159 ลิตร: เบื้องหลังปริศนา 'น้ำมันดิบ' หนึ่งบาร์เรล
คุณอาจเคยได้ยินคำว่า "น้ำมันดิบหนึ่งบาร์เรล" ผ่านหูมาบ้าง ไม่ว่าจะเป็นข่าวเศรษฐกิจ การเมือง หรือแม้แต่บทสนทนาทั่วไป แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่า แท้จริงแล้ว "หนึ่งบาร์เรล" นั้น มีปริมาตรเท่าใด และเพราะเหตุใดจึงต้องใช้หน่วยวัดที่ไม่คุ้นเคยเช่นนี้
ไขปริศนา "บาร์เรล"
ย้อนกลับไปในช่วงศตวรรษที่ 19 ซึ่งเป็นยุคเริ่มต้นของอุตสาหกรรมน้ำมัน สหรัฐอเมริกา ถือเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลก ในขณะนั้น ยังไม่มีหน่วยวัดปริมาตรน้ำมันที่เป็นมาตรฐาน บรรดาพ่อค้าจึงมักใช้วิธีบรรจุน้ำมันดิบลงใน ถังไม้ขนาด 42 แกลลอน ซึ่งเป็นขนาดที่สะดวกต่อการขนส่งด้วยรถม้า และเป็นขนาดที่คนงานหนึ่งคนสามารถเคลื่อนย้ายได้
ต่อมา ถังไม้ขนาด 42 แกลลอนนี้ ได้กลายเป็นมาตรฐานที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรม จนถูกเรียกขานว่า "บาร์เรล" และแม้ว่าในปัจจุบัน เราจะไม่ใช้ถังไม้ในการขนส่งน้ำมันแล้ว แต่หน่วยวัด "บาร์เรล" ก็ยังคงถูกใช้เป็นมาตรฐานสากล โดย 1 บาร์เรล มีปริมาตรเท่ากับ 158.987 ลิตร หรือประมาณ 159 ลิตร
159 ลิตร: มากน้อยเพียงใด ?
เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น ลองนึกภาพตามนี้:
- น้ำมันดิบ 1 บาร์เรล สามารถผลิตน้ำมันเบนซินได้ประมาณ 72 ลิตร ซึ่งเพียงพอสำหรับรถยนต์ขนาดกลางเติมได้เต็มถังประมาณ 2-3 คัน
- นอกจากน้ำมันเบนซินแล้ว น้ำมันดิบ 1 บาร์เรล ยังสามารถนำไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ได้อีกมากมาย อาทิ น้ำมันดีเซล น้ำมันก๊าด ยางมะตอย พลาสติก และสารเคมีอีกกว่า 5,000 ชนิด
Fun Fact
- คุณรู้หรือไม่ว่า ราคา "น้ำมันดิบ 1 บาร์เรล" ที่เราเห็นในข่าว ไม่ได้เป็นราคาของน้ำมันดิบเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงต้นทุนในการผลิต ขนส่ง และกำไรของผู้ขายอีกด้วย
- ประเทศไทย เราไม่มีบ่อน้ำมันดิบเป็นของตนเอง เราจึงต้องนำเข้าน้ำมันดิบจากต่างประเทศ โดยประเทศที่เรานำเข้าน้ำมันดิบมากที่สุด คือ ซาอุดีอาระเบีย
ข้อมูลสถิติที่น่าตกใจ
ประเทศ | ปริมาณการบริโภคน้ำมันดิบ (ล้านบาร์เรลต่อวัน) |
---|---|
สหรัฐอเมริกา | 19.98 |
จีน | 14.09 |
อินเดีย | 4.79 |
ญี่ปุ่น | 3.57 |
รัสเซีย | 3.42 |
จะเห็นได้ว่า "น้ำมันดิบ" ยังคงเป็นทรัพยากรที่สำคัญของโลก และแม้ว่า "หนึ่งบาร์เรล" อาจดูเป็นหน่วยวัดที่แปลกตา แต่ก็เป็นหน่วยวัดที่สะท้อนถึงประวัติศาสตร์และความสำคัญของอุตสาหกรรมน้ำมันได้เป็นอย่างดี
#น้ำมันดิบ #159ลิตร #บาร์เรล #พลังงาน