แม้โลกจะก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัล ที่ซึ่งเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่าง ๆ ผุดขึ้นราวกับดอกเห็ด แต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงความสำคัญอย่างไม่เสื่อมคลาย นั่นคือ "เกษตรกรรม" หลายคนอาจมองว่าเกษตรกรรมเป็นเรื่องไกลตัว เป็นอาชีพที่เหนื่อยยาก ล้าหลัง ไม่ทันสมัย แต่ในความเป็นจริงแล้ว เกษตรกรรมคือรากฐานที่สำคัญของมนุษยชาติ เป็นแหล่งผลิตอาหารหล่อเลี้ยงชีวิตคนกว่า 7.9 พันล้านคนทั่วโลก และยิ่งในยุคปัจจุบันที่ต้องเผชิญกับความท้าทายมากมาย ทั้งการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ การเพิ่มขึ้นของประชากร และความไม่มั่นคงทางอาหาร ยิ่งตอกย้ำให้เห็นถึงบทบาทและความสำคัญของเกษตรกรรมที่เพิ่มมากขึ้น
1. เกษตรกรรม: แหล่งผลิตอาหารหลักของโลก
ข้อเท็จจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ คือมนุษย์ทุกคนล้วนต้องบริโภคอาหารเพื่อดำรงชีวิต และเกษตรกรรมก็เป็นแหล่งผลิตอาหารหลักที่หล่อเลี้ยงผู้คนทั่วโลก ข้อมูลจากองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ระบุว่า ภาคเกษตรกรรมมีส่วนร่วมในการจ้างงานมากกว่า 1 พันล้านคนทั่วโลก และผลิตอาหารคิดเป็นมูลค่ากว่า 2.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงบทบาทอันมหาศาลของเกษตรกรรมต่อระบบเศรษฐกิจและสังคมโลก
2. เกษตรกรรมยุคใหม่: ตอบโจทย์ความท้าทายของโลก
การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ภัยแล้ง น้ำท่วม และการแพร่ระบาดของโรคพืช นับเป็นความท้าทายสำคัญของภาคเกษตรกรรมในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม นวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่ ได้เข้ามามีบทบาทในการพัฒนาเกษตรกรรมให้สามารถรับมือกับปัญหาเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตัวอย่างเช่น การใช้ระบบน้ำหยด การปลูกพืชในโรงเรือนควบคุมสภาพแวดล้อม การใช้โดรนฉีดพ่นปุ๋ยและยา รวมไปถึงการพัฒนาสายพันธุ์พืชที่ทนทานต่อสภาพอากาศ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นความก้าวหน้าที่ช่วยเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน และสร้างความยั่งยืนให้กับภาคเกษตรกรรม
3. เกษตรกรรม: กุญแจสำคัญสู่ความมั่นคงทางอาหาร
ในปี 2050 คาดการณ์ว่าประชากรโลกจะเพิ่มขึ้นเป็น 9.7 พันล้านคน นั่นหมายถึงความต้องการอาหารจะเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ภาคเกษตรกรรมจึงมีบทบาทสำคัญในการสร้างความมั่นคงทางอาหารให้กับประชากรโลก โดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนาที่ประสบปัญหาความยากจนและขาดแคลนอาหาร การพัฒนาภาคเกษตรกรรมให้มีความยั่งยืน มีประสิทธิภาพ และครอบคลุม จะช่วยเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร สร้างรายได้ให้กับเกษตรกร และลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม
4. เกษตรกรรม: เส้นทางสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน
เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) ของสหประชาชาติ ได้กำหนดเป้าหมายที่ 2 ว่าด้วยการขจัดความหิวโหย บรรลุความมั่นคงทางอาหาร ปรับปรุงโภชนาการ และส่งเสริมการเกษตรแบบยั่งยืน ซึ่งภาคเกษตรกรรมมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเป้าหมายนี้ให้บรรลุผลสำเร็จ การส่งเสริมเกษตรกรรมแบบยั่งยืน การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่จะนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน
Fun Fact
ทราบหรือไม่ว่า ประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ที่สุดของโลก โดยในปี 2565 ไทยส่งออกข้าวไปยังต่างประเทศมากกว่า 7.69 ล้านตัน สร้างรายได้ให้กับประเทศกว่า 1.3 แสนล้านบาท
ตารางแสดง 10 อันดับ ประเทศผู้ส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารของโลก ปี 2564
อันดับ | ประเทศ | มูลค่าการส่งออก (ล้านดอลลาร์สหรัฐ) |
---|---|---|
1 | จีน | 111,985 |
2 | สหรัฐอเมริกา | 101,467 |
3 | เนเธอร์แลนด์ | 99,480 |
4 | เยอรมนี | 90,931 |
5 | บราซิล | 84,275 |
6 | สเปน | 64,828 |
7 | ฝรั่งเศส | 58,417 |
8 | แคนาดา | 56,593 |
9 | อิตาลี | 53,973 |
10 | เบลเยียม | 51,795 |
จะเห็นได้ว่า เกษตรกรรมยังคงมีความสำคัญอย่างยิ่งในโลกยุคปัจจุบัน การพัฒนาภาคเกษตรกรรมให้ก้าวหน้าทันต่อยุคสมัย โดยผสานเทคโนโลยี นวัตกรรม และองค์ความรู้ใหม่ ๆ เข้ามาประยุกต์ใช้อย่างเหมาะสม จะเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างความมั่นคงทางอาหาร สร้างเศรษฐกิจที่มั่นคง และนำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนของทุกประเทศทั่วโลก
#เกษตรกรรม #ความมั่นคงทางอาหาร #เทคโนโลยีการเกษตร #การพัฒนาอย่างยั่งยืน