08 มกราคม 2566

อะไรคือผลกระทบของการบูมสาหร่ายต่อสิ่งแวดล้อมทางน้ำ?

อะไรคือผลกระทบของการบูมสาหร่ายต่อสิ่งแวดล้อมทางน้ำ?

ปรากฏการณ์สาหร่ายสะพรั่ง หรือที่เรียกกันติดปากว่า "ขี้ปลาวาฬ" นั้น อาจดูเป็นภาพที่คุ้นตาในแม่น้ำลำคลองของประเทศไทย แต่ทราบหรือไม่ว่า เบื้องหลังความสวยงามของสีเขียวมรกตนี้ แฝงไปด้วยภัยร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทางน้ำอย่างมหาศาล บทความนี้นำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสาเหตุ ผลกระทบ และแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าว เพื่อสร้างความตระหนักและร่วมกันอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำอันล้ำค่าของไทย

สาหร่ายสะพรั่ง เกิดขึ้นได้อย่างไร?

สาหร่ายสะพรั่ง เกิดจากการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วของสาหร่ายบางชนิด โดยเฉพาะสาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงิน (blue-green algae) หรือที่รู้จักกันในชื่อ ไซยาโนแบคทีเรีย (cyanobacteria) ปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้เกิดปรากฏการณ์นี้ ได้แก่

  1. ธาตุอาหารปริมาณมาก: การปล่อยน้ำเสียจากแหล่งชุมชน เกษตรกรรม และอุตสาหกรรม นำพาเอาธาตุอาหารสำคัญอย่างไนโตรเจนและฟอสฟอรัสลงสู่แหล่งน้ำ กลายเป็นอาหารชั้นดีที่กระตุ้นการเจริญเติบโตของสาหร่ายอย่างรวดเร็ว
  2. แสงแดด: ประเทศไทยตั้งอยู่ในเขตร้อนชื้น มีแสงแดดจัดจ้าตลอดทั้งปี ซึ่งเอื้อต่อการสังเคราะห์แสงของสาหร่าย
  3. อุณหภูมิ: อุณหภูมิที่สูงขึ้นของน้ำ เป็นผลมาจากภาวะโลกร้อน ยิ่งกระตุ้นให้สาหร่ายเติบโตอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น
  4. การไหลเวียนของน้ำ: แหล่งน้ำนิ่ง เช่น อ่างเก็บน้ำ บึง หรือแม่น้ำที่ไหลช้า เอื้อต่อการสะสมของธาตุอาหารและสาหร่ายมากกว่าแหล่งน้ำไหล

ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทางน้ำ

สาหร่ายสะพรั่ง ไม่ใช่เพียงแค่ทำให้แหล่งน้ำดูไม่น่ามองเท่านั้น แต่ยังก่อให้เกิดผลกระทบต่อระบบนิเวศในน้ำอย่างรุนแรง ดังนี้

1. ปริมาณออกซิเจนในน้ำลดลง

เมื่อสาหร่ายเหล่านี้ตายลง แบคทีเรียในน้ำจะทำการย่อยสลายซาก กระบวนการนี้ใช้ออกซิเจนจำนวนมหาศาล ส่งผลให้ปริมาณออกซิเจนในน้ำลดต่ำลงอย่างรวดเร็ว เป็นอันตรายต่อสัตว์น้ำอื่นๆ เช่น ปลา กุ้ง หอย จนอาจทำให้เกิดปรากฏการณ์ “ปลาตายยกบ่อ”

2. สารพิษจากสาหร่าย

สาหร่ายบางชนิด โดยเฉพาะไซยาโนแบคทีเรีย สามารถผลิตสารพิษที่เป็นอันตรายต่อทั้งคนและสัตว์ การสัมผัส สูดดม หรือบริโภคน้ำที่มีสารพิษเหล่านี้ปนเปื้อน อาจก่อให้เกิดอาการระคายเคืองผิว ท้องร่วง ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน หรือรุนแรงถึงขั้นระบบหายใจล้มเหลวและเสียชีวิตได้

3. ผลกระทบต่อห่วงโซ่อาหาร

การลดลงของสัตว์น้ำ ส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อาหารในระบบนิเวศ สัตว์นักล่าที่ต้องพึ่งพาสัตว์น้ำเหล่านี้เป็นอาหาร เช่น นกน้ำ งู หรือแม้กระทั่งมนุษย์ ต่างได้รับผลกระทบโดยตรง

4. ผลกระทบทางเศรษฐกิจ

สาหร่ายสะพรั่งส่งผลกระทบต่อการประมง การท่องเที่ยว และการใช้น้ำในภาคส่วนต่างๆ เช่น

  • การประมง: ปริมาณสัตว์น้ำลดลง ส่งผลกระทบโดยตรงต่อรายได้ของชาวประมง รวมถึงอุตสาหกรรมแปรรูปสัตว์น้ำ
  • การท่องเที่ยว: แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ได้รับผลกระทบจากสาหร่ายสะพรั่ง สูญเสียความสวยงามและความน่าสนใจ ส่งผลกระทบต่อรายได้จากการท่องเที่ยว
  • การใช้น้ำ: น้ำที่ปนเปื้อนสารพิษจากสาหร่าย ไม่สามารถนำมาใช้ในการอุปโภคบริโภค การเกษตร หรืออุตสาหกรรมได้อย่างปลอดภัย

แนวทางการแก้ไขและป้องกัน

การแก้ไขปัญหาสาหร่ายสะพรั่งอย่างยั่งยืน จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เริ่มตั้งแต่การควบคุมต้นกำเนิดมลพิษ ฟื้นฟูคุณภาพน้ำ และสร้างความตระหนักรู้ให้กับประชาชน ตัวอย่างแนวทางแก้ไขปัญหา ได้แก่

  1. บำบัดน้ำเสีย: ส่งเสริมการบำบัดน้ำเสียจากแหล่งกำเนิด ทั้งจากชุมชน เกษตรกรรม และอุตสาหกรรม ก่อนปล่อยลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ
  2. ควบคุมการใช้ปุ๋ย: ส่งเสริมการใช้ปุ๋ยอย่างมีประสิทธิภาพ เลือกใช้ปุ๋ยอินทรีย์ และหลีกเลี่ยงการใช้ปุ๋ยเคมีมากเกินไป
  3. ฟื้นฟูแหล่งน้ำ: เพิ่มพื้นที่สีเขียว ปลูกพืชริมน้ำ และสร้างระบบนิเวศจำลอง เพื่อช่วยดูดซับธาตุอาหารส่วนเกินในน้ำ
  4. สร้างความตระหนักรู้: ให้ความรู้เกี่ยวกับสาเหตุ ผลกระทบ และแนวทางการป้องกันสาหร่ายสะพรั่งแก่ประชาชน เพื่อสร้างความร่วมมือในการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ

สรุป

สาหร่ายสะพรั่งเป็นภัยคุกคามต่อสิ่งแวดล้อมทางน้ำ ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ เศรษฐกิจ และสุขภาพของมนุษย์ การแก้ไขปัญหาต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน เริ่มต้นจากการควบคุมมลพิษ ฟื้นฟูคุณภาพน้ำ และสร้างความตระหนักรู้ เพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรน้ำอันล้ำค่านี้ให้คงอยู่ต่อไป

#สาหร่ายสะพรั่ง #สิ่งแวดล้อมทางน้ำ #ทรัพยากรน้ำ #คุณภาพน้ำ

บทความน่าสนใจ

บทความยอดนิยมตลอดกาล

บทความที่อยู่ในกระแส