การค้นคว้าใหม่เผยความเชื่อมโยงที่แข็งแกร่งระหว่างวัฏจักรยูเรียและภาวะไขมันพอกตับ
ภาวะไขมันพอกตับ หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อโรคไขมันเกาะตับ กำลังกลายเป็นปัญหาสุขภาพที่ทวีความรุนแรงขึ้นทั่วโลก องค์การอนามัยโลกประเมินว่ามีผู้ป่วยโรคไขมันพอกตับมากกว่า 2 พันล้านคน สาเหตุหลักของโรคนี้มักเกี่ยวข้องกับการบริโภคอาหารที่มีไขมันสูง โรคอ้วน และโรคเบาหวาน แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา นักวิทยาศาสตร์ได้เริ่มศึกษาบทบาทของกระบวนการเมตาบอลิซึมอื่น ๆ ที่อาจมีส่วนในการเกิดโรคนี้ และหนึ่งในนั้นคือ วัฏจักรยูเรีย
วัฏจักรยูเรีย เป็นกระบวนการทางชีวเคมีที่เกิดขึ้นในตับ โดยมีหน้าที่สำคัญในการกำจัดแอมโมเนีย ซึ่งเป็นสารพิษที่เกิดจากการเผาผลาญโปรตีนในร่างกาย แอมโมเนียจะถูกเปลี่ยนเป็นยูเรีย ซึ่งเป็นสารประกอบที่ละลายน้ำได้ดี ร่างกายจึงสามารถขับยูเรียออกทางปัสสาวะได้อย่างปลอดภัย ความผิดปกติของวัฏจักรยูเรียสามารถนำไปสู่การสะสมของแอมโมเนียในเลือด ซึ่งเป็นภาวะที่เป็นอันตรายถึงชีวิตได้
การเชื่อมโยงระหว่างวัฏจักรยูเรียกับภาวะไขมันพอกตับ
งานวิจัยในช่วงแรก ๆ แสดงให้เห็นว่าผู้ป่วยโรคไขมันพอกตับมักมีระดับเอนไซม์ในเลือดที่เกี่ยวข้องกับวัฏจักรยูเรียผิดปกติ ตัวอย่างเช่น งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Hepatology พบว่าผู้ป่วยโรคไขมันพอกตับที่ไม่มีภาวะดื่มสุราเรื้อรังมีระดับเอนไซม์อาร์จินาเส (arginase) ต่ำกว่ากลุ่มควบคุม เอนไซม์อาร์จินาเสมีบทบาทสำคัญในขั้นตอนสุดท้ายของวัฏจักรยูเรีย การที่ระดับเอนไซม์นี้ต่ำลงอาจบ่งชี้ถึงความบกพร่องของวัฏจักรยูเรีย
นอกจากนี้ งานวิจัยในสัตว์ทดลองยังสนับสนุนความเชื่อมโยงนี้ นักวิจัยพบว่าหนูที่ถูกกระตุ้นให้เกิดภาวะไขมันพอกตับจะมีการแสดงออกของยีนที่เกี่ยวข้องกับวัฏจักรยูเรียลดลง ยิ่งไปกว่านั้น การให้สารที่ยับยั้งวัฏจักรยูเรียแก่หนูปกติยังทำให้เกิดภาวะไขมันสะสมในตับและการอักเสบของตับ ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของโรคไขมันพอกตับ
กลไกที่เป็นไปได้
แม้ว่านักวิทยาศาสตร์ยังคงศึกษาถึงกลไกที่แน่ชัดที่เชื่อมโยงวัฏจักรยูเรียกับภาวะไขมันพอกตับ แต่มีสมมติฐานหลัก ๆ ดังนี้:
- การสะสมของแอมโมเนีย: ความบกพร่องของวัฏจักรยูเรียอาจนำไปสู่การสะสมของแอมโมเนียในตับ แอมโมเนียเป็นสารพิษต่อเซลล์ตับและสามารถกระตุ้นให้เกิดความเครียดออกซิเดชัน การอักเสบ และการดื้อต่ออินซูลิน ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดภาวะไขมันพอกตับ
- ความไม่สมดุลของพลังงาน: วัฏจักรยูเรียเป็นกระบวนการที่ใช้พลังงานสูง ความบกพร่องของวัฏจักรยูเรียอาจรบกวนสมดุลพลังงานในเซลล์ตับ นำไปสู่การสะสมของไขมัน
- การเปลี่ยนแปลงของไมโครไบโอต้าในลำไส้: งานวิจัยบางชิ้นชี้ให้เห็นว่าความบกพร่องของวัฏจักรยูเรียอาจส่งผลต่อองค์ประกอบและหน้าที่ของไมโครไบโอต้าในลำไส้ การเปลี่ยนแปลงของไมโครไบโอต้าในลำไส้เชื่อมโยงกับการเกิดโรคอ้วน โรคเบาหวาน และภาวะไขมันพอกตับ
ความสำคัญทางคลินิกและแนวทางการรักษาในอนาคต
การค้นพบความเชื่อมโยงระหว่างวัฏจักรยูเรียกับภาวะไขมันพอกตับเป็นการเปิดประตูสู่ความเข้าใจใหม่ ๆ เกี่ยวกับการเกิดโรคนี้ การศึกษาในอนาคตอาจนำไปสู่การพัฒนาวิธีการวินิจฉัย ติดตาม และรักษาโรคไขมันพอกตับที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ตัวอย่างเช่น การตรวจระดับเอนไซม์ในวัฏจักรยูเรียอาจถูกนำมาใช้เป็นเครื่องหมายชีวภาพในการวินิจฉัยโรคไขมันพอกตับในระยะเริ่มต้น นอกจากนี้ การพัฒนายาที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของวัฏจักรยูเรียอาจเป็นกลยุทธ์ใหม่ในการรักษาโรคไขมันพอกตับ
Fun Fact:
คุณรู้หรือไม่ว่าในแต่ละวันร่างกายของเราผลิตยูเรียประมาณ 25-30 กรัม ซึ่งเทียบเท่ากับน้ำหนักของลูกกอล์ฟประมาณครึ่งลูก
สถิติที่น่าสนใจ:
ที่มา: Younossi ZM, et al. Global epidemiology of nonalcoholic fatty liver disease-Meta-analytic assessment of prevalence, incidence, and outcomes. Hepatology. 2016;64(1):73-84.
#สุขภาพ #ตับ #ไขมันพอกตับ #วัฏจักรยูเรีย