02 มิถุนายน 2564

8 ปรากฏการณ์ธรรมชาติสุดประหลาดที่ยังคงเป็นปริศนา

8 ปรากฏการณ์ธรรมชาติสุดประหลาดที่ยังคงเป็นปริศนา

โลกของเราเต็มไปด้วยความมหัศจรรย์และความลึกลับมากมาย ปรากฏการณ์ธรรมชาติบางอย่างนั้นสวยงามราวกับภาพวาด แต่ในขณะเดียวกันก็แฝงไปด้วยปริศนาที่ทำให้นักวิทยาศาสตร์ต้องขบคิด บทความนี้นำเสนอ 8 ปรากฏการณ์ธรรมชาติสุดประหลาดที่ยังคงเป็นปริศนาจนถึงทุกวันนี้

1. เสียง "The Bloop" จากใต้สมุทร

ในปี 1997 เสียงประหลาดดังกึกก้องใต้ท้องทะเลแปซิฟิกถูกบันทึกได้โดยเครื่องมือตรวจจับเสียงของ National Oceanic and Atmospheric Administration (NOAA) เสียงความถี่ต่ำนี้ถูกตั้งชื่อว่า "The Bloop" มันดังกว่าเสียงของวาฬสีน้ำเงินซึ่งเป็นสัตว์ที่ส่งเสียงดังที่สุดในโลก แม้จะมีการตั้งสมมติฐานมากมาย เช่น เสียงจากภูเขาไฟระเบิดใต้ทะเล หรือการเคลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลก แต่ต้นกำเนิดที่แท้จริงของ The Bloop ก็ยังคงเป็นปริศนา

2. หินเดินได้แห่งหุบเขามรณะ

Racetrack Playa ในหุบเขามรณะ (Death Valley) รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เป็นที่รู้จักจากปรากฏการณ์ลึกลับของหินเดินได้ หินขนาดต่างๆ เหล่านี้ดูเหมือนเคลื่อนที่ได้เองโดยทิ้งร่องรอยไว้บนพื้นดินที่แห้งแข็ง แม้จะไม่มีใครเคยเห็นหินเหล่านี้เคลื่อนไหว แต่ร่องรอยที่ปรากฏก็ทำให้เกิดทฤษฎีต่างๆ เช่น ลมแรง, แผ่นน้ำแข็งบางๆ ที่ผลักหิน อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีคำอธิบายที่แน่ชัดสำหรับปรากฏการณ์นี้

3. แสงเหนือ-แสงใต้ (Aurora Borealis & Aurora Australis)

แสงสว่างหลากสีสันที่ปรากฏบนท้องฟ้าในยามค่ำคืนแถบขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้เป็นภาพที่สวยงามตระการตา เกิดจากอนุภาคพลังงานสูงจากดวงอาทิตย์ชนกับอะตอมในชั้นบรรยากาศโลก แม้จะเข้าใจกลไกพื้นฐานของการเกิดแสงเหนือ-แสงใต้ แต่ยังมีปริศนาอีกมากที่นักวิทยาศาสตร์พยายามหาคำตอบ เช่น เหตุใดรูปแบบและความเข้มของแสงจึงเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และทำไมบางครั้งจึงมีเสียงดังแปลกๆ ร่วมด้วย

4. ฝนเลือดในอินเดีย

ในปี 2001 ที่รัฐเกรละ ประเทศอินเดีย เกิดฝนสีแดงสดตกลงมา สร้างความตื่นตระหนกให้กับผู้คน บางคนเชื่อว่าเป็นลางบอกเหตุร้าย ในขณะที่นักวิทยาศาสตร์ตั้งข้อสันนิษฐานว่า ฝนสีแดงอาจเกิดจากสปอร์สาหร่าย ฝุ่นละอองจากทะเลทราย หรือแม้กระทั่งมลพิษทางอากาศ แม้จะมีการศึกษาหลายครั้ง แต่สาเหตุที่แท้จริงของฝนเลือดก็ยังคงเป็นที่ถกเถียง

5. ฟ้าผ่าในภูเขาไฟ

ปรากฏการณ์ฟ้าผ่าในระหว่างการปะทุของภูเขาไฟเป็นภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจและอันตรายอย่างยิ่ง นักวิทยาศาสตร์ยังไม่มั่นใจว่าอะไรเป็นสาเหตุของฟ้าผ่าเหล่านี้ แต่มีทฤษฎีหนึ่งชี้ว่า อนุภาคเถ้าภูเขาไฟที่พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าเสียดสีกันจนเกิดประจุไฟฟ้า คล้ายกับการเกิดฟ้าผ่าในพายุฝนฟ้าคะนอง อย่างไรก็ตาม ยังต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อให้เข้าใจปรากฏการณ์นี้มากขึ้น

6. วงข้าวในทุ่งนา

วงข้าวล้มเป็นรูปทรงเรขาคณิตที่ปรากฏในทุ่งนาเป็นปริศนาที่สร้างความฉงนให้กับผู้คนมานานหลายศตวรรษ แม้จะมีทฤษฎีสมคบคิดที่เชื่อมโยงกับมนุษย์ต่างดาว แต่นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่เชื่อว่า วงข้าวเกิดจากลมหมุนขนาดเล็ก หรือปรากฏการณ์ทางอุตุนิยมวิทยาอื่นๆ อย่างไรก็ตาม ความซับซ้อนและความแม่นยำของรูปทรงบางอย่างก็ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่

7. การย้ายถิ่นของผีเสื้อมอนาร์ช

ทุกปี ผีเสื้อมอนาร์ชหลายล้านตัวจะอพยพเป็นระยะทางกว่า 4,800 กิโลเมตร จากแคนาดาและสหรัฐอเมริกาไปยังพื้นที่เล็กๆ ในเม็กซิโกเพื่อหลบหนาว สิ่งที่น่าทึ่งคือ ผีเสื้อรุ่นใหม่ที่ไม่เคยบินเส้นทางนี้มาก่อนก็สามารถหาทางไปถึงจุดหมายได้อย่างแม่นยำ นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า ผีเสื้อมอนาร์ชอาจใช้สนามแม่เหล็กโลก ตำแหน่งดวงอาทิตย์ และแม้กระทั่งความทรงจำทางพันธุกรรมในการนำทาง แต่นี่ก็ยังเป็นเพียงทฤษฎีเท่านั้น

8. สัตว์ฝน

ปรากฏการณ์สัตว์ฝน หมายถึง การที่สัตว์ เช่น กบ ปลา หรือนก ตกลงมาจากท้องฟ้าพร้อมกับฝน เป็นปรากฏการณ์ที่แปลกประหลาดและน่าขนลุก แม้จะยังไม่มีคำอธิบายที่แน่ชัด แต่นักวิทยาศาสตร์สันนิษฐานว่า สัตว์เหล่านี้อาจถูกพายุพัดขึ้นไปในอากาศ และตกลงมาพร้อมกับฝนในภายหลัง อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อสงสัยว่า ทำไมสัตว์บางชนิด เช่น กบชนิดเดียวกัน จึงมักจะตกลงมาพร้อมกันในปริมาณมาก

ปรากฏการณ์ธรรมชาติสุดประหลาดเหล่านี้เป็นเครื่องย้ำเตือนว่า โลกของเรายังมีเรื่องราวลึกลับอีกมากมายที่รอการค้นพบ แม้ว่าวิทยาศาสตร์จะก้าวหน้าไปมาก แต่ธรรมชาติก็ยังคงเป็นปริศนาที่ท้าทายความเข้าใจของมนุษย์

#ปรากฏการณ์ธรรมชาติ #ความลึกลับ #วิทยาศาสตร์ #โลก

บทความน่าสนใจ

บทความยอดนิยมตลอดกาล

บทความที่อยู่ในกระแส