Anaplasma phagocytophilum เป็นแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่ก่อให้เกิดโรค granulocytic anaplasmosis ในมนุษย์ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม และนก การติดเชื้อนี้แพร่กระจายโดยเห็บ และสามารถนำไปสู่อาการไข้ ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ และอาการอื่นๆ สิ่งที่น่าสนใจและซับซ้อนเกี่ยวกับแบคทีเรียนี้คือกลไกการติดเชื้อที่มันใช้ในการบุกรุกและควบคุมเซลล์เจ้าบ้าน งานวิจัยล่าสุดได้เปิดเผยบทบาทสำคัญของโปรตีน effector ที่เรียกว่า EgeA ซึ่งผลิตโดย A. phagocytophilum ในการควบคุมกระบวนการภายในเซลล์เพื่อเอื้ออำนวยต่อการติดเชื้อ
EgeA มีความสามารถในการจับกับโปรตีน TANGO1 และ SCFD1 ซึ่งเป็นโปรตีนที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งโปรตีนขนาดใหญ่จากเอนโดพลาสมิกเรติคูลัม (ER) ไปยังกอลจิแอพพาราตัส (Golgi apparatus) โดยปกติแล้ว TANGO1 และ SCFD1 จะทำงานร่วมกันในการควบคุมการหลั่งโปรตีนคอลลาเจน อย่างไรก็ตาม A. phagocytophilum ได้พัฒนากลไกอันชาญฉลาดในการใช้ EgeA เพื่อดึง TANGO1 และ SCFD1 ออกจากตำแหน่งปกติของพวกมัน และนำพวกมันไปยังบริเวณที่มีการก่อตัวของแบคทีเรียภายในเซลล์ ซึ่งเรียกว่า inclusion
โปรตีน | หน้าที่ |
---|---|
EgeA | โปรตีน effector ของ A. phagocytophilum ที่จับกับ TANGO1 และ SCFD1 |
TANGO1 | โปรตีนที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งโปรตีนจาก ER ไป Golgi |
SCFD1 | โปรตีนที่ทำงานร่วมกับ TANGO1 ในการขนส่งโปรตีน |
การเปลี่ยนตำแหน่งของ TANGO1 และ SCFD1 นี้ส่งผลกระทบต่อการทำงานของเซลล์เจ้าบ้านอย่างมาก นักวิจัยพบว่าการมีอยู่ของ TANGO1 และ SCFD1 ที่ inclusion ของแบคทีเรียมีความสำคัญต่อการอยู่รอดและการเพิ่มจำนวนของ A. phagocytophilum แม้ว่ากลไกที่แน่ชัดยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่เชื่อกันว่าการเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยให้แบคทีเรียสามารถเข้าถึงสารอาหารและทรัพยากรที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโต รวมถึงอาจช่วยในการหลีกเลี่ยงระบบภูมิคุ้มกันของเจ้าบ้าน
Fun Fact: รู้หรือไม่ว่า A. phagocytophilum สามารถติดเชื้อในเซลล์เม็ดเลือดขาวหลายชนิด รวมถึง neutrophils, eosinophils, และ basophils?
การค้นพบนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนายาและวัคซีนใหม่ๆ โดยการเข้าใจกลไกการติดเชื้อของ A. phagocytophilum ในระดับโมเลกุล นักวิจัยสามารถระบุเป้าหมายที่เหมาะสมสำหรับการรักษา เช่น การพัฒนายาที่ยับยั้งการทำงานของ EgeA หรือการรบกวนปฏิสัมพันธ์ระหว่าง EgeA กับ TANGO1 และ SCFD1 ซึ่งอาจนำไปสู่การควบคุมการติดเชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นในอนาคต
ข้อมูลทางสถิติแสดงให้เห็นว่าโรค granulocytic anaplasmosis มีอัตราการเกิดเพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่ทั่วโลก การทำความเข้าใจกลไกการติดเชื้อของ A. phagocytophilum จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคนี้
การศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับปฏิสัมพันธ์ระหว่าง EgeA, TANGO1, และ SCFD1 รวมถึงผลกระทบต่อเซลล์เจ้าบ้าน จะเป็นกุญแจสำคัญในการไขปริศนาของกลไกการติดเชื้อ A. phagocytophilum และนำไปสู่การพัฒนาวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นในอนาคต
#แบคทีเรีย #Anaplasma #การติดเชื้อ #ชีววิทยา