25 มิถุนายน 2565

การวิเคราะห์เชิงเปรียบเทียบของสถาปัตยกรรม U-Net และ Vision Transformer ในการแบ่งส่วนต่อมลูกหมากแบบกึ่งกำกับดูแล

การวิเคราะห์เชิงเปรียบเทียบของสถาปัตยกรรม U-Net และ Vision Transformer ในการแบ่งส่วนต่อมลูกหมากแบบกึ่งกำกับดูแล

การวิเคราะห์เชิงเปรียบเทียบของสถาปัตยกรรม U-Net และ Vision Transformer ในการแบ่งส่วนต่อมลูกหมากแบบกึ่งกำกับดูแล

มะเร็งต่อมลูกหมากนับเป็นภัยคุกคามสำคัญต่อสุขภาพของผู้ชายทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว การตรวจหาโรคตั้งแต่ระยะเริ่มต้นถือเป็นกุญแจสำคัญในการรักษาให้หายขาด ซึ่งการแบ่งส่วนต่อมลูกหมาก (Prostate Zonal Segmentation) จากภาพถ่ายทางการแพทย์ เช่น MRI มีบทบาทสำคัญในการวินิจฉัยโรคอย่างแม่นยำ

บทความวิจัย "A Comparative Analysis of U-Net and Vision Transformer Architectures in Semi-Supervised Prostate Zonal Segmentation" ตีพิมพ์ในวารสาร Bioengineering, Vol. 11, Pages 865 ได้นำเสนอการศึกษาเปรียบเทียบประสิทธิภาพของสถาปัตยกรรมโครงข่ายประสาทเทียมสองแบบ คือ U-Net และ Vision Transformer (ViT) ในการแบ่งส่วนต่อมลูกหมากแบบกึ่งกำกับดูแล ซึ่งเป็นเทคนิคที่ใช้ข้อมูลภาพจำนวนมากที่ไม่ได้ติดป้ายกำกับร่วมกับข้อมูลภาพที่ติดป้ายกำกับจำนวนน้อยในการฝึกฝนแบบจำลอง

U-Net และ Vision Transformer: สถาปัตยกรรมแห่งอนาคต

U-Net เป็นโครงข่ายประสาทเทียมแบบคอนโวลูชัน (Convolutional Neural Network) ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในการประมวลผลภาพทางการแพทย์ โครงสร้างของ U-Net ถูกออกแบบมาให้เหมาะสมกับการแบ่งส่วนภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาพที่มีขนาดเล็กและมีความซับซ้อน

ในทางกลับกัน Vision Transformer (ViT) เป็นสถาปัตยกรรมโครงข่ายประสาทเทียมที่เพิ่งเกิดขึ้นใหม่ ซึ่งทำงานโดยอาศัยกลไก self-attention ViT มีความสามารถในการดึงและประมวลผลความสัมพันธ์ระยะไกลภายในภาพได้ดีกว่าโครงข่ายประสาทเทียมแบบคอนโวลูชัน

การเปรียบเทียบประสิทธิภาพ

ผลการวิจัยพบว่าทั้ง U-Net และ ViT มีประสิทธิภาพสูงในการแบ่งส่วนต่อมลูกหมากแบบกึ่งกำกับดูแล โดย ViT ให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า U-Net เล็กน้อยในแง่ของความแม่นยำในการแบ่งส่วน อย่างไรก็ตาม ViT ต้องการข้อมูลจำนวนมากและทรัพยากรในการคำนวณที่สูงกว่า U-Net อย่างมีนัยสำคัญ

สถาปัตยกรรม Dice Score Jaccard Index
U-Net 0.85 0.78
Vision Transformer 0.88 0.81

**Fun Fact:** ทราบหรือไม่ว่า มะเร็งต่อมลูกหมากเป็นมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับสองของผู้ชายทั่วโลก

สรุป

การศึกษาครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เพื่อยกระดับการวินิจฉัยและรักษาโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก แม้ ViT จะแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการแบ่งส่วนต่อมลูกหมากได้อย่างแม่นยำ แต่ข้อจำกัดด้านข้อมูลและทรัพยากรในการคำนวณยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญ ดังนั้น การพัฒนา ViT ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นและสามารถทำงานได้ดีบนอุปกรณ์ที่มีทรัพยากรจำกัดจึงเป็นประเด็นที่น่าสนใจสำหรับงานวิจัยในอนาคต

อ้างอิง: [https://www.mdpi.com/2076-3417/11/15/865](https://www.mdpi.com/2076-3417/11/15/865)

#AI #การแพทย์ #มะเร็งต่อมลูกหมาก #Bioengineering

บทความน่าสนใจ

บทความยอดนิยมตลอดกาล

บทความที่อยู่ในกระแส