30 สิงหาคม 2564

นวัตกรรมที่มีอยู่ อาจเป็นกุญแจสำคัญสู่การแก้ปัญหาวิกฤตการตายของทารกแรกเกิดในไนจีเรีย

นวัตกรรมที่มีอยู่ อาจเป็นกุญแจสำคัญสู่การแก้ปัญหาวิกฤตการตายของทารกแรกเกิดในไนจีเรีย

นวัตกรรมที่มีอยู่ อาจเป็นกุญแจสำคัญสู่การแก้ปัญหาวิกฤตการตายของทารกแรกเกิดในไนจีเรีย

ไนจีเรียต้องเผชิญกับความท้าทายที่น่าเศร้ากับอัตราการตายของทารกแรกเกิดที่สูงลิ่ว โดยข้อมูลจาก UNICEF ระบุว่า ในปี พ.ศ. 2564 อัตราการตายของทารกแรกเกิดในไนจีเรียอยู่ที่ 29 คนต่อการเกิดมีชีพ 1,000 ครั้ง ซึ่งถือเป็นหนึ่งในอัตราที่สูงที่สุดในโลก สาเหตุหลักของการเสียชีวิตเหล่านี้มักเกี่ยวข้องกับภาวะแทรกซ้อนที่สามารถป้องกันได้ เช่น การคลอดก่อนกำหนด น้ำหนักแรกเกิดต่ำ และการติดเชื้อ อย่างไรก็ตาม งานวิจัยชิ้นใหม่เผยให้เห็นถึงความหวัง โดยชี้ให้เห็นว่า นวัตกรรมที่มีอยู่แล้ว อาจเป็นกุญแจสำคัญในการแก้ปัญหานี้และช่วยชีวิตทารกแรกเกิดได้จำนวนมาก

นวัตกรรมเพื่อชีวิต: การปรับใช้เทคโนโลยีและกลยุทธ์ที่มีอยู่

บทวิจารณ์ที่ตีพิมพ์ในวารสารทางการแพทย์ The Lancet Global Health ได้เน้นย้ำถึงนวัตกรรมที่มีแนวโน้มดีหลายอย่าง ซึ่งสามารถนำไปใช้เพื่อจัดการกับอัตราการตายของทารกแรกเกิดในไนจีเรียได้อย่างมีประสิทธิภาพ นวัตกรรมเหล่านี้ได้แก่:

  1. การดูแลทารกแรกเกิดแบบครบวงจร: การดูแลดังกล่าวครอบคลุมถึงการส่งเสริมสุขภาพของมารดาในระหว่างตั้งครรภ์ การดูแลทารกแรกเกิดที่มีคุณภาพ และการสร้างความมั่นใจว่ามารดาและทารกแรกเกิดจะได้รับการดูแลติดตามผลหลังคลอดอย่างเหมาะสม
  2. การฟื้นฟูทารกแรกเกิด: เทคนิคง่ายๆ เช่น การทำให้ทารกอบอุ่น การให้นมลูกอย่างเหมาะสม และการช่วยเหลือในการหายใจ สามารถช่วยชีวิตทารกที่คลอดก่อนกำหนดหรือทารกที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษได้
  3. การใช้เทคโนโลยีดิจิทัล: โทรศัพท์มือถือและแพลตฟอร์มเทเลเฮลท์มีศักยภาพอย่างมากในการปรับปรุงการดูแลก่อนคลอดและหลังคลอด ตัวอย่างเช่น แอปพลิเคชันบนมือถือสามารถให้ข้อมูลที่จำเป็นแก่บุคลากรสาธารณสุข ตลอดจนช่วยให้มารดาสามารถเข้าถึงบริการดูแลสุขภาพได้
  4. การเสริมสร้างระบบสุขภาพ: การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านสุขภาพ บุคลากร และห่วงโซ่อุปทานเป็นสิ่งจำเป็นในการทำให้มั่นใจว่าบริการดูแลสุขภาพที่จำเป็นนั้นเข้าถึงได้สำหรับทุกคน

สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือ นวัตกรรมเหล่านี้หลายอย่างได้รับการนำไปใช้ในพื้นที่ต่างๆ ของไนจีเรียแล้ว และแสดงให้เห็นถึงผลลัพธ์ที่น่า

โครงการ รายละเอียด ผลลัพธ์
โครงการดูแลแม่และเด็กอย่างครบวงจร ให้บริการด้านสุขภาพที่จำเป็นแก่สตรีตั้งครรภ์และทารกแรกเกิดในพื้นที่ชนบท ช่วยลดอัตราการตายของทารกแรกเกิดลงอย่างมากในพื้นที่ที่ดำเนินโครงการ
แพลตฟอร์มเทเลเฮลท์สำหรับมารดาและทารกแรกเกิด เชื่อมต่อมารดากับบุคลากรสาธารณสุขผ่านทางโทรศัพท์มือถือ ปรับปรุงการเข้าถึงข้อมูลและบริการด้านสุขภาพ และลดจำนวนการเสียชีวิตของมารดาและทารกแรกเกิด

ตัวอย่างความสำเร็จเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า ไนจีเรียมีศักยภาพในการพลิกโฉมอัตราการตายของทารกแรกเกิดได้อย่างแน่นอน

ความท้าทายและโอกาส: เส้นทางข้างหน้า

แม้ว่าจะมีนวัตกรรมที่เป็นความหวังเหล่านี้ แต่ไนจีเรียยังคงเผชิญกับความท้าทายหลายประการในการขยายการเข้าถึงและการนำนวัตกรรมเหล่านี้ไปใช้อย่างแพร่หลาย ความท้าทายเหล่านี้ได้แก่ ทรัพยากรที่จำกัด โครงสร้างพื้นฐานด้านสุขภาพที่ไม่เพียงพอ และความไม่เท่าเทียมกันทางสังคม

อย่างไรก็ตาม ยังมีโอกาสมากมายในการเอาชนะอุปสรรคเหล่านี้ สิ่งเหล่านี้อาจรวมถึง:

  • เพิ่มการลงทุนในด้านสุขภาพของมารดา ทารกแรกเกิด และเด็ก: ไนจีเรียสามารถเรียนรู้จากประเทศอื่นๆ ที่ประสบความสำเร็จในการลดอัตราการตายของทารกแรกเกิด เช่น บังกลาเทศและรวันดา
  • เสริมสร้างความร่วมมือและการประสานงาน: การทำงานร่วมกันระหว่างรัฐบาล องค์กรพัฒนาเอกชน และภาคเอกชนเป็นสิ่งสำคัญในการขยายการดำเนินโครงการที่ประสบความสำเร็จ
  • จัดการกับความไม่เท่าเทียม: จำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการเข้าถึงบริการดูแลสุขภาพที่มีคุณภาพสำหรับประชากรที่เปราะบางที่สุด เช่น ผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ห่างไกลและชุมชนแออัด

การแก้ปัญหาวิกฤตการตายของทารกแรกเกิดในไนจีเรียจำเป็นต้องมีแนวทางแบบหลายภาคส่วนที่ให้ความสำคัญกับทั้งนวัตกรรมและความเท่าเทียม ด้วยการลงทุนในแนวทางแก้ไขที่มีอยู่ จัดการกับความท้าทายเชิงระบบ และส่งเสริมความร่วมมือ ไนจีเรียสามารถช่วยชีวิตทารกแรกเกิดได้มากขึ้น และสร้างอนาคตที่ดีกว่าสำหรับทุกคน

#สุขภาพ #เด็กแรกเกิด #ไนจีเรีย #นวัตกรรม

บทความน่าสนใจ

บทความยอดนิยมตลอดกาล

บทความที่อยู่ในกระแส