29 มิถุนายน 2565

อารมณ์ขันกับการตลาด

อารมณ์ขันกับการตลาด

อารมณ์ขันกับการตลาด

ในโลกธุรกิจที่เต็มไปด้วยการแข่งขัน การสร้างความโดดเด่นและน่าจดจำให้กับแบรนด์เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง และหนึ่งในกลยุทธ์ที่ทรงพลังและได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายคือ การใช้ “อารมณ์ขัน” ในการตลาด เพราะอารมณ์ขันเปรียบเสมือนสะพานเชื่อมต่อระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภค ช่วยสร้างความรู้สึกผ่อนคลาย เป็นกันเอง และน่าจดจำ แต่การใช้ “อารมณ์ขัน” อย่างมีประสิทธิภาพนั้น ต้องอาศัยความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง

ทำไมอารมณ์ขันจึงสำคัญในการตลาด?

1. ดึงดูดความสนใจ: ในยุคที่ผู้บริโภคถูกกระหน่ำด้วยข้อมูลมากมาย การใช้มุกตลก สิ่งขบขัน หรือเนื้อหาที่สร้างรอยยิ้ม สามารถดึงดูดความสนใจจากกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ งานวิจัยจาก Nielsen Consumer Neuroscience พบว่า โฆษณาที่สร้างอารมณ์ขัน มีแนวโน้มที่จะถูกจดจำได้มากกว่าโฆษณาที่ไม่ใช้ ถึง 2 เท่า

2. สร้างความรู้สึกเชิงบวก: เสียงหัวเราะและอารมณ์ขันช่วยกระตุ้นการหลั่งสารเอ็นโดรฟิน ซึ่งเป็นสารแห่งความสุข ทำให้ผู้บริโภครู้สึกผ่อนคลายและมีความสุข เมื่อพวกเขามีความรู้สึกเชิงบวกต่อแบรนด์ ก็มีแนวโน้มที่จะเปิดรับข้อความทางการตลาดและตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการมากขึ้น

3. เพิ่มการจดจำ: อารมณ์ขันเป็นเครื่องมือทรงพลังในการสร้างความทรงจำ เมื่อผู้บริโภคพบเจอสิ่งที่ตลกขบขัน สมองจะจดจำข้อมูลนั้นได้ดีขึ้น งานวิจัยจาก University of California พบว่า การเรียนรู้ผ่านอารมณ์ขัน ช่วยเพิ่มความจำได้มากถึง 20%

ตัวอย่างการใช้อารมณ์ขันในการตลาดที่ประสบความสำเร็จ

  1. โฆษณา “Talk to your doctor” ของ Dollar Shave Club
    โฆษณาเปิดตัวแบรนด์นี้โด่งดังไปทั่วโลก ด้วยการใช้มุกตลกแบบ Deadpan เสียดสีการตลาดแบบเดิมๆ ของผลิตภัณฑ์โกนหนวด ส่งผลให้มียอดผู้ชมบน YouTube กว่า 27 ล้านครั้ง และทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักในวงกว้าง

  2. แคมเปญ “#EatLikeAGirl” ของ Always
    แคมเปญนี้ใช้พลังของอารมณ์ขันเชิงเสียดสี เพื่อท้าทายทัศนคติแบบเหมารวมทางเพศ โดยชี้ให้เห็นว่าวลี “เหมือนผู้หญิง” ไม่ได้เป็นสิ่งที่ควรดูถูกเหยียดหยาม แคมเปญนี้ประสบความสำเร็จอย่างมาก ได้รับรางวัลมากมาย และช่วยยกระดับภาพลักษณ์ของแบรนด์ได้อย่างมีนัยสำคัญ

  3. การตลาดบนโซเชียลมีเดียของ Wendy’s
    Wendy’s เป็นแบรนด์อาหารฟาสต์ฟู้ดที่ขึ้นชื่อเรื่องการใช้มุกตลก และการตอบโต้แบบกัดจิกบนโซเชียลมีเดีย กลยุทธ์นี้ช่วยสร้างบุคลิกที่โดดเด่นให้กับแบรนด์ ดึงดูดผู้ติดตามจำนวนมาก และกระตุ้นการมีส่วนร่วมจากผู้บริโภคอย่างล้นหลาม

ข้อควรพิจารณาในการใช้อารมณ์ขันในการตลาด

ถึงแม้ว่าอารมณ์ขันจะเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ แต่การใช้ให้ถูกกาลเทศะและเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายก็เป็นสิ่งสำคัญ

ข้อควรพิจารณา คำอธิบาย
รู้จักกลุ่มเป้าหมาย อารมณ์ขันเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล สิ่งที่คนกลุ่มหนึ่งตลก คนอีกกลุ่มหนึ่งอาจไม่ตลก ดังนั้น การทำความเข้าใจกลุ่มเป้าหมาย เช่น อายุ เพศ วัฒนธรรม และความสนใจ เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อเลือกใช้มุกตลกและรูปแบบการนำเสนอที่เหมาะสม
ไม่ล้ำเส้น หลีกเลี่ยงการใช้มุกตลกที่ดูถูก เหยียดหยาม หรือสร้างความไม่สบายใจให้กับผู้อื่น รวมถึงการเล่นกับเรื่องละเอียดอ่อน เช่น เชื้อชาติ ศาสนา หรือเพศ เพราะอาจส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์ได้
อย่าฝืนจนเกินไป หากแบรนด์ของคุณไม่ได้มีภาพลักษณ์ที่ขบขัน ไม่จำเป็นต้องฝืนใช้มุกตลกจนดูไม่เป็นธรรมชาติ ควรเลือกใช้กลยุทธ์อื่นๆ ที่สอดคล้องกับตัวตนของแบรนด์มากกว่า

สรุปได้ว่า อารมณ์ขันเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่ทรงพลัง สามารถช่วยสร้างความโดดเด่น ดึงดูดความสนใจ และสร้างความรู้สึกเชิงบวกให้กับแบรนด์ได้ อย่างไรก็ตาม การใช้อารมณ์ขันให้มีประสิทธิภาพนั้น ต้องอาศัยความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในกลุ่มเป้าหมาย และการเลือกใช้มุกตลกและรูปแบบการนำเสนอที่เหมาะสม

#อารมณ์ขัน #การตลาด #แบรนด์ #ผู้บริโภค

บทความน่าสนใจ

บทความยอดนิยมตลอดกาล

บทความที่อยู่ในกระแส