เมื่อช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 30 พฤษภาคม 2566 กรุงมอสโก เมืองหลวงของรัสเซีย ต้องเผชิญกับการโจมตีด้วยโดรนครั้งใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากการรุกรานยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2565 โดยเจ้าหน้าที่รัสเซียรายงานว่า พบโดรนจำนวนมาก บินเข้ามาในน่านฟ้าของกรุงมอสโก และพื้นที่โดยรอบ สร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชน
แม้ทางการรัสเซียจะออกมาอ้างว่าสามารถยิงโดรนตกได้ทั้งหมด และไม่มีรายงานความเสียหาย หรือ ผู้บาดเจ็บสาหัสจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ แต่เหตุการณ์ดังกล่าว ก็ได้ตอกย้ำให้เห็นถึงความเปราะบางของระบบป้องกันภัยทางอากาศของรัสเซีย และ แสดงให้เห็นว่าสงครามกำลังขยายวงกว้างขึ้น
โดรน: อาวุธที่เข้าถึงง่ายและมีประสิทธิภาพ
การใช้โดรนในการโจมตี ไม่ใช่เรื่องใหม่ในสงครามยุคใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ยืดเยื้อมานานกว่าหนึ่งปี ทั้งสองฝ่ายต่างใช้โดรนในการสอดแนม, โจมตีเป้าหมายทางทหาร และ โจมตีโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ
โดรนมีราคาถูกกว่าเครื่องบินรบแบบดั้งเดิมมาก ทำให้เข้าถึงได้ง่ายกว่าสำหรับประเทศต่างๆ และกลุ่มติดอาวุธ ยิ่งไปกว่านั้น โดรนยังสามารถติดตั้งอาวุธได้หลากหลายประเภท ตั้งแต่ระเบิดขนาดเล็ก ไปจนถึงขีปนาวุธนำวิถี
ความกังวลต่อสงครามที่ขยายวงกว้าง
เหตุการณ์การโจมตีกรุงมอสโกด้วยโดรนครั้งนี้ สร้างความกังวลให้กับนานาชาติ เกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่สงครามในยูเครนจะขยายวงกว้างขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากรัสเซียเชื่อว่ายูเครนอยู่เบื้องหลังการโจมตี
อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีฝ่ายใดออกมาอ้างความรับผิดชอบต่อการโจมตีดังกล่าว
ตารางแสดงจำนวนการโจมตีด้วยโดรนในกรุงมอสโก
เดือน | จำนวนครั้ง |
---|---|
มกราคม 2566 | 0 |
กุมภาพันธ์ 2566 | 1 |
มีนาคม 2566 | 2 |
เมษายน 2566 | 3 |
พฤษภาคม 2566 | 4 |
**หมายเหตุ:** ข้อมูลในตารางนี้เป็นตัวอย่างเท่านั้น และไม่ได้อ้างอิงจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้
บทสรุป
การโจมตีกรุงมอสโกด้วยโดรนครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ สะท้อนให้เห็นถึงวิวัฒนาการของสงครามยุคใหม่ และความท้าทายที่เพิ่มขึ้นในการรับมือกับภัยคุกคามจากโดรน เหตุการณ์เช่นนี้ อาจเกิดขึ้นอีกในอนาคต และจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงระหว่างประเทศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
#สงครามยูเครน #โดรน #รัสเซีย #ความมั่นคง