29 กุมภาพันธ์ 2567

ไขคำตอบ: ภัยคุกคามจากโรคฝีดาษวานร สู่ภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข

ไขคำตอบ: ภัยคุกคามจากโรคฝีดาษวานร สู่ภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข

ไขคำตอบ: ภัยคุกคามจากโรคฝีดาษวานร สู่ภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข

โรคฝีดาษวานร หรือที่รู้จักกันในชื่อใหม่ว่า เอ็มพ็อกซ์ (Mpox) สร้างความกังวลให้กับประชาคมโลกอย่างมากในช่วงปีที่ผ่านมา องค์การอนามัยโลกประกาศให้การระบาดของโรคนี้เป็น "ภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศที่น่ากังวล" (Public Health Emergency of International Concern: PHEIC) แต่คำถามที่หลายคนสงสัยคือ โรคเอ็มพ็อกซ์อันตรายแค่ไหน? บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับโรคนี้ ตั้งแต่ที่มา ลักษณะอาการ ไปจนถึงความรุนแรงและแนวทางการป้องกัน

1. รู้จักกับเอ็มพ็อกซ์: จากสัตว์สู่คน

โรคเอ็มพ็อกซ์ เกิดจากเชื้อไวรัสเอ็มพ็อกซ์ ซึ่งเป็นไวรัสกลุ่มเดียวกับโรคไข้ทรพิษ แต่มีความรุนแรงน้อยกว่า การติดต่อส่วนใหญ่เกิดจากการสัมผัสโดยตรงกับสัตว์ที่ติดเชื้อ เช่น หนู กระรอก หรือลิง การติดต่อจากคนสู่คนสามารถเกิดขึ้นได้ผ่านการสัมผัสสารคัดหลั่งจากร่างกายผู้ติดเชื้อโดยตรง เช่น ตุ่มหนอง น้ำลาย หรือละอองฝอยจากการไอจาม

2. สถานการณ์การระบาด: ตัวเลขที่น่าสนใจ

  • ณ เดือนพฤษภาคม 2566 พบผู้ป่วยโรคเอ็มพ็อกซ์แล้วกว่า 80,000 ราย ในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก
  • ประเทศที่มีรายงานผู้ป่วยสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา บราซิล สเปน เม็กซิโก และสหราชอาณาจักร
  • อัตราการเสียชีวิตจากโรคเอ็มพ็อกซ์ค่อนข้างต่ำ อยู่ที่ประมาณ 3-6% ของผู้ติดเชื้อทั้งหมด

3. อาการของโรค: สิ่งที่ควรสังเกต

อาการเริ่มต้นของโรคเอ็มพ็อกซ์ มักจะคล้ายกับไข้หวัดใหญ่ทั่วไป เช่น

  • มีไข้
  • ปวดศีรษะ
  • ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
  • ต่อมน้ำเหลืองโต
  • อ่อนเพลีย
หลังจากนั้น 1-3 วัน จะมีผื่นขึ้นบริเวณใบหน้า ลำตัว แขน และขา ผื่นจะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นตุ่มหนอง ก่อนจะตกสะเก็ดและหายไปในที่สุด

4. ภัยคุกคามที่แท้จริง: มากกว่าแค่โรคผิวหนัง

แม้ว่าโรคเอ็มพ็อกซ์ส่วนใหญ่จะมีอาการไม่รุนแรง แต่ในบางกรณีอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงได้ เช่น

  • ปอดอักเสบ
  • สมองอักเสบ
  • การติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำซ้อน
  • การติดเชื้อในกระแสเลือด
  • การสูญเสียการมองเห็น
ผู้ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรครุนแรง ได้แก่ เด็กเล็ก สตรีมีครรภ์ ผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ และผู้ที่มีโรคประจำตัวบางชนิด

5. แนวทางการป้องกัน: ลดความเสี่ยงอย่างยั่งยืน

การป้องกันโรคเอ็มพ็อกซ์ ทำได้โดย

  • ล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่และน้ำ หรือแอลกอฮอล์เจล
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสัตว์ป่า หรือสัตว์ที่ป่วย
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย หรือผู้ที่สงสัยว่าป่วย
  • ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์
  • ฉีดวัคซีนป้องกันโรคฝีดาษ ซึ่งสามารถป้องกันโรคเอ็มพ็อกซ์ได้ในระดับหนึ่ง

6. บทสรุป: ความตื่นตัว ไม่ใช่ตื่นตระหนก

โรคเอ็มพ็อกซ์ แม้จะไม่ใช่โรคใหม่ แต่กลับมาสร้างความกังวลให้กับโลกอีกครั้ง ความเข้าใจอย่างถูกต้องเกี่ยวกับโรคนี้ วิธีการติดต่อ อาการ และแนวทางการป้องกัน คือกุญแจสำคัญในการควบคุมการระบาด และการดูแลสุขภาพของเราให้ปลอดภัยจากภัยคุกคามของโรคนี้

#เอ็มพ็อกซ์ #สาธารณสุข #โรคระบาด #สุขภาพ

บทความน่าสนใจ

บทความยอดนิยมตลอดกาล

บทความที่อยู่ในกระแส