19 กันยายน 2565

อัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ ดิ่งลง 2.9% ขณะที่นายกฯ ญี่ปุ่นประกาศลาออกในเดือนกันยายน

อัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ ดิ่งลง 2.9% ขณะที่นายกฯ ญี่ปุ่นประกาศลาออกในเดือนกันยายน

อัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ ดิ่งลง 2.9% ขณะที่นายกฯ ญี่ปุ่นประกาศลาออกในเดือนกันยายน

วันที่ 14 สิงหาคม 2566 - วงการเศรษฐกิจและการเมืองโลกสั่นสะเทือนกับข่าวใหญ่ 2 เรื่อง ได้แก่ อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่ลดลงอย่างมาก และการประกาศลาออกของนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น

อัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ ลดลงแตะ 2.9%

กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่สำคัญ ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 2.9% ในเดือนกรกฎาคม 2566 ลดลงจาก 3.0% ในเดือนมิถุนายน และ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 3.1% การลดลงของอัตราเงินเฟ้อเป็นผลมาจากราคาพลังงานที่ลดลง โดยเฉพาะราคาน้ำมันดิบ นอกจากนี้ ราคาสินค้าโภคภัณฑ์อื่น ๆ เช่น อาหารและเครื่องดื่มก็ปรับตัวลดลงเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมราคาพลังงานและอาหารผันผวน ปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนกรกฎาคม สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 0.1% บ่งชี้ว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง

เดือน อัตราเงินเฟ้อ (%)
มิถุนายน 2566 3.0
กรกฎาคม 2566 2.9

นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นประกาศลาออก

นายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ประกาศลาออกจากตำแหน่ง หลังจากดำรงตำแหน่งมาเป็นเวลาเกือบ 2 ปี โดยให้เหตุผลว่าต้องการเปิดทางให้กับผู้นำคนใหม่

การลาออกของนายคิชิดะ เกิดขึ้นท่ามกลางคะแนนนิยมที่ตกต่ำ อันเนื่องมาจากปัญหาเศรษฐกิจ และ เรื่องอื้อฉาวทางการเมือง โดยพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ของเขา มีกำหนดจัดการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคคนใหม่ในเดือนกันยายน ซึ่งจะเป็นการกำหนดตัวนายกรัฐมนตรีคนต่อไปของญี่ปุ่น

นักวิเคราะห์มองว่า การลาออกของนายคิชิดะ อาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการเมืองของญี่ปุ่น

บทสรุป

ข่าวทั้งสองเรื่อง ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการเมืองโลก นักลงทุนและผู้นำโลก ต่างจับตามองสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

#เศรษฐกิจโลก #เงินเฟ้อ #ญี่ปุ่น #การเมือง

บทความน่าสนใจ

บทความยอดนิยมตลอดกาล

บทความที่อยู่ในกระแส