ความเชื่อเกี่ยวกับความตายในศาสนาพุทธเป็นอย่างไร?
ความตาย ถือเป็นสัจธรรมข้อหนึ่งในสี่ที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ นั่นคือ เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ในทางพระพุทธศาสนา ความตายไม่ใช่การสิ้นสุด แต่เป็นเพียงการเปลี่ยนผ่านจากภพภูมิหนึ่งไปสู่ภพภูมิหนึ่งเท่านั้น
วัฏจักรแห่งการเวียนว่ายตายเกิด
หลักการสำคัญที่เกี่ยวข้องกับความตายในศาสนาพุทธ คือ กฎแห่งกรรมและการเวียนว่ายตายเกิด เมื่อร่างกายแตกดับ จิตหรือวิญญาณจะออกจากร่างและไปเกิดใหม่ในภพภูมิที่เหมาะสมกับกรรมที่ตนได้กระทำไว้ ภพภูมิที่ว่านี้มี 31 ภูมิ แบ่งเป็น:
ประเภทภูมิ | จำนวนภูมิ |
---|---|
กามภูมิ (ภูมิที่ยังติดอยู่ในกาม) | 11 ภูมิ |
รูปภูมิ (ภูมิที่หลุดพ้นจากกาม แต่ยังยึดติดในรูป) | 16 ภูมิ |
อรูปภูมิ (ภูมิที่หลุดพ้นจากกามและรูป) | 4 ภูมิ |
การเวียนว่ายตายเกิดนี้จะดำเนินต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะบรรลุนิพพาน ซึ่งเป็นการดับสิ้นซึ่งกิเลส ตัณหา และอาสวะทั้งปวง
ช่วงเวลาหลังความตาย
ในคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนาได้กล่าวถึงช่วงเวลาหลังความตายไว้ว่า จิตจะวนเวียนอยู่ในสภาวะที่เรียกว่า “gandhabba” หรือ “antarabhava” เป็นระยะเวลา 49 วัน ซึ่งในช่วงเวลานี้ จิตจะสามารถรับรู้ถึงบุญกุศลที่ญาติพี่น้องอุทิศให้ และบุญกุศลนี้เองจะเป็นเสมือนเสบียงในการเดินทางไปสู่ภพภูมิใหม่
พิธีกรรมเกี่ยวกับความตาย
ในศาสนาพุทธ มีพิธีกรรมที่เกี่ยวข้องกับความตายมากมาย อาทิ การทำบุญ 7 วัน 50 วัน 100 วัน และการทำบุญครบรอบปี ซึ่งล้วนมีจุดประสงค์เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ล่วงลับ รวมถึงเป็นการเตือนสติแก่ผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ให้ระลึกถึงความตายและใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท
Fun Fact
ทราบหรือไม่ว่า ในประเทศไทย มีวัดที่เก็บรวบรวมกะโหลกศีรษะของมนุษย์ไว้มากมาย เช่น วัดโพธิ์ ซึ่งเป็นความเชื่อว่าการได้เห็นกะโหลกศีรษะจะช่วยเตือนสติให้ระลึกถึงความตายและไม่ประมาทในชีวิต
สรุปแล้ว ความตายในทัศนะของศาสนาพุทธไม่ใช่การสิ้นสุด แต่เป็นเพียงการเปลี่ยนผ่านจากภพภูมิหนึ่งไปสู่อีกภพภูมิหนึ่งเท่านั้น การดำเนินชีวิตโดยยึดมั่นในหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ตั้งมั่นในความดี ละเว้นความชั่ว และหมั่นทำจิตใจให้ผ่องใส จะเป็นเสมือนการเตรียมตัวที่ดีที่สุดสำหรับการเดินทางในวัฏจักรแห่งการเวียนว่ายตายเกิด
#ความตาย #ศาสนาพุทธ #กรรม #การเวียนว่ายตายเกิด