Sized Waste Biomass for Agronomic and Climate Change Benefits" ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Agronomy, Vol. 14, Pages 1861 ได้นำเสนอถึงศักยภาพของการผลิตถ่านชีวภาพจากเตาเผาเคลื่อนที่ขนาดเล็ก โดยใช้ของเหลือทางการเกษตรเป็นวัตถุดิบ ซึ่งเป็นแนวคิดที่น่าสนใจอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นการนำเอาทรัพยากรที่มีอยู่แล้วในท้องถิ่นมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ช่วยลดปัญหาการเผาในที่โล่งแจ้ง อันเป็นสาเหตุของมลพิษทางอากาศ และยังช่วยลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกได้อีกด้วย

ข้อดีของเตาเผาเคลื่อนที่ขนาดเล็ก

เตาเผาเคลื่อนที่ขนาดเล็กมีข้อดีหลายประการ อาทิเช่น

  • สะดวกต่อการเคลื่อนย้าย สามารถนำไปใช้ผลิตถ่านชีวภาพได้ในพื้นที่ห่างไกลหรือพื้นที่ที่มีข้อจำกัด
  • ใช้เงินลงทุนต่ำ เหมาะสำหรับเกษตรกรรายย่อย
  • ควบคุมคุณภาพของถ่านชีวภาพได้ง่าย

ประโยชน์ของถ่านชีวภาพต่อภาคการเกษตร

ถ่านชีวภาพมีประโยชน์ต่อภาคการเกษตรอย่างมากมาย ดังนี้

  1. ปรับปรุงโครงสร้างดิน: ถ่านชีวภาพช่วยเพิ่มความพรุนของดิน ทำให้อากาศและน้ำไหลเวียนได้ดีขึ้น ส่งผลให้รากพืชเจริญเติบโตได้ดี
  2. เพิ่มความสามารถในการอุ้มน้ำของดิน: รูพรุนในถ่านชีวภาพสามารถกักเก็บน้ำไว้ได้มากขึ้น ช่วยลดปัญหาดินแห้งแล้ง
  3. เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์: ถ่านชีวภาพเป็นที่อยู่อาศัยและอาหารของจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ต่อดิน ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืช
  4. ลดการชะล้างและสูญเสียธาตุอาหาร: ถ่านชีวภาพช่วยจับยึดธาตุอาหารในดิน ป้องกันการชะล้างและสูญเสียธาตุอาหารไปกับน้ำ

ถ่านชีวภาพกับการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

นอกจากประโยชน์ต่อภาคการเกษตรแล้ว ถ่านชีวภาพยังมีบทบาทสำคัญในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีที่สามารถกักเก็บคาร์บอนในดินได้ในระยะยาว ช่วยลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศ

ปริมาณถ่านชีวภาพที่ใส่ลงในดิน (ตัน/ไร่) ปริมาณคาร์บอนที่กักเก็บได้ (ตันคาร์บอน/ไร่)
1 0.5 - 1.0
2 1.0 - 2.0
3 1.5 - 3.0

จากตารางข้างต้น แสดงให้เห็นว่าการใส่ถ่านชีวภาพลงในดินสามารถกักเก็บคาร์บอนได้ในปริมาณมาก ยิ่งใส่ถ่านชีวภาพลงในดินมากเท่าไร ก็ยิ่งสามารถกักเก็บคาร์บอนได้มากขึ้นเท่านั้น

สรุป

ถ่านชีวภาพที่ผลิตจากเตาเผาเคลื่อนที่ขนาดเล็ก โดยใช้ของเหลือทางการเกษตรเป็นวัตถุดิบ นับเป็นนวัตกรรมที่น่าสนใจและมีศักยภาพอย่างยิ่งในการพัฒนาภาคการเกษตรอย่างยั่งยืน ช่วยเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน เพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร และยังเป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

#ถ่านชีวภาพ #เกษตรยั่งยืน #นวัตกรรม #สิ่งแวดล้อม

บทความน่าสนใจ

บทความยอดนิยมตลอดกาล

บทความที่อยู่ในกระแส