ทำไมโลกมีแผ่นดินไหว?
แผ่นดินไหว ปรากฏการณ์ธรรมชาติที่สร้างความสั่นสะเทือนให้กับพื้นผิวโลก เกิดขึ้นบ่อยครั้งในบางพื้นที่และสร้างความเสียหายได้อย่างมหาศาล แต่เคยสงสัยกันไหมว่า ทำไมโลกของเราถึงเกิดแผ่นดินไหวขึ้น?
เบื้องลึกใต้พิภพ: โครงสร้างของโลก
เพื่อทำความเข้าใจสาเหตุของแผ่นดินไหว เราต้องลงไปสำรวจโครงสร้างภายในของโลกกันก่อน โลกของเรานั้นไม่ได้เป็นทรงกลมที่แข็งแกร่งเหมือนเปลือกไข่ แต่ประกอบไปด้วยชั้นต่างๆ คล้ายกับหัวหอม ดังนี้:
- เปลือกโลก (Crust): เป็นชั้นนอกสุดที่เราอาศัยอยู่ มีความหนาเพียงไม่กี่กิโลเมตร เปรียบได้กับเปลือกบางๆ ของแอปเปิ้ลเท่านั้น เปลือกโลกแบ่งออกเป็นแผ่นทวีปและแผ่นมหาสมุทร
- แมนเทิล (Mantle): เป็นชั้นที่อยู่ใต้เปลือกโลก มีความหนาประมาณ 2,900 กิโลเมตร ส่วนใหญ่เป็นหินหนืดร้อนที่เรียกว่าหินหนืดแมกมา
- แก่นโลกชั้นนอก (Outer Core): เป็นชั้นของเหล็กและนิกเกิลหลอมเหลว มีความหนาประมาณ 2,200 กิโลเมตร
- แก่นโลกชั้นใน (Inner Core): เป็นแก่นกลางของโลก ประกอบด้วยเหล็กและนิกเกิลที่แข็งตัวภายใต้ความดันมหาศาล มีความหนาประมาณ 1,220 กิโลเมตร
ทฤษฎีแผ่นเปลือกโลกเคลื่อนที่: จิ๊กซอว์ยักษ์แห่งโลก
เปลือกโลกไม่ได้เป็นแผ่นเดียวต่อเนื่องกัน แต่แตกออกเป็นแผ่นๆ เรียกว่าแผ่นเปลือกโลก (Tectonic Plates) แผ่นเปลือกโลกเหล่านี้ลอยอยู่บนหินหนืดในชั้นแมนเทิล และเคลื่อนที่อย่างช้าๆ ตลอดเวลา การเคลื่อนที่นี้เกิดจากกระแสความร้อนหมุนเวียนภายในโลก เรียกว่า กระแสการพาความร้อน (Convection Currents)
ทฤษฎีแผ่นเปลือกโลกเคลื่อนที่ (Plate Tectonics) อธิบายว่าแผ่นเปลือกโลกมีป interactions กัน 3 แบบหลักๆ:
ประเภท | ลักษณะ |
---|---|
ขอบแผ่นชนกัน (Convergent Boundaries) | แผ่นเปลือกโลกเคลื่อนที่เข้าชนกัน |
ขอบแผ่นแยกตัว (Divergent Boundaries) | แผ่นเปลือกโลกเคลื่อนที่ออกจากกัน |
ขอบแผ่นเฉือนกัน (Transform Boundaries) | แผ่นเปลือกโลกเคลื่อนที่ผ่านกันในทิศทางขนาน |
การปะทะกันของแผ่นเปลือกโลกเหล่านี้เอง ที่เป็นสาเหตุหลักของแผ่นดินไหว
แผ่นดินไหว: คลื่นพลังงานสะเทือนโลก
เมื่อแผ่นเปลือกโลกเคลื่อนที่ จะเกิดแรงกดดันมหาศาลสะสมอยู่ตามขอบแผ่น เมื่อแรงกดดันนี้มีมากเกินกว่าที่หินจะรับไหว หินจะแตกหักอย่างรุนแรง ปลดปล่อยพลังงานออกมาในรูปของคลื่นไหวสะเทือน (Seismic Waves) คลื่นไหวสะเทือนนี้แผ่งกระจายออกไปทุกทิศทาง ทำให้พื้นดินสั่นสะเทือน เกิดเป็นแผ่นดินไหว
จุดที่หินแตกหักและปลดปล่อยพลังงานใต้ดิน เรียกว่า บริเวณศูนย์กลางแผ่นดินไหว (Hypocenter) ส่วนจุดที่อยู่เหนือบริเวณศูนย์กลางแผ่นดินไหวบนพื้นผิวโลก เรียกว่า จุดเหนือศูนย์กลางแผ่นดินไหว (Epicenter) ซึ่งมักเป็นบริเวณที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด
ความรุนแรงของแผ่นดินไหว: บันทึกความสั่นสะเทือน
ความรุนแรงของแผ่นดินไหววัดได้ด้วยมาตราวัดขนาดแผ่นดินไหว โดยทั่วไปนิยมใช้มาตราริกเตอร์ (Richter Scale) ซึ่งเป็นมาตรา logaritmic ที่แต่ละระดับมีความรุนแรงเพิ่มขึ้น 10 เท่า ตัวอย่างเช่น แผ่นดินไหวขนาด 6 ริกเตอร์ มีความรุนแรงมากกว่าแผ่นดินไหวขนาด 5 ริกเตอร์ ถึง 10 เท่า และมีความรุนแรงมากกว่าแผ่นดินไหวขนาด 4 ริกเตอร์ ถึง 100 เท่า
แผ่นดินไหวในประเทศไทย: ภัยใกล้ตัวที่ไม่ควรมองข้าม
แม้ประเทศไทยจะไม่ได้ตั้งอยู่บนรอยเลื่อนขนาดใหญ่ แต่ก็ได้รับอิทธิพลจากแผ่นดินไหวในบริเวณใกล้เคียง เช่น รอยเลื่อนสะกายในพม่า รอยเลื่อนในประเทศจีนตอนใต้ และรอยเลื่อนในทะเลอันดามัน ดังนั้น ประเทศไทยจึงมีโอกาสเกิดแผ่นดินไหวได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันตก และภาคใต้
Fun Fact
你知道吗,全世界每天发生大约 500,000 次地震,但大多数地震很小,我们感觉不到。 (รู้หรือไม่ว่า โลกของเรามีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นประมาณ 500,000 ครั้งต่อวัน แต่ส่วนใหญ่เป็นแผ่นดินไหวขนาดเล็กที่เราไม่สามารถรู้สึกได้)
แผ่นดินไหวเป็นภัยธรรมชาติที่ไม่อาจคาดเดาได้อย่างแม่นยำ แต่ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับแผ่นดินไหว การเตรียมพร้อมรับมือ และการสร้างจิตสำนึกด้านความปลอดภัย จะช่วยลดความเสี่ยงและผลกระทบจากภัยพิบัติครั้งต่อไปได้
#แผ่นดินไหว #ภัยธรรมชาติ #วิทยาศาสตร์โลก #ธรณีวิทยา