17 พฤษภาคม 2568

เทคนิคในการดูแลตู้เย็นที่จะช่วยให้ตู้เย็นเย็นจัด

เทคนิคในการดูแลตู้เย็นที่จะช่วยให้ตู้เย็นเย็นจัด

ตู้เย็น ถือเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าอีกหนึ่งชนิดที่สำคัญอย่างมากในชีวิตประจำวัน เพราะทำหน้าที่สำคัญในการถนอมและยืดอายุอาหารให้สดใหม่ยาวนานขึ้น ช่วยรักษาคุณค่าทางโภชนาการ ป้องกันการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย และช่วยให้เราสามารถเก็บวัตถุดิบสำหรับปรุงอาหารได้นานวันขึ้น แต่รู้หรือไม่ว่า การที่ตู้เย็นจะสามารถทำหน้าที่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพนั้น การดูแลรักษาอย่างถูกวิธีถือเป็นสิ่งสำคัญ ไม่แพ้การเลือกซื้อตู้เย็นที่มีคุณภาพเลยทีเดียว

วันนี้ เราจะพาไปเจาะลึกถึงเทคนิคในการดูแลตู้เย็นอย่างถูกวิธี ที่จะช่วยประหยัดค่าไฟ แถมยังช่วยยืดอายุการใช้งานของตู้เย็นคู่ใจ ให้อยู่กับเราไปนานๆ พร้อมเผยเคล็ดลับการทำความสะอาดตู้เย็นอย่างหมดจด ที่รับรองว่า คุณจะต้องทึ่ง!

1. เลือกอุณหภูมิให้เหมาะสม

รู้หรือไม่ว่า อุณหภูมิที่เหมาะสมที่สุดสำหรับตู้เย็น คือ ช่องแช่เย็นอยู่ที่ 35-38 องศาฟาเรนไฮต์ หรือ 1.6-3.3 องศาเซลเซียส และช่องแช่แข็งอยู่ที่ 0 องศาฟาเรนไฮต์ หรือ -17.7 องศาเซลเซียส การตั้งอุณหภูมิที่เย็นเกินไป นอกจากจะสิ้นเปลืองพลังงานแล้ว ยังส่งผลให้อาหารบางชนิดแข็งตัวจนเกินไป และอาจทำให้ตู้เย็นทำงานหนักเกินไปอีกด้วย

2. จัดระเบียบภายในตู้เย็น

การจัดระเบียบภายในตู้เย็นอย่างเป็นระบบ ไม่เพียงแต่ช่วยให้หยิบของได้สะดวกขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยให้อากาศเย็นกระจายตัวได้ทั่วถึง และช่วยลดการเปิดตู้เย็นบ่อยๆ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้สิ้นเปลืองพลังงาน ลองนำเทคนิคง่ายๆ เหล่านี้ไปปรับใช้ดู

  • แบ่งประเภทอาหาร และจัดเก็บในภาชนะบรรจุอาหารที่ปิดสนิท
  • วางอาหารที่ต้องการความเย็นน้อยกว่าไว้ที่ช่องประตู
  • ไม่ควรนำอาหารร้อนเข้าตู้เย็นทันที ควรรอให้อุณหภูมิลดลงก่อน

3. ทำความสะอาดตู้เย็นเป็นประจำ

คราบสกปรกและเศษอาหารที่ตกค้างในตู้เย็น นอกจากจะเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคแล้ว ยังส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของตู้เย็นอีกด้วย ดังนั้น ควรหมั่นทำความสะอาดตู้เย็นอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง โดยใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำสบู่อ่อนๆ เช็ดทำความสะอาด

4. ตรวจสอบขอบยางประตู

ขอบยางประตูที่เสื่อมสภาพ จะทำให้อากาศเย็นรั่วไหลออก ส่งผลให้ตู้เย็นทำงานหนักขึ้น และสิ้นเปลืองพลังงาน ดังนั้น ควรหมั่นตรวจสอบขอบยางประตูเป็นประจำ โดยสังเกตว่ามีรอยฉีกขาดหรือไม่ หากพบว่าเสื่อมสภาพ ควรรีบเปลี่ยนใหม่ทันที

5. ไม่วางตู้เย็นติดผนัง

การวางตู้เย็นชิดผนังมากเกินไป จะทำให้อากาศถ่ายเทไม่สะดวก ส่งผลให้ตู้เย็นทำงานหนักขึ้น และสิ้นเปลืองพลังงาน ดังนั้น ควรเว้นระยะห่างระหว่างตู้เย็นกับผนังอย่างน้อย 15 เซนติเมตร

6. เลือกใช้ตู้เย็นประหยัดไฟเบอร์ 5

ปัจจุบันมีตู้เย็นประหยัดไฟเบอร์ 5 วางจำหน่ายมากมาย ซึ่งได้รับการรับรองว่าช่วยประหยัดพลังงานได้จริง หากถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนตู้เย็นใหม่ การเลือกซื้อตู้เย็นประหยัดไฟเบอร์ 5 ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ


ประเภทของอาหาร อายุการเก็บรักษาในตู้เย็น
เนื้อสัตว์ 2-3 วัน
ผักสด 3-5 วัน
ผลไม้ 5-7 วัน
ไข่ไก่ 3-4 สัปดาห์
นม 5-7 วันหลังเปิดขวด

Fun Fact : รู้หรือไม่ว่า ตู้เย็นเครื่องแรกของโลก ถูกประดิษฐ์ขึ้นในปี ค.ศ. 1748 โดย วิลเลียม คัลเลน นักฟิสิกส์ชาวสก็อต

#ตู้เย็น #เครื่องใช้ไฟฟ้า #เทคนิค #ดูแลรักษา

บทความน่าสนใจ

บทความยอดนิยมตลอดกาล

บทความที่อยู่ในกระแส