อัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ ดิ่งลง 2.9% ขณะที่นายกฯ ญี่ปุ่นประกาศลาออกในเดือนกันยายน
วันที่ 14 สิงหาคม 2566 - วงการเศรษฐกิจและการเมืองโลกสั่นสะเทือนกับข่าวใหญ่ 2 เรื่อง ได้แก่ อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่ลดลงอย่างมาก และการประกาศลาออกของนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น
อัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ ลดลงแตะ 2.9%
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่สำคัญ ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 2.9% ในเดือนกรกฎาคม 2566 ลดลงจาก 3.0% ในเดือนมิถุนายน และ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 3.1% การลดลงของอัตราเงินเฟ้อเป็นผลมาจากราคาพลังงานที่ลดลง โดยเฉพาะราคาน้ำมันดิบ นอกจากนี้ ราคาสินค้าโภคภัณฑ์อื่น ๆ เช่น อาหารและเครื่องดื่มก็ปรับตัวลดลงเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมราคาพลังงานและอาหารผันผวน ปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนกรกฎาคม สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 0.1% บ่งชี้ว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง
เดือน | อัตราเงินเฟ้อ (%) |
---|---|
มิถุนายน 2566 | 3.0 |
กรกฎาคม 2566 | 2.9 |
นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นประกาศลาออก
นายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ประกาศลาออกจากตำแหน่ง หลังจากดำรงตำแหน่งมาเป็นเวลาเกือบ 2 ปี โดยให้เหตุผลว่าต้องการเปิดทางให้กับผู้นำคนใหม่
การลาออกของนายคิชิดะ เกิดขึ้นท่ามกลางคะแนนนิยมที่ตกต่ำ อันเนื่องมาจากปัญหาเศรษฐกิจ และ เรื่องอื้อฉาวทางการเมือง โดยพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ของเขา มีกำหนดจัดการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคคนใหม่ในเดือนกันยายน ซึ่งจะเป็นการกำหนดตัวนายกรัฐมนตรีคนต่อไปของญี่ปุ่น
นักวิเคราะห์มองว่า การลาออกของนายคิชิดะ อาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการเมืองของญี่ปุ่น
บทสรุป
ข่าวทั้งสองเรื่อง ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการเมืองโลก นักลงทุนและผู้นำโลก ต่างจับตามองสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
#เศรษฐกิจโลก #เงินเฟ้อ #ญี่ปุ่น #การเมือง