29 พฤษภาคม 2567

ปานแดงในทารก: ทำความเข้าใจกับความจริงเบื้องหลังตัวเลข 10%


ปานแดงในทารก: ทำความเข้าใจกับความจริงเบื้องหลังตัวเลข 10%

ปานแดงในทารก: ทำความเข้าใจกับความจริงเบื้องหลังตัวเลข 10%

คุณรู้หรือไม่ว่า ทารกแรกเกิดประมาณ 10% จะมีปานแดงปรากฏขึ้นบนร่างกายอย่างน้อย 1 แห่ง? ตัวเลขนี้ชี้ให้เห็นว่า ปานแดงเป็นภาวะที่พบได้บ่อยในเด็กทารก แต่ความเข้าใจเกี่ยวกับปานแดง รวมถึงสาเหตุและวิธีการดูแลรักษาอย่างถูกต้อง ยังคงเป็นประเด็นที่พ่อแม่ผู้ปกครองหลายคนตั้งคำถาม บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจข้อเท็จจริงเบื้องหลังตัวเลข 10% นี้ เพื่อคลายความกังวลและเสริมความมั่นใจในการดูแลลูกน้อยของคุณ

ปานแดงคืออะไร? ทำไมจึงเกิดขึ้นกับทารก?

ปานแดง (Hemangioma)

คือ ก้อนเนื้อสีแดงหรือสีม่วงอมน้ำเงิน เกิดจากการเจริญเติบโตที่ผิดปกติของเส้นเลือดฝอยบริเวณผิวหนังหรืออวัยวะภายใน มักปรากฏขึ้นในช่วงสัปดาห์แรกหลังคลอด และมีแนวโน้มขยายขนาดขึ้นในช่วง 6-12 เดือนแรก

แม้สาเหตุที่แน่ชัดของการเกิดปานแดงยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่จากการศึกษาพบว่าปัจจัยต่อไปนี้อาจมีส่วนเกี่ยวข้อง:

  • พันธุกรรม
  • ฮอร์โมนเอสโตรเจนในครรภ์
  • การคลอดก่อนกำหนด
  • น้ำหนักแรกเกิดน้อย
  • การตั้งครรภ์แฝด

ประเภทของปานแดง

ปานแดงสามารถแบ่งออกเป็นประเภทต่างๆ ตามลักษณะและตำแหน่งที่เกิด ได้แก่:

ประเภท ลักษณะ ตำแหน่งที่พบบ่อย
ปานแดงชนิดผิวเผิน (Superficial Hemangioma) สีแดงสด นูนขึ้นมาจากผิวหนัง ใบหน้า หนังศีรษะ ลำตัว
ปานแดงชนิดลึก (Deep Hemangioma) สีม่วงอมน้ำเงิน อยู่ใต้ผิวหนัง ชั้นไขมันใต้ผิวหนัง กล้ามเนื้อ
ปานแดงชนิดผสม (Combined Hemangioma) ลักษณะผสมระหว่างชนิดผิวเผินและชนิดลึก ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่เกิด

ปานแดงอันตรายหรือไม่? จำเป็นต้องรักษาอย่างไร?

ในกรณีส่วนใหญ่ ปานแดงมักไม่เป็นอันตรายและจะค่อยๆ จางหายไปเองภายในอายุ 5-10 ปี โดยไม่ทิ้งรอยแผลเป็น อย่างไรก็ตาม ปานแดงบางชนิดอาจส่งผลต่อการมองเห็น การได้ยิน การหายใจ การรับประทานอาหาร หรือการทำงานของอวัยวะอื่นๆ ดังนั้น การตรวจติดตามอาการอย่างใกล้ชิดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจึงเป็นสิ่งสำคัญ

การรักษาปานแดงมีหลายวิธีขึ้นอยู่กับขนาด ตำแหน่ง และความรุนแรงของอาการ ได้แก่:

  • การเฝ้าติดตามอาการ
  • การใช้ยาทา
  • การฉีดยา
  • การผ่าตัด
  • การรักษาด้วยเลเซอร์

Fun Facts เกี่ยวกับปานแดง

  • เด็กผู้หญิงมีโอกาสเกิดปานแดงมากกว่าเด็กผู้ชายถึง 3-5 เท่า
  • ปานแดงที่เกิดขึ้นบนใบหน้ามีโอกาสหายไปเองได้เร็วกว่าบริเวณอื่นๆ
  • แม้ปานแดงส่วนใหญ่จะไม่เป็นอันตราย แต่ควรปรึกษาแพทย์หากพบว่าปานแดงมีการเปลี่ยนแปลง เช่น มีเลือดออก เป็นแผล หรือมีขนาดใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว

สุดท้ายนี้ แม้ปานแดงจะเป็นภาวะที่พบได้บ่อยในเด็กทารก แต่ความเข้าใจอย่างถูกต้องเกี่ยวกับสาเหตุ ประเภท วิธีการดูแลรักษา รวมถึงการปรึกษาแพทย์อย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้พ่อแม่สามารถดูแลลูกน้อยได้อย่างมั่นใจ และช่วยให้เด็กๆ เติบโตขึ้นอย่างแข็งแรงสมวัย


#ปานแดง #Hemangioma #เด็กทารก #สุขภาพเด็ก

บทความน่าสนใจ

บทความยอดนิยมตลอดกาล

บทความที่อยู่ในกระแส