30 กรกฎาคม 2564

สารสื่อประสาทเซโรโทนิน: กุญแจสำคัญสู่ความสุขและอารมณ์ที่สมดุล

สารสื่อประสาทเซโรโทนิน: กุญแจสำคัญสู่ความสุขและอารมณ์ที่สมดุล

สารสื่อประสาทเซโรโทนิน: กุญแจสำคัญสู่ความสุขและอารมณ์ที่สมดุล

ในโลกที่เต็มไปด้วยความเร่งรีบและความเครียด การดูแลสุขภาพจิตและอารมณ์กลายเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่มีบทบาทต่ออารมณ์และความรู้สึกของเราคือ สารสื่อประสาทในสมอง และสารสื่อประสาทหนึ่งที่มีบทบาทโดดเด่นต่อความรู้สึกสุข ความพึงพอใจ และอารมณ์ที่มั่นคงก็คือ "เซโรโทนิน"

เซโรโทนินคืออะไร?

เซโรโทนิน (Serotonin) หรือ 5-hydroxytryptamine (5-HT) คือสารสื่อประสาทชนิดหนึ่งที่พบได้ในสมอง ลำไส้ และเกล็ดเลือด โดยมีบทบาทสำคัญในการควบคุมการทำงานของร่างกายหลายอย่าง เช่น การนอนหลับ การรับรู้ความเจ็บปวด อุณหภูมิร่างกาย ความอยากอาหาร รวมถึงอารมณ์และความรู้สึกต่างๆ

เซโรโทนินส่งผลต่ออารมณ์อย่างไร?

เซโรโทนินทำหน้าที่เป็นเหมือน "สารแห่งความสุข" โดยจะถูกปล่อยออกมาเมื่อเรารู้สึกพึงพอใจ ผ่อนคลาย มีความสุข หรือประสบความสำเร็จ ซึ่งจะช่วยลดความวิตกกังวล ลดความเครียด และเสริมสร้างความรู้สึกสงบ ในทางกลับกัน หากระดับเซโรโทนินในสมองต่ำลง อาจส่งผลให้อารมณ์แปรปรวน เกิดภาวะซึมเศร้า วิตกกังวล หรือแม้กระทั่งมีพฤติกรรมก้าวร้าวได้

ปัจจัยใดบ้างที่ส่งผลต่อระดับเซโรโทนิน?

ระดับเซโรโทนินในร่างกายของคนเราสามารถได้รับอิทธิพลจากปัจจัยต่างๆ ดังนี้

  1. พันธุกรรม: งานวิจัยพบว่าพันธุกรรมมีส่วนเกี่ยวข้องกับระดับเซโรโทนินในสมอง บางคนอาจมียีนที่กำหนดให้มีระดับเซโรโทนินต่ำกว่าคนอื่นๆ
  2. อาหาร: อาหารที่เรารับประทานมีผลต่อการผลิตเซโรโทนิน โดยเฉพาะอาหารที่อุดมไปด้วยทริปโตเฟน (Tryptophan) ซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่ร่างกายนำไปสร้างเซโรโทนิน เช่น เนื้อสัตว์ ปลา ไข่ นม ถั่วเหลือง กล้วย และดาร์กช็อกโกแลต เป็นต้น
  3. แสงแดด: การได้รับแสงแดดอย่างเพียงพอในช่วงเช้าช่วยกระตุ้นการผลิตเซโรโทนิน ขณะที่การขาดแสงแดดอาจส่งผลให้ระดับเซโรโทนินลดลง และเสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้าตามฤดูกาล (Seasonal Affective Disorder: SAD)
  4. การออกกำลังกาย: การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอช่วยเพิ่มระดับเซโรโทนินในสมอง ส่งผลให้อารมณ์ดีขึ้น ลดความเครียด และนอนหลับได้ดีขึ้น
  5. ความเครียด: ความเครียดเรื้อรังเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ระดับเซโรโทนินในสมองลดต่ำลง

วิธีเพิ่มระดับเซโรโทนินอย่างเป็นธรรมชาติ

นอกจากการรับประทานยาตามแพทย์สั่งแล้ว เรายังสามารถเพิ่มระดับเซโรโทนินในร่างกายได้ด้วยตัวเองอย่างเป็นธรรมชาติ ดังนี้

  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์: เน้นอาหารที่อุดมไปด้วยทริปโตเฟน เช่น ปลาแซลมอน ไข่ นม ถั่วเปลือกแข็ง เมล็ดพืชต่างๆ
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ: เลือกกิจกรรมที่ชื่นชอบ เช่น เดิน วิ่ง ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ เต้นรำ หรือเล่นโยคะ อย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน สัปดาห์ละ 3-5 วัน
  • รับแสงแดดอย่างเพียงพอ: พยายามตากแดดอ่อนๆ ในช่วงเช้าประมาณ 15-20 นาทีต่อวัน
  • ฝึกผ่อนคลายความเครียด: หากิจกรรมที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย เช่น ฟังเพลง อ่านหนังสือ ดูหนัง ทำสมาธิ ฝึกโยคะ หรือใช้เวลากับธรรมชาติ
  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ: ควรนอนหลับให้ได้วันละ 7-8 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายได้ผลิตเซโรโทนินอย่างเพียงพอ

เซโรโทนินกับโรคต่างๆ

ระดับเซโรโทนินที่ผิดปกติ ทั้งระดับที่ต่ำเกินไปหรือสูงเกินไป อาจส่งผลต่อการทำงานของร่างกายและจิตใจ รวมถึงเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคต่างๆ ดังนี้

ระดับเซโรโทนิน ผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจ โรคที่เกี่ยวข้อง
ต่ำ
  • อารมณ์แปรปรวน
  • วิตกกังวล
  • ซึมเศร้า
  • นอนไม่หลับ
  • ความอยากอาหารเพิ่มขึ้น
  • โรคซึมเศร้า
  • โรควิตกกังวล
  • โรคไมเกรน
  • โรคอ้วน
สูง
  • หัวใจเต้นเร็ว
  • ความดันโลหิตสูง
  • คลื่นไส้ อาเจียน
  • ท้องร่วง
  • สับสน
  • โรคเซโรโทนินซินโดรม (Serotonin Syndrome)

สรุป

สารสื่อประสาทเซโรโทนินมีบทบาทสำคัญต่อการทำงานของร่างกายและจิตใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่ออารมณ์และความรู้สึก การดูแลระดับเซโรโทนินให้สมดุลจึงเป็นสิ่งสำคัญในการส่งเสริมสุขภาพกายและใจให้แข็งแรง การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต เช่น การเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การพักผ่อนให้เพียงพอ และการจัดการกับความเครียดอย่างเหมาะสม ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยเพิ่มระดับเซโรโทนินและส่งเสริมสุขภาวะที่ดีได้

#เซโรโทนิน #สารแห่งความสุข #สุขภาพจิต #อารมณ์ดี

บทความน่าสนใจ

บทความยอดนิยมตลอดกาล

บทความที่อยู่ในกระแส