26 มีนาคม 2567

จิตวิทยาการพนัน: ทำไมเราถึงติดกับดักแห่งความหวัง


จิตวิทยาการพนัน: ทำไมเราถึงติดกับดักแห่งความหวัง

จิตวิทยาการพนัน: ทำไมเราถึงติดกับดักแห่งความหวัง

การพนันนั้นอยู่คู่กับสังคมมนุษย์มาอย่างยาวนาน ไม่ว่าจะเป็นการเสี่ยงโชคในรูปแบบใดก็ตาม ล้วนแล้วแต่มีแรงดึงดูดใจบางอย่างที่ทำให้มนุษย์ยอมที่จะเดิมพัน แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าผลลัพธ์ที่ได้อาจไม่เป็นดังหวังเสมอไป แต่ทำไมเราถึงยอมตกหลุมพรางแห่งความหวังนี้? บทความนี้นำเสนอแง่มุมทางจิตวิทยาที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังการพนัน ซึ่งจะช่วยให้เราเข้าใจถึงกลไกภายในจิตใจที่ผลักดันให้มนุษย์เสพติดกับดักแห่งความหวังได้อย่างน่าประหลาด

1. สมองของเราถูกโปรแกรมมาเพื่อแสวงหารางวัล

ในสมองของมนุษย์มีระบบที่เรียกว่า “ระบบรางวัล” (Reward System) ซึ่งทำหน้าที่หลั่งสารโดปามีน (Dopamine) ฮอร์โมนแห่งความสุข ออกมาทุกครั้งที่เราได้รับรางวัลหรือสิ่งกระตุ้นความพึงพอใจ เช่น การรับประทานอาหารอร่อย การมีเพศสัมพันธ์ หรือแม้แต่การเล่นเกม การพนันก็เช่นกัน เมื่อเราชนะพนัน สมองจะหลั่งโดปามีนออกมา ทำให้เรารู้สึกมีความสุข ตื่นเต้น และอยากที่จะเล่นต่อไปเรื่อยๆ เพื่อให้ได้รับความรู้สึกนั้นอีก ซึ่งนี่เองที่เป็นกลไกสำคัญที่ทำให้คนติดการพนัน

2. อคติทางความคิด (Cognitive Bias) กับกับดักแห่งความหวัง

นอกจากระบบรางวัลในสมองแล้ว อคติทางความคิดก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้มนุษย์ติดกับดักแห่งความหวังในการพนัน ยกตัวอย่างเช่น

  • อคติจากการยึดติดกับข้อมูลเลือกให้เข้าข้างตนเอง (Confirmation Bias): คนที่เล่นการพนันมักจะจดจำเฉพาะครั้งที่ตนเองชนะ แต่กลับลืมหรือไม่ให้ความสำคัญกับครั้งที่แพ้ ทำให้เกิดภาพลวงตาว่าตนเองมีโอกาสชนะสูงกว่าความเป็นจริง
  • การเข้าใจผิดเกี่ยวกับความน่าจะเป็น (Gambler’s Fallacy): ผู้เล่นการพนันมักเชื่อว่า หากผลลัพธ์ก่อนหน้านี้ ออกมาในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง ผลลัพธ์ในอนาคตจะต้องออกมาตรงกันข้าม เช่น หากโยนเหรียญ 10 ครั้ง และออกมาเป็นหัวทั้งหมด พวกเขาจะเชื่อว่า ครั้งที่ 11 จะต้องออกก้อย ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว โอกาสในการออกหัวหรือก้อยในแต่ละครั้งนั้นเท่ากันเสมอ
  • ภาพลวงตาของการควบคุม (Illusion of Control): ผู้เล่นบางคนเชื่อว่าตนเองสามารถควบคุมผลลัพธ์ของการพนันได้ เช่น การเลือกเลขนำโชค การใช้วิธีการแทง หรือแม้แต่การสวมใส่เสื้อผ้า ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว การพนันส่วนใหญ่นั้นขึ้นอยู่กับโชค และไม่สามารถควบคุมได้

3. ปัจจัยทางสังคมและสิ่งแวดล้อม

ปัจจัยทางสังคมและสิ่งแวดล้อม เช่น วัฒนธรรม กลุ่มเพื่อน สภาพเศรษฐกิจ และการเข้าถึงแหล่งพนัน ก็มีส่วนสำคัญที่ทำให้คนหันไปเล่นการพนันและติดกับดักแห่งความหวังนี้ ตัวอย่างเช่น

  • ในบางวัฒนธรรม การพนันเป็นกิจกรรมที่ได้รับการยอมรับ และเป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองในโอกาสต่างๆ ซึ่งอาจทำให้คนมองว่าการพนันเป็นเรื่องปกติ
  • กลุ่มเพื่อน โดยเฉพาะกลุ่มเพื่อนที่เล่นการพนัน ก็มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของแต่ละบุคคล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มวัยรุ่น ซึ่งมักจะถูกชักชวน หรืออยากที่จะลอง เพราะกลัวว่าจะตกเทรนด์หรือดูไม่เข้าพวก
  • สภาพเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ อาจทำให้คนมองหาทางรวยทางลัด และการพนันก็เป็นหนึ่งในทางเลือกที่ดูเหมือนจะง่ายและรวดเร็ว แม้ว่าในความเป็นจริงแล้ว โอกาสที่จะสูญเสียเงินจะมีมากกว่าก็ตาม

4. การพนัน: เส้นบางๆ ระหว่างความบันเทิงกับปัญหา

การพนันในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ลอตเตอรี่ การพนันกีฬา หรือคาสิโน ล้วนแล้วแต่ถูกออกแบบมาเพื่อดึงดูดความสนใจ และกระตุ้นให้คนเล่นต่อไปเรื่อยๆ โดยใช้กลยุทธ์ทางจิตวิทยาต่างๆ เช่น แสงสีเสียง ดนตรี และรางวัล ซึ่งล้วนแล้วแต่กระตุ้นระบบรางวัลในสมอง และทำให้ผู้เล่นรู้สึกตื่นเต้น มีความสุข และอยากเล่นต่อไป แม้ว่าจะแพ้ก็ตาม

ดังนั้น สิ่งสำคัญคือ เราต้องตระหนักถึงกลไกทางจิตวิทยาและปัจจัยต่างๆ ที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการเล่นการพนัน และเรียนรู้ที่จะควบคุมตนเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การตั้งงบประมาณในการเล่น การกำหนดเวลาในการเล่น และการไม่เล่นเมื่อมีอารมณ์ จะช่วยให้เราสนุกกับการพนันได้อย่างปลอดภัย และไม่ตกเป็นเหยื่อของกับดักแห่งความหวังนี้


พฤติกรรม สัญญาณเตือน
การใช้เงิน
ใช้เงินเกินงบ, กู้ยืมเงิน, ขายทรัพย์สินเพื่อนำมาเล่นการพนัน เวลา ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการพนัน, ละเลิกกิจกรรมที่เคยชอบ, ปกปิดพฤติกรรมการเล่น อารมณ์ หงุดหงิดง่าย, วิตกกังวล, ซึมเศร้า, รู้สึกผิดหลังเล่น ความสัมพันธ์ มีปัญหากับคนรอบข้าง,โกหกเพื่อปกปิดการเล่น, ถูกต่อว่าเรื่องการพนัน

* ตารางนี้เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้น หากคุณหรือคนใกล้ชิดมีปัญหาเกี่ยวกับการพนัน ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ

#จิตวิทยา #การพนัน #ความหวัง #ติดพนัน

บทความน่าสนใจ

บทความยอดนิยมตลอดกาล

บทความที่อยู่ในกระแส