08 มกราคม 2566

อาการตัวเหลืองในทารกแรกเกิด

อาการตัวเหลืองในทารกแรกเกิด

อาการตัวเหลืองในทารกแรกเกิด

อาการตัวเหลืองเป็นภาวะที่พบได้บ่อยในทารกแรกเกิด โดยเฉพาะในทารกที่คลอดก่อนกำหนด ภาวะนี้เกิดจากการมีสารสีเหลืองที่เรียกว่า บิลิรูบิน (Bilirubin) ในเลือดสูงกว่าปกติ บิลิรูบินเป็นสารที่เกิดจากการสลายตัวของเม็ดเลือดแดง ซึ่งเป็นกระบวนการปกติของร่างกาย โดยทั่วไปตับจะเป็นอวัยวะที่ทำหน้าที่กำจัดบิลิรูบินออกจากร่างกาย แต่ในทารกแรกเกิดนั้นตับยังทำงานได้ไม่เต็มที่ ทำให้ไม่สามารถกำจัดบิลิรูบินได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงเกิดการสะสมของบิลิรูบินในเลือดและเนื้อเยื่อต่างๆ ทำให้ผิวหนังและตาขาวเป็นสีเหลือง

สาเหตุของอาการตัวเหลืองในทารกแรกเกิด

  1. ภาวะตัวเหลืองตามปกติ (Physiological Jaundice): เป็นภาวะที่พบได้บ่อยที่สุด มักจะปรากฏขึ้นเมื่อทารกอายุ 2-4 วัน และจะหายไปเองภายใน 1-2 สัปดาห์ เกิดจากการที่ทารกมีเม็ดเลือดแดงมากในช่วงแรกเกิด และตับยังทำงานได้ไม่เต็มที่ในการกำจัดบิลิรูบินที่เกิดจากการสลายตัวของเม็ดเลือดแดง
  2. ภาวะตัวเหลืองจากนมแม่ (Breast Milk Jaundice): พบได้ประมาณ 1-2% ของทารกที่กินนมแม่ มักจะปรากฏขึ้นเมื่อทารกอายุ 3-5 วัน และอาจจะเป็นอยู่ได้นานหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน สาเหตุยังไม่แน่ชัด แต่เชื่อว่าอาจเกิดจากสารบางอย่างในน้ำนมแม่ที่ไปยับยั้งการทำงานของตับในการกำจัดบิลิรูบิน
  3. ภาวะตัวเหลืองจากความผิดปกติอื่นๆ: เช่น
    • ความผิดปกติของเม็ดเลือดแดง เช่น ภาวะพร่องเอนไซม์ G6PD (Glucose-6-Phosphate Dehydrogenase Deficiency)
    • ความผิดปกติของตับ เช่น ตับอักเสบ
    • การติดเชื้อ
    • ภาวะพร่องไทรอยด์ฮอร์โมน

อาการของอาการตัวเหลืองในทารกแรกเกิด

อาการที่พบบ่อยที่สุดคือ ผิวหนังและตาขาวเป็นสีเหลือง โดยจะเริ่มเหลืองที่ใบหน้าก่อน แล้วจึงลามไปที่หน้าอก ท้อง แขน ขา และฝ่าเท้า ในรายที่รุนแรง อาจพบอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ซึม ไม่ดูดนม มีไข้ ตัวเขียว อาเจียน

การวินิจฉัยอาการตัวเหลืองในทารกแรกเกิด

แพทย์จะทำการวินิจฉัยโดยการซักประวัติ ตรวจร่างกาย และอาจเจาะเลือดเพื่อตรวจระดับบิลิรูบินในเลือด

การรักษาอาการตัวเหลืองในทารกแรกเกิด

การรักษาขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของโรค ในรายที่เป็นไม่รุนแรง อาจไม่จำเป็นต้องรักษา เพียงแต่ให้ทารกได้รับนมแม่อย่างเพียงพอ และสัมผัสแสงแดดอ่อนๆ ในช่วงเช้าและเย็น ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายกำจัดบิลิรูบินได้ดีขึ้น ส่วนในรายที่รุนแรง อาจจำเป็นต้องรักษาด้วยการส่องไฟ (Phototherapy) หรือการถ่ายเลือด (Exchange Transfusion)

ภาวะแทรกซ้อน

ภาวะแทรกซ้อนของภาวะตัวเหลืองในทารกแรกเกิดที่รุนแรงและไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจส่งผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้เกิดภาวะสมองพิการ ชัก หรือเสียชีวิตได้

การป้องกัน

การป้องกันที่ดีที่สุดคือ การให้ทารกได้รับนมแม่อย่างเพียงพอตั้งแต่แรกเกิด เนื่องจากนมแม่จะช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้ ทำให้ทารกขับถ่ายขี้เทา (Meconium) ซึ่งมีบิลิรูบินปนออกมาได้มากขึ้น นอกจากนี้ควรพาทารกไปพบแพทย์ตามนัดหมายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อตรวจสุขภาพและติดตามระดับบิลิรูบินในเลือด

ข้อมูลทางสถิติ

  • ประมาณ 60% ของทารกครบกำหนดและ 80% ของทารกคลอดก่อนกำหนดจะมีอาการตัวเหลือง
  • ภาวะตัวเหลืองตามปกติมักไม่รุนแรงและหายไปเองภายใน 1-2 สัปดาห์
  • ภาวะตัวเหลืองจากนมแม่พบได้ประมาณ 1-2% ของทารกที่กินนมแม่

ข้อมูลน่าเหลือเชื่อ (Fun Fact)

แสงแดดอ่อนๆ ในช่วงเช้าและเย็นมีประโยชน์ต่อทารกที่มีอาการตัวเหลือง เนื่องจากแสงแดดจะช่วยเปลี่ยนโครงสร้างของบิลิรูบินในผิวหนัง ทำให้ร่างกายกำจัดออกได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ตาม ไม่ควรให้ทารกถูกแสงแดดจัดเป็นเวลานาน เพราะอาจทำให้ผิวไหม้ได้

งานวิจัย

มีงานวิจัยหลายชิ้นที่ศึกษาเกี่ยวกับอาการตัวเหลืองในทารกแรกเกิด เช่น งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Pediatrics ในปี 2015 พบว่า การให้ทารกได้รับนมแม่ตั้งแต่แรกเกิด สามารถลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะตัวเหลืองในทารกได้

ข้อมูลอ้างอิง

  • American Academy of Pediatrics. (2015). Jaundice in healthy newborns. Pediatrics, 136(3), e763-e781.

#ทารกแรกเกิด #ตัวเหลือง #สุขภาพเด็ก #นมแม่

บทความน่าสนใจ

บทความยอดนิยมตลอดกาล

บทความที่อยู่ในกระแส