เคยไหม ที่รู้สึกว่าสมองล้า คิดอะไรไม่ออกหลังจากใช้ความคิดอย่างหนักหน่วงมาทั้งวัน บางทีเราก็รู้สึกปวดหัว อ่อนเพลีย จนอยากจะหยุดคิดไปเสียหมด ความรู้สึกนี้ไม่ใช่เรื่องที่เราคิดไปเอง เพราะงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ได้ยืนยันแล้วว่า การใช้ความคิดอย่างหนักนั้นส่งผลกระทบทางกายภาพต่อสมองของเราได้จริง ๆ
ความสัมพันธ์ระหว่าง ความคิด สมอง และ พลังงาน
สมองของมนุษย์นั้นเปรียบเสมือนกับเครื่องจักรอันซับซ้อนที่ต้องการพลังงานมหาศาลในการทำงาน แม้ว่าสมองจะมีน้ำหนักเพียง 2% ของน้ำหนักตัว แต่กลับใช้พลังงานมากถึง 20% ของพลังงานทั้งหมดที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน การคิด วิเคราะห์ แก้ปัญหา หรือแม้แต่การจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งล้วนต้องใช้พลังงานทั้งนั้น
งานวิจัยชิ้นหนึ่งจากมหาวิทยาลัยเยลพบว่า เมื่อเราใช้สมองอย่างหนักหน่วง สมองจะผลิตสารที่เรียกว่า กลูตาเมต (Glutamate) ออกมามากขึ้น สารชนิดนี้มีประโยชน์ในการส่งสัญญาณประสาทและการเรียนรู้ แต่ในปริมาณที่มากเกินไป กลูตาเมต กลับกลายเป็นพิษต่อเซลล์สมองและทำให้เกิดความรู้สึกเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย ปวดหัว และมีสมาธิสั้นลง
งานวิจัยเผย การใช้ความคิดมากเกินไปส่งผลเสียต่อสมอง
ผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร "Current Biology" ในปี 2022 ได้ทำการศึกษาโดยใช้เทคนิค fMRI สแกนสมองของผู้เข้าร่วมทดลอง โดยแบ่งกลุ่มผู้เข้าร่วมเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกให้ทำงานที่ต้องใช้สมองอย่างหนักหน่วง เช่น การแก้โจทย์คณิตศาสตร์ที่ซับซ้อน ส่วนกลุ่มที่สองให้ทำงานที่ไม่ต้องใช้สมองมากนัก เช่น การดูภาพยนตร์ ผลปรากฏว่ากลุ่มที่ต้องทำงานใช้สมองอย่างหนักจะมีระดับของ กลูตาเมต ในสมองส่วน prefrontal cortex (สมองส่วนหน้าที่ควบคุมการตัดสินใจ การวางแผน และการควบคุมอารมณ์) สูงกว่ากลุ่มที่ไม่ได้ใช้สมองอย่างมาก
นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมที่ใช้สมองอย่างหนักยังแสดงอาการเหนื่อยล้า สมาธิสั้นลง และตัดสินใจได้แย่ลงหลังจากทำภารกิจเสร็จสิ้น ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยอีกหลายชิ้นที่บ่งชี้ว่าการใช้สมองอย่างหนักหน่วงเป็นเวลานานส่งผลเสียต่อการทำงานของสมองส่วน prefrontal cortex ทำให้ประสิทธิภาพในการคิดวิเคราะห์ การตัดสินใจ และการควบคุมตนเองลดลง
วิธีดูแลสมองเมื่อต้องใช้ความคิดหนัก
แม้ว่าการใช้ความคิดอย่างหนักจะเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยากในชีวิตประจำวัน แต่เราก็สามารถดูแลสมองของเราให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงจากผลกระทบของการใช้ความคิดหนักได้ ด้วยวิธีการง่ายๆ ดังนี้
- พักผ่อนให้เพียงพอ การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อการฟื้นฟูสมอง
- ออกกำลังกายเป็นประจำ การออกกำลังกายช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือดไปเลี้ยงสมอง และกระตุ้นการสร้างเซลล์สมองใหม่
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เลือกรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ โอเมก้า 3 และวิตามินบี
- ฝึกสมาธิ การฝึกสมาธิช่วยลดความเครียดและเพิ่มความสามารถในการจดจ่อ
- แบ่งเวลาพักผ่อนสมอง การทำงานหรือเรียนหนังสือติดต่อกันเป็นเวลานานๆ จะทำให้สมองล้า ควรแบ่งเวลาพักเบรกสั้นๆ เพื่อผ่อนคลายสมอง เช่น การเดิน การยืดเส้นยืดสาย หรือการฟังเพลง
ข้อสรุป
“It really does hurt to think, science shows” ไม่ใช่เพียงคำกล่าวที่ใช้พูดเล่นๆ อีกต่อไป เพราะงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า การใช้ความคิดอย่างหนักหน่วงส่งผลกระทบต่อสมองของเราทั้งทางตรงและทางอ้อม การดูแลสุขภาพสมองจึงเป็นสิ่งที่เราไม่ควรมองข้าม เพื่อให้สมองของเราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆต่อไปในอนาคต
#สุขภาพ #สมอง