03 กันยายน 2568

บทบาทของการบริโภคธาตุเหล็กในปริมาณต่ำจากน้ำบาดาลต่อการป้องกันโรคโลหิตจางในเด็ก: การศึกษาแบบภาคตัดขวางในชนบทของบังคลาเทศ

บทบาทของการบริโภคธาตุเหล็กในปริมาณต่ำจากน้ำบาดาลต่อการป้องกันโรคโลหิตจางในเด็ก: การศึกษาแบบภาคตัดขวางในชนบทของบังคลาเทศ

บทบาทของการบริโภคธาตุเหล็กในปริมาณต่ำจากน้ำบาดาลต่อการป้องกันโรคโลหิตจางในเด็ก: การศึกษาแบบภาคตัดขวางในชนบทของบังคลาเทศ

โรคโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กนับเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนา บทความวิจัย “Role of Low Amount of Iron Intake from Groundwater for Prevention of Anemia in Children: A Cross-Sectional Study in Rural Bangladesh” ตีพิมพ์ในวารสาร Nutrients, Vol. 16, Pages 2844 ได้นำเสนอผลการศึกษาที่น่าสนใจเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างการบริโภคธาตุเหล็กในปริมาณต่ำจากน้ำบาดาลกับภาวะโลหิตจางในเด็กชนบทของบังคลาเทศ

ภูมิหลัง

ธาตุเหล็กเป็นแร่ธาตุสำคัญที่ร่างกายต้องการสำหรับการสร้างเม็ดเลือดแดง ซึ่งทำหน้าที่ลำเลียงออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกาย ภาวะขาดธาตุเหล็กเป็นสาเหตุหลักของโรคโลหิตจาง ซึ่งส่งผลต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของเด็ก ในบังคลาเทศ พบว่าเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี มีอัตราการเกิดภาวะโลหิตจางสูงถึงร้อยละ 55 สาเหตุสำคัญประการหนึ่งของภาวะนี้คือ การบริโภคอาหารที่มีธาตุเหล็กต่ำ

อย่างไรก็ตาม งานวิจัยบางชิ้นชี้ให้เห็นว่า การบริโภคน้ำบาดาลที่มีธาตุเหล็กในปริมาณต่ำ อาจช่วยลดความเสี่ยงของภาวะโลหิตจางได้ เนื่องจากธาตุเหล็กในน้ำจะถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ดีกว่าธาตุเหล็กจากอาหาร โดยเฉพาะในภาวะที่ร่างกายขาดธาตุเหล็ก

วัตถุประสงค์

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการบริโภคธาตุเหล็กในปริมาณต่ำจากน้ำบาดาลกับภาวะโลหิตจางในเด็กอายุ 6-59 เดือน ในชนบทของบังคลาเทศ

วิธีการศึกษา

งานวิจัยนี้เป็นการศึกษาแบบภาคตัดขวาง โดยเก็บข้อมูลจากเด็กจำนวน 350 คน ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งของบังคลาเทศ ผู้วิจัยได้ทำการ:

  • เก็บตัวอย่างเลือดเพื่อตรวจวัดระดับฮีโมโกลบินในเลือด
  • เก็บตัวอย่างน้ำดื่มจากแหล่งน้ำที่เด็กบริโภคเป็นประจำ เพื่อตรวจวัดปริมาณธาตุเหล็ก
  • สัมภาษณ์ผู้ปกครองเพื่อเก็บข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมการบริโภคอาหารของเด็ก

ผลการศึกษา

ผลการศึกษาพบว่า เด็กที่บริโภคน้ำบาดาลที่มีธาตุเหล็กในปริมาณต่ำ (น้อยกว่า 0.3 มิลลิกรัมต่อลิตร) มีแนวโน้มที่จะมีระดับฮีโมโกลบินในเลือดสูงกว่าเด็กที่บริโภคน้ำบาดาลที่มีธาตุเหล็กในปริมาณสูงกว่า (ตั้งแต่ 0.3 มิลลิกรัมต่อลิตรขึ้นไป) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < 0.05)

ระดับธาตุเหล็กในน้ำดื่ม (มิลลิกรัมต่อลิตร) จำนวนเด็ก (คน) ค่าเฉลี่ยระดับฮีโมโกลบิน (กรัมต่อเดซิลิตร)
< 0.3 180 11.5 ± 1.2
≥ 0.3 170 10.8 ± 1.0

อย่างไรก็ตาม เมื่อปรับปัจจัยต่างๆ เช่น อายุ เพศ สถานะทางโภชนาการของมารดา และพฤติกรรมการบริโภคอาหารของเด็กแล้ว พบว่าความสัมพันธ์ดังกล่าวไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ (p > 0.05)

สรุปและข้อเสนอแนะ

งานวิจัยนี้ชี้ให้เห็นว่า การบริโภคธาตุเหล็กในปริมาณต่ำจากน้ำบาดาล อาจไม่ใช่ปัจจัยสำคัญในการป้องกันโรคโลหิตจางในเด็กชนบทของบังคลาเทศ การแก้ปัญหาโรคโลหิตจางในเด็ก ควรให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการบริโภคอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง ควบคู่ไปกับการแก้ปัญหาการขาดสารอาหารอื่นๆ

ข้อจำกัด

งานวิจัยนี้เป็นการศึกษาแบบภาคตัดขวาง จึงไม่สามารถสรุปสาเหตุและผลได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ การเก็บข้อมูลพฤติกรรมการบริโภคอาหาร อาจมีความคลาดเคลื่อนจากการรายงานของผู้ปกครอง

Fun Fact

รู้หรือไม่ว่า ตับ เป็นอวัยวะที่ร่างกายเก็บสะสมธาตุเหล็กไว้มากที่สุด ดังนั้น การรับประทานอาหารที่มีตับเป็นส่วนประกอบ จึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยเพิ่มระดับธาตุเหล็กในร่างกายได้

#โภชนาการ #โลหิตจาง #ธาตุเหล็ก #บังคลาเทศ

บทความน่าสนใจ

บทความยอดนิยมตลอดกาล

บทความที่อยู่ในกระแส