ประเทศญี่ปุ่น ดินแดนอาทิตย์อุทัย ที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมอันงดงามและธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ แต่ทราบหรือไม่ว่า กลางทะเลอันกว้างใหญ่ไพศาล ยังมีเกาะแห่งหนึ่งที่คนญี่ปุ่นขนานนามว่า "เกาะต้องห้าม" หรือ "เกาะแห่งอสรพิษ" ซ่อนตัวอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ไม่ได้มีเพียงแค่ตำนานเล่าขานที่ชวนขนหัวลุกเท่านั้น แต่ยังมีเรื่องราวทางธรรมชาติอันน่าทึ่ง ที่รอให้เราได้เข้าไปสัมผัสและค้นหาความจริง
ย้อนตำนาน เกาะฮาชิมะ: จากขุมทรัพย์ สู่เกาะร้าง
เกาะฮาชิมะ หรือที่รู้จักกันในนาม "กุนคันจิมะ" (軍艦島) แปลว่า "เกาะเรือรบ" ตั้งอยู่ห่างจากเมืองนางาซากิไปประมาณ 15 กิโลเมตร ครั้งหนึ่งเคยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมเหมืองถ่านหินที่รุ่งเรืองเฟื่องฟู มีประชากรอยู่อาศัยอย่างหนาแน่นกว่า 5,000 คน ในช่วงปี ค.ศ. 1950 แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป ทรัพยากรถ่านหินเริ่มร่อยหรอ เกาะฮาชิมะจึงถูกทิ้งร้างในปี ค.ศ. 1974 กลายเป็นเมืองร้างที่หลงเหลือเพียงซากปรักหักพัง
เรื่องเล่าสยองขวัญ บนเกาะต้องคำสาป
ความเงียบสงัด วังเวง และบรรยากาศอันน่าขนลุกของเกาะฮาชิมะ ก่อเกิดเป็นเรื่องเล่าสยองขวัญมากมาย ชาวประมงเล่าลือถึงเสียงร้องโหยหวนในยามค่ำคืน บางคนอ้างว่าพบเห็นวิญญาณเร่ร่อนอยู่ตามอาคารร้าง เรื่องราวเหล่านี้ถูกเล่าขานสืบต่อกันมา จนกลายเป็นตำนานที่ทำให้หลายคนหวาดกลัว และไม่กล้าเฉียดกรายเข้าใกล้เกาะแห่งนี้
ความจริงที่น่าทึ่ง เกาะฮาชิมะ ในมุมมองวิทยาศาสตร์
แม้จะมีเรื่องเล่าชวนขนหัวลุกมากมาย แต่ในมุมมองของนักวิทยาศาสตร์แล้ว เกาะฮาชิมะกลับเป็นแหล่งศึกษาทางประวัติศาสตร์และระบบนิเวศที่น่าสนใจ การที่เกาะแห่งนี้ถูกทิ้งร้างมานานกว่า 40 ปี ทำให้ธรรมชาติได้ฟื้นฟูตัวเอง ต้นไม้ขึ้นปกคลุมอาคารร้าง กลายเป็นที่อยู่อาศัยของนกทะเลนานาชนิด นักวิจัยได้เข้าสำรวจและบันทึกข้อมูลทางชีวภาพของเกาะฮาชิมะอย่างต่อเนื่อง เพื่อศึกษาผลกระทบของมนุษย์ต่อสิ่งแวดล้อม
เกาะฮาชิมะ: มรดกโลก และแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์
ในปี ค.ศ. 2015 องค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนเกาะฮาชิมะ เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม ในฐานะสัญลักษณ์ของการปฏิวัติอุตสาหกรรม ปัจจุบันเกาะฮาชิมะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชมบางส่วน ภายใต้มาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสบรรยากาศเมืองร้าง เรียนรู้ประวัติศาสตร์ และชื่นชมความงามของสถาปัตยกรรมที่ผุพังตามกาลเวลา
#ญี่ปุ่น #เกาะฮาชิมะ #มรดกโลก #ตำนาน