อัฟกานิสถานภายใต้การปกครองของตาลีบันครบรอบ 3 ปี : 5 ประเด็นสำคัญที่ควรรู้
อัฟกานิสถานภายใต้การปกครองของตาลีบันครบรอบ 3 ปี : 5 ประเด็นสำคัญที่ควรรู้
15 สิงหาคม 2566 นับเป็นวันครบรอบ 3 ปีที่กลุ่มตาลีบันเข้ายึดครองกรุงคาบูล และหวนกลับมาปกครองอัฟกานิสถานอีกครั้ง สร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ให้กับประเทศและประชาชน นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา สถานการณ์ในอัฟกานิสถานอยู่ภายใต้การจับตามองของนานาชาติอย่างใกล้ชิด บทความนี้นำเสนอ 5 ประเด็นสำคัญที่ควรรู้เกี่ยวกับอัฟกานิสถานภายใต้การปกครองของตาลีบัน
1. สถานการณ์ด้านมนุษยธรรมที่น่ากังวล
หลังการยึดครองของตาลีบัน อัฟกานิสถานต้องเผชิญกับวิกฤตด้านมนุษยธรรมครั้งใหญ่ โดยข้อมูลจากสหประชาชาติ ระบุว่า ประชากรอัฟกานิสถานกว่า 28.3 ล้านคน หรือคิดเป็น 2 ใน 3 ของประชากรทั้งประเทศ ต้องการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างเร่งด่วน สาเหตุสำคัญของวิกฤตครั้งนี้มาจากหลายปัจจัย ได้แก่ ความขัดแย้งภายในประเทศ ภัยแล้ง ความแห้งแล้ง ผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 และภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำ อันเป็นผลมาจากการคว่ำบาตรจากนานาชาติ ส่งผลให้ประชาชนจำนวนมากต้องเผชิญกับความยากจน ขาดแคลนอาหาร ยารักษาโรค และที่พักอาศัย
2. สิทธิมนุษยชนและบทบาทของผู้หญิง
หนึ่งในประเด็นที่ทั่วโลกกังวลอย่างยิ่งภายใต้การปกครองของตาลีบันคือ สถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สิทธิของผู้หญิงและเด็กหญิง รายงานจากองค์กรระหว่างประเทศหลายแห่งชี้ให้เห็นถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างกว้างขวาง เช่น การจำกัดสิทธิในการเข้าถึงการศึกษาและการทำงานของผู้หญิง การบังคับแต่งงานในเด็กหญิง การใช้ความรุนแรงต่อผู้หญิง และการจำกัดเสรีภาพในการแสดงออก นอกจากนี้ ยังมีรายงานการกวาดล้างและปราบปรามกลุ่มชาติพันธุ์และศาสนาส่วนน้อย รวมถึงอดีตเจ้าหน้าที่รัฐบาล
3. การรับรองจากนานาชาติ
ปัจจุบัน ยังไม่มีประเทศใดในโลกที่รับรองรัฐบาลตาลีบันอย่างเป็นทางการ แม้ว่าจะมีความพยายามในการเจรจาระหว่างตาลีบันกับนานาชาติ แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้ามากนัก โดยประชาคมโลกส่วนใหญ่ยังคงแสดงความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชน การก่อการร้าย และการขาดความโปร่งใสในการบริหารประเทศ ซึ่งถือเป็นเงื่อนไขสำคัญในการรับรองรัฐบาลตาลีบัน
4. ภัยคุกคามจากการก่อการร้าย
แม้ตาลีบันจะอ้างว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ด้านความมั่นคงในประเทศได้ แต่ภัยคุกคามจากการก่อการร้ายยังคงเป็นปัญหาสำคัญในอัฟกานิสถาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากกลุ่มไอซิส-เค ซึ่งเป็นกลุ่มก่อการร้ายที่มีความเกี่ยวข้องกับไอซิส โดยในช่วงที่ผ่านมา เกิดเหตุระเบิดและโจมตีหลายครั้งในอัฟกานิสถาน สร้างความเสียหายและความสูญเสียอย่างใหญ่หลวง ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้ยิ่งตอกย้ำถึงความท้าทายด้านความมั่นคงที่รัฐบาลตาลีบันต้องเผชิญ
5. เศรษฐกิจที่ซบเซา
ภายใต้การปกครองของตาลีบัน เศรษฐกิจของอัฟกานิสถานเข้าสู่ภาวะตกต่ำอย่างหนัก โดยข้อมูลจากธนาคารโลก ระบุว่า เศรษฐกิจอัฟกานิสถานหดตัวลงร้อยละ 30-40 นับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2564 เป็นผลมาจากการคว่ำบาตรจากนานาชาติ การระงับความช่วยเหลือด้านการพัฒนา และความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ลดลง ส่งผลให้เกิดภาวะเงินเฟ้อสูง ค่าเงินอัฟกานิอ่อนค่าลง ประชาชนต้องเผชิญกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น และอัตราการว่างงานที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจ | ก่อนตาลีบันเข้ายึดครอง (2564) | ปัจจุบัน (2566) |
---|---|---|
อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) | -2.5% | -30% ถึง -40% |
อัตราเงินเฟ้อ | 5.5% | 18.3% |
อัตราการว่างงาน | 11.7% | > 25% (โดยประมาณ) |
**Fun Fact:** ทราบหรือไม่ว่า อัฟกานิสถานเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 5,000 ปี และเคยเป็นศูนย์กลางของเส้นทางสายไหมอันเลื่องชื่อ
สถานการณ์ในอัฟกานิสถานยังคงมีความซับซ้อน และเป็นความท้าทายสำหรับทั้งรัฐบาลตาลีบันและประชาคมโลก การแก้ไขปัญหาต่างๆ ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อนำสันติภาพ เสถียรภาพ และการพัฒนาที่ยั่งยืนกลับคืนสู่ประเทศ
#อัฟกานิสถาน #ตาลีบัน #สิทธิมนุษยชน #วิกฤตมนุษยธรรม