เวนิส เมืองแห่งสายน้ำอันงดงามในอิตาลี โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมและคลองอันเลื่องชื่อ แต่เบื้องหลังความงดงามนั้น ซ่อนเร้นประวัติศาสตร์อันดำมืดและน่าสะพรึงกลัวไว้บนเกาะเล็กๆแห่งหนึ่ง นั่นคือ “เกาะโปเวเกลีย” หรือที่รู้จักกันในนาม “เกาะดอกเกลย์” ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นสถานที่กักกันและทิ้งศพผู้คนนับแสนในช่วงเวลาแห่งความตายดำ
จุดเริ่มต้นแห่งความตาย: จากสถานกักกันสู่สุสาน
ย้อนกลับไปในศตวรรษที่ 14 ยุโรปเผชิญหน้ากับหายนะครั้งใหญ่ที่รู้จักกันในชื่อ “กาฬโรค” โรคร้ายที่คร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 200 ล้านคน เวนิสในฐานะศูนย์กลางการค้าและการเดินเรือที่สำคัญ ไม่รอดพ้นจากวิกฤตนี้ เมื่อกาฬโรคเริ่มแพร่ระบาดในปี 1348 เวนิสกลายเป็นเมืองที่ถูกคุกคามอย่างหนัก เพื่อควบคุมการระบาด เกาะโปเวเกลียจึงถูกเปลี่ยนเป็นสถานกักกันโรค ผู้ป่วยที่แสดงอาการป่วย จะถูกส่งไปยังเกาะแห่งนี้เพื่อแยกตัวออกจากประชากร อย่างไรก็ตาม สภาพความเป็นอยู่บนเกาะนั้นเลวร้าย ขาดแคลนทั้งอาหาร ยารักษาโรค และบุคลากรทางการแพทย์ ผู้ป่วยจำนวนมากต้องเผชิญกับความตายอย่างโดดเดี่ยวและน่าเวทนา
เกาะแห่งความตาย: สุสานไร้ชื่อสำหรับผู้เสียชีวิตจากกาฬโรค
เมื่อจำนวนผู้เสียชีวิตจากกาฬโรคเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เกาะโปเวเกลียไม่สามารถรองรับศพได้อีกต่อไป รัฐบาลเวนิสจึงตัดสินใจใช้เกาะแห่งนี้เป็นสุสานสำหรับผู้เสียชีวิตจากกาฬโรคโดยเฉพาะ ศพถูกนำมาเผาหรือฝังอย่างเร่งรีบในหลุมศพขนาดใหญ่ เชื่อกันว่ามีศพจำนวนมหาศาลถูกฝังอยู่ใต้ผืนดินบนเกาะแห่งนี้ บางแหล่งข้อมูลประเมินว่าอาจมีจำนวนมากถึง 160,000 ราย
ประวัติศาสตร์อันมืดมน: โรงพยาบาลบ้าและเรื่องเล่าเขย่าขวัญ
หลังจากกาฬโรคสิ้นสุดลง เกาะโปเวเกลียถูกทิ้งร้างเป็นเวลานาน จนกระทั่งในศตวรรษที่ 18 รัฐบาลเวนิสได้สร้างป้อมปราการขึ้นบนเกาะเพื่อป้องกันการรุกรานจากข้าศึก ต่อมาในปี 1922 เกาะแห่งนี้ถูกใช้เป็นโรงพยาบาลจิตเวช อย่างไรก็ตาม โรงพยาบาลแห่งนี้เต็มไปด้วยเรื่องเล่าและข่าวลืออันน่าขนลุก มีรายงานถึงการทดลองทางการแพทย์ที่ผิดจริยธรรมกับผู้ป่วย รวมถึงการทรมานและการใช้ความรุนแรง เสียงร้องโหยหวนและปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติกลายเป็นเรื่องเล่าขานที่สืบทอดกันมา จนกระทั่งโรงพยาบาลแห่งนี้ถูกปิดตัวลงในปี 1968
ปัจจุบัน: ปิดตายและเรื่องราวลึกลับ
ปัจจุบันเกาะโปเวเกลียยังคงเป็นพื้นที่ต้องห้ามสำหรับสาธารณชน รัฐบาลอิตาลีสั่งห้ามไม่ให้ผู้คนเข้าไปยังเกาะแห่งนี้โดยเด็ดขาด ยกเว้นนักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น เกาะดอกเกลย์ยังคงเป็นปริศนาและเป็นแหล่งรวมเรื่องเล่าลึกลับ ดึงดูดความสนใจจากผู้ที่ชื่นชอบเรื่องราวสยองขวัญและนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสประวัติศาสตร์อันดำมืดของเวนิส
เกร็ดน่ารู้เกี่ยวกับเกาะดอกเกลย์
- ชื่อ “ดอกเกลย์” มาจากพืชชนิดหนึ่งที่เคยขึ้นอยู่ทั่วไปบนเกาะ
- เชื่อกันว่าดินบนเกาะโปเวเกลียมีส่วนผสมของเถ้ากระดูกจากการเผาศพ
- รายการโทรทัศน์เรื่อง Ghost Adventures และ Destination Truth เคยเดินทางไปยังเกาะแห่งนี้เพื่อบันทึกเรื่องราวเหนือธรรมชาติ
ช่วงเวลา | เหตุการณ์ |
---|---|
ศตวรรษที่ 14 | ใช้เป็นสถานกักกันโรคกาฬโรค |
ศตวรรษที่ 18 | สร้างป้อมปราการ |
1922 - 1968 | ใช้เป็นโรงพยาบาลจิตเวช |
ปัจจุบัน | ปิดตาย ห้ามบุคคลทั่วไปเข้า |
เกาะดอกเกลย์ เป็นเครื่องเตือนใจถึงอดีตอันมืดมนของมนุษยชาติ เป็นสถานที่ที่ความตายและความเจ็บป่วยทิ้งรอยแผลเป็นไว้บนประวัติศาสตร์ แม้เวลาจะผ่านไปนานเท่าใด เรื่องราวอันน่าสะพรึงกลัวของเกาะแห่งนี้ยังคงเป็นที่กล่าวขานและรอคอยการพิสูจน์ความจริงต่อไป
#เกาะดอกเกลย์ #เวนิส #กาฬโรค #ประวัติศาสตร์