ย้อนกลับไปในปี ค.ศ. 1922 โลกต้องตะลึงกับการค้นพบอันยิ่งใหญ่ นั่นคือสุสานของฟาโรห์หนุ่ม ตุตันคามุน ณ หุบเขากษัตริย์ ใกล้กับเมืองลักซอร์ ประเทศอียิปต์ ภายในห้องบรรจุพระศพที่เต็มไปด้วยทรัพย์สมบัติอันล้ำค่าและงดงาม กลับแฝงไว้ด้วยปริศนาและเรื่องราวอันน่าพิศวง ที่สืบต่อกันมาอย่างยาวนานจนกลายเป็นตำนานเล่าขาน นั่นคือ “คำสาปฟาโรห์”
ตุตันคามุน ฟาโรห์หนุ่มผู้ขึ้นครองราชย์ตั้งแต่พระชนมายุเพียง 9 พรรษา และสิ้นพระชนม์ลงอย่างปริศนาเมื่อพระชนมายุเพียง 19 พรรษา การสวรรคตอย่างกะทันหันนี้เอง ทำให้สุสานของพระองค์ถูกสร้างขึ้นอย่างเร่งรีบ ต่างจากฟาโรห์องค์อื่นๆ ที่มักเตรียมการสร้างสุสานของตนเองตั้งแต่ยังมีพระชนม์ชีพอยู่ และนี่อาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้สุสานของตุตันคามุน รอดพ้นจากการถูกพวกปล้นสุสานและคงความสมบูรณ์มาจนถึงปัจจุบัน
เบื้องหลังความงาม...ซ่อนไว้ด้วยปริศนา
การค้นพบสุสานของตุตันคามุน นำโดยนักโบราณคดีชาวอังกฤษ โฮเวิร์ด คาร์เตอร์ (Howard Carter) และ ลอร์ด คาร์นาร์วอน (Lord Carnarvon) ผู้สนับสนุนด้านทุน นับเป็นการค้นพบทางโบราณคดีครั้งสำคัญที่สุดครั้งหนึ่งของโลก เนื่องจากภายในสุสานยังคงความสมบูรณ์และเต็มไปด้วยโบราณวัตถุล้ำค่ามากมาย ไม่ว่าจะเป็น หน้ากากทองคำ เครื่องประดับ อาวุธ รถม้าศึก และพระยานมาศ สิ่งของเหล่านี้ล้วนสะท้อนถึงความรุ่งเรืองของอาณาจักรอียิปต์โบราณ
ทว่าเบื้องหลังความงดงามอลังการ กลับมีเรื่องราวสุดสะพรึงเกิดขึ้นหลังจากการเปิดสุสานไม่นานนัก ลอร์ด คาร์นาร์วอน ผู้สนับสนุนการค้นพบสุสาน เสียชีวิตลงอย่างกะทันหันจากการติดเชื้อในกระแสเลือด หลังจากถูกยุงกัดที่บริเวณใบหน้า ตามมาด้วยผู้เกี่ยวข้องกับการขุดค้นและเปิดสุสานอีกหลายรายที่เสียชีวิตลงอย่างปริศนา ทั้งจากอุบัติเหตุ ป่วยหนักโดยไม่ทราบสาเหตุ และเสียชีวิตในเวลาไล่เลี่ยกัน
ปี ค.ศ. | ผู้เสียชีวิต | สาเหตุการเสียชีวิต |
---|---|---|
1923 | ลอร์ด คาร์นาร์วอน | ติดเชื้อในกระแสเลือด |
1923 | จอร์จ เจย์ กูลด์ | ไข้สูงและป่วยหนัก |
1928 | อาร์เธอร์ เมซ | อ่อนเพลียและหมดสติ |
1930 | ริชาร์ด เบลล์ | เสียชีวิตในห้องนอนอย่างเป็นปริศนา |
เหตุการณ์เหล่านี้สร้างความตื่นตระหนกและกลายเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วโลก สื่อต่างพากันนำเสนอข่าว “คำสาปฟาโรห์” ที่สลักไว้ภายในสุสานของตุตันคามุนว่า “ความตายจะโบยบินมาหาผู้ใดก็ตามที่รบกวนความสงบขององค์ฟาโรห์” แม้จะไม่มีหลักฐานยืนยันการมีอยู่ของคำสาปดังกล่าว แต่เรื่องราวสุดลึกลับนี้ก็ฝังลึกอยู่ในความทรงจำของผู้คน จนกลายเป็นตำนานเล่าขานสืบต่อกันมา
ความจริงเบื้องหลังม่านหมอกแห่งปริศนา
แม้เรื่องราวคำสาปฟาโรห์จะเป็นที่เล่าขานอย่างแพร่หลาย แต่นักวิทยาศาสตร์และนักวิชาการจำนวนมากต่างพยายามหาคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ เพื่อไขปริศนาการเสียชีวิตของผู้ที่เกี่ยวข้องกับสุสานตุตันคามุน มีการตั้งข้อสันนิษฐานมากมาย เช่น
- เชื้อราหรือแบคทีเรีย ภายในสุสานที่ปิดตายมานานนับพันปี อาจมีเชื้อราหรือแบคทีเรียที่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ การสัมผัสหรือสูดดมเข้าไปอาจทำให้เกิดการติดเชื้อรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้
- สารพิษ อียิปต์โบราณขึ้นชื่อเรื่องการใช้สารพิษต่างๆ เช่น สารหนู ไซยาไนด์ เป็นต้น อาจมีการใช้สารพิษเหล่านี้ในการทำมัมมี่ หรือแม้กระทั่งเป็นกับดักป้องกันการบุกรุกสุสาน
- กัมมันตภาพรังสี แม้เป็นสมมติฐานที่ฟังดูเหลือเชื่อ แต่ก็มีการตั้งข้อสังเกตว่าอาจมีการใช้แร่ธาตุบางชนิดที่มีกัมมันตภาพรังสี ในการตกแต่งสุสานหรือทำมัมมี่ ซึ่งการสัมผัสกับรังสีเป็นเวลานาน อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพและนำไปสู่การเสียชีวิตได้
อย่างไรก็ตาม จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัดถึงสาเหตุการเสียชีวิตของผู้ที่เกี่ยวข้องกับสุสานตุตันคามุน ว่าเกิดจากคำสาป หรือ เกิดจากปัจจัยทางวิทยาศาสตร์กันแน่ เรื่องราวทั้งหมดจึงยังคงเป็นปริศนาลึกลับ ทิ้งไว้เพียงเรื่องเล่าขานชวนขนหัวลุกและเป็นตำนานที่ถูกกล่าวขานไปทั่วโลก
Fun Fact: ทราบหรือไม่ว่า มัมมี่ของตุตันคามุนถูกเอกซเรย์ไปแล้วกว่า 1,700 ครั้ง นับตั้งแต่มีการค้นพบสุสานในปี ค.ศ. 1922 การเอกซเรย์เหล่านี้ช่วยให้นักวิทยาศาสตร์เข้าใจเกี่ยวกับพระวรกาย พระอาการประชวร และสาเหตุการสิ้นพระชนม์ของฟาโรห์หนุ่มได้มากยิ่งขึ้น
#ตุตันคามุน #คำสาปฟาโรห์ #อียิปต์โบราณ #โบราณคดี