27 เมษายน 2566

ไข้ฝีดาษลิงระบาดหนักอีกครั้ง แต่หลายคนกลับลืมโรคนี้ไปแล้ว

ไข้ฝีดาษลิงระบาดหนักอีกครั้ง แต่หลายคนกลับลืมโรคนี้ไปแล้ว

ไข้ฝีดาษลิงระบาดหนักอีกครั้ง แต่หลายคนกลับลืมโรคนี้ไปแล้ว

ไข้ฝีดาษลิงระบาดหนักอีกครั้ง แต่หลายคนกลับลืมโรคนี้ไปแล้ว

หลังจากที่สถานการณ์โรคไข้ฝีดาษลิง หรือ Mpox เคยทุเลาลงในช่วงปลายปี 2022 ล่าสุดองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ออกประกาศเตือนถึงการแพร่ระบาดระลอกใหม่ที่น่ากังวล โดยพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในหลายภูมิภาคทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย

ข้อมูลจาก WHO ระบุว่า ตั้งแต่ต้นปี 2023 เป็นต้นมา พบผู้ป่วยไข้ฝีดาษลิงแล้วกว่า 15,000 ราย ใน 70 ประเทศทั่วโลก โดยภูมิภาคที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดคือ แอฟริกาตะวันตก และแอฟริกากลาง ซึ่งมีรายงานผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังพบการระบาดในกลุ่มประเทศที่ไม่เคยมีรายงานผู้ป่วยมาก่อน เช่น ประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และอเมริกาใต้

สาเหตุของการระบาดระลอกใหม่

แม้จะยังไม่สามารถระบุสาเหตุที่แน่ชัดของการระบาดระลอกใหม่ได้ แต่ผู้เชี่ยวชาญหลายคนเชื่อว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้โรคกลับมาระบาดอีกครั้ง มีดังนี้

  • การลดลงของภูมิคุ้มกันโรค หลังจากที่เคยติดเชื้อในช่วงการระบาดครั้งก่อน
  • การผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรค เช่น การยกเลิกข้อกำหนดในการสวมหน้ากากอนามัย และการเว้นระยะห่างทางสังคม
  • การเดินทางระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้น ทำให้เชื้อโรคแพร่กระจายไปยังภูมิภาคต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น
  • การขาดความตระหนักรู้เกี่ยวกับโรค หลังจากที่สถานการณ์เคยคลี่คลายลง หลายคนอาจหลงลืมวิธีป้องกัน และไม่ตระหนักถึงอันตรายของโรค

ไข้ฝีดาษลิง อันตรายแค่ไหน?

ไข้ฝีดาษลิง เป็นโรคติดเชื้อไวรัสที่สามารถแพร่ระบาดจากสัตว์สู่คน และจากคนสู่คนได้ โดยมีอาการเบื้องต้นคล้ายกับไข้หวัดใหญ่ เช่น มีไข้ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามร่างกาย ต่อมน้ำท่วมโต และอ่อนเพลีย หลังจากนั้น 1-3 วัน จะมีผื่นขึ้นตามร่างกาย โดยเริ่มจากใบหน้าก่อน แล้วจึงล spreading to other parts of the body, particularly the palms of the hands and soles of the feet.

แม้ว่าอัตราการเสียชีวิตจากโรคไข้ฝีดาษลิงจะต่ำกว่าโรคฝีดาษ (Smallpox) มาก แต่ก็ยังถือว่าเป็นโรคที่อันตราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็กเล็ก สตรีมีครรภ์ ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง

กลุ่มเสี่ยง ความเสี่ยง
เด็กเล็ก มีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงได้ง่ายกว่า
สตรีมีครรภ์ อาจทำให้แท้งบุตร หรือทารกแรกเกิดมีความผิดปกติได้
ผู้สูงอายุ ร่างกายฟื้นตัวช้า และมีโอกาสเกิดโรคแทรกซ้อนสูง
ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง ร่างกายต่อสู้กับเชื้อโรคได้ยาก อาจทำให้เสียชีวิตได้

วิธีป้องกันตนเองจากไข้ฝีดาษลิง

แม้ว่าปัจจุบันจะมีวัคซีนป้องกันโรคไข้ฝีดาษลิงแล้ว แต่การป้องกันตนเองด้วยวิธีง่าย ๆ ก็ยังคงเป็นสิ่งสำคัญ เช่น

  • ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่และน้ำ หรือใช้เจลแอลกอฮอล์ทำความสะอาดมือ
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย หรือผู้ที่มีผื่นหรือแผลที่น่าสงสัย
  • ไม่ใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่น ผ้าเช็ดตัว แก้วน้ำ
  • ทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัสต่าง ๆ เป็นประจำ เช่น ลูกบิดประตู โต๊ะ เก้าอี้
  • รับประทานอาหารปรุงสุกใหม่ ๆ
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ
  • พักผ่อนให้เพียงเพียง
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

หากท่านมีอาการป่วยที่สงสัยว่าอาจจะเป็นไข้ฝีดาษลิง ควรรีบไปพบแพทย์ทันที เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย และรักษาอย่างถูกต้องต่อไป

#สุขภาพ #โรคระบาด #ไข้ฝีดาษลิง #Mpox

บทความน่าสนใจ

บทความยอดนิยมตลอดกาล

บทความที่อยู่ในกระแส