ม้าม: อวัยวะที่ร่างกายขาดได้ แต่ใช่ว่าจะไม่สำคัญ
ม้าม (Spleen) เป็นอวัยวะที่ตั้งอยู่บริเวณช่องท้องด้านซ้ายบน ใต้กระดูกซี่โครง มีขนาดประมาณกำปั้น และมีหน้าที่สำคัญหลายอย่างในระบบภูมิคุ้มกันและระบบเลือด แม้ว่าม้ามจะเป็นอวัยวะที่สำคัญ แต่ในบางกรณี ม้ามอาจจำเป็นต้องถูกตัดออก เช่น ภาวะม้ามแตกจากอุบัติเหตุ หรือโรคบางชนิดที่ส่งผลต่อม้าม การผ่าตัดเอาม้ามออก (splenectomy) เป็นการผ่าตัดที่ทำได้ค่อนข้างปลอดภัย และร่างกายสามารถทำงานได้ตามปกติแม้ไม่มีม้าม อย่างไรก็ตาม การไม่มีม้ามในร่างกาย จะส่งผลให้ร่างกายมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อบางชนิดเพิ่มมากขึ้น
บทบาทและหน้าที่ของม้าม
ม้ามทำหน้าที่สำคัญหลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกันและระบบเลือด หน้าที่หลักๆ ของม้าม ได้แก่:
- กรองเลือด: ม้ามทำหน้าที่เหมือนกับ “กับดัก” ของเชื้อโรค ภายในม้ามมีเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดต่างๆ ที่คอยดักจับและทำลายเชื้อโรค แบคทีเรีย และสิ่งแปลกปลอมต่างๆ ที่ปะปนมากับกระแสเลือด
- สร้างภูมิคุ้มกัน: ม้ามเป็นแหล่งผลิตแอนติบอดี (Antibody) ซึ่งเป็นโปรตีนที่ทำหน้าที่ต่อต้านเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอม แอนติบอดีจะจับกับเชื้อโรคและทำลาย ทำให้ร่างกายสามารถต่อสู้กับการติดเชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- กักเก็บและทำลายเซลล์เม็ดเลือดแดงที่หมดอายุ: เซลล์เม็ดเลือดแดงมีอายุประมาณ 120 วัน เมื่อเซลล์เม็ดเลือดแดงหมดอายุ ม้ามจะทำหน้าที่ดักจับและทำลาย ส่วนประกอบต่างๆ ของเซลล์เม็ดเลือดแดงที่ถูกย่อยสลายจะถูกนำกลับไปใช้ใหม่ในการสร้างเซลล์เม็ดเลือดใหม่ต่อไป
ชีวิตหลังการตัดม้าม: ความเสี่ยงและการป้องกัน
แม้ว่าร่างกายจะสามารถทำงานได้ตามปกติหลังการตัดม้าม แต่การไม่มีม้ามในร่างกาย จะส่งผลให้ร่างกายมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อบางชนิดเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการติดเชื้อแบคทีเรีย
งานวิจัยจากวารสาร The Lancet พบว่า ผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดเอาม้ามออก มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อแบคทีเรียในกระแสเลือด (Sepsis) สูงกว่าคนทั่วไปถึง 5 เท่า นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อปอดบวม (Pneumonia) เยื่อหุ้มสมองอักเสบ (Meningitis) และการติดเชื้อในกระแสเลือดจากเชื้อแบคทีเรียกลุ่ม Streptococcus pneumoniae, Haemophilus influenzae และ Neisseria meningitidis เพิ่มมากขึ้น
ประเภทของการติดเชื้อ | ความเสี่ยงหลังการตัดม้าม |
---|---|
การติดเชื้อแบคทีเรียในกระแสเลือด (Sepsis) | เพิ่มขึ้น 5 เท่า |
ปอดบวม (Pneumonia) | เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ |
เยื่อหุ้มสมองอักเสบ (Meningitis) | เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ |
การดูแลตัวเองหลังการตัดม้าม
ผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดเอาม้ามออก จำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากแพทย์ และปฏิบัติตามคำแนะนำในการป้องกันการติดเชื้ออย่างเคร่งครัด วิธีการดูแลตัวเองหลังการตัดม้าม ได้แก่:
- รับวัคซีนป้องกันการติดเชื้อ: วัคซีนที่สำคัญ ได้แก่ วัคซีนป้องกันโรคปอดบวม, วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่, วัคซีนป้องกันไข้สมองอักเสบเจอี, วัคซีนป้องกันโรคคอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน, และวัคซีนป้องกันโรคหัด-คางทูม-หัดเยอรมัน ควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับชนิดและกำหนดการฉีดวัคซีนที่เหมาะสม
- รักษาสุขอนามัย: ล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่และน้ำสะอาด หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้าโดยไม่จำเป็น รักษาความสะอาดของร่างกายและเสื้อผ้า รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆ และดื่มน้ำสะอาด
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสผู้ป่วยติดเชื้อ: หากต้องสัมผัสผู้ป่วยติดเชื้อ ควรสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ และหลีกเลี่ยงการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ป่วย
- สังเกตอาการผิดปกติ: หากมีไข้สูง หนาวสั่น ไอ มีเสมหะ หายใจหอบเหนื่อย ปวดศีรษะรุนแรง คอแข็ง ผื่นขึ้น หรือมีอาการผิดปกติอื่นๆ ควรไปพบแพทย์ทันที
แม้ว่าการไม่มีม้ามในร่างกาย จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อบางชนิด แต่ด้วยการปฏิบัติตามคำแนะนำในการป้องกันการติดเชื้ออย่างเคร่งครัด ผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดเอาม้ามออก ส่วนใหญ่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติและมีสุขภาพแข็งแรง
ที่มา: The Lancet (2015); 385(9982):1815-1822
#ม้าม #splenectomy #สุขภาพ #การติดเชื้อ