วันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2512 (หรือ ค.ศ. 1969) เวลา 20:17 น. ตามเวลาสากลเชิงพิกัด นีล อาร์มสตรอง มนุษย์คนแรกได้ก้าวเท้าลงบนพื้นผิวของดวงจันทร์ วลีอมตะ "That's one small step for [a] man, one giant leap for mankind." (ก้าวเล็กๆ ของมนุษย์คนหนึ่ง ก้าวกระโดดที่ยิ่งใหญ่สำหรับมนุษยชาติ) ดังก้องไปทั่วโลกผ่านการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ เป็นการประกาศถึงชัยชนะของมนุษยชาติในการแข่งขันด้านอวกาศและความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ขององค์การนาซา (NASA)
ภารกิจสู่ดวงจันทร์ในครั้งนั้นมีชื่อว่า อะพอลโล 11 (Apollo 11) ใช้เวลาเดินทางจากโลกถึงดวงจันทร์ประมาณ 3 วัน โดยมีนักบินอวกาศ 3 คนร่วมเดินทางไปกับยานอวกาศโคลัมเบีย ได้แก่ นีล อาร์มสตรอง ผู้บังคับการ, บัซ อัลดริน นักบินโมดูลดวงจันทร์ และ ไมเคิล คอลลินส์ นักบินโมดูลบัญชาการ
เบื้องหลังความสำเร็จอันยิ่งใหญ่
การส่งมนุษย์ไปเหยียบดวงจันทร์ได้สำเร็จ ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องอาศัยความร่วมมือจากนักวิทยาศาสตร์ วิศวกร และบุคลากรกว่า 400,000 คน รวมถึงงบประมาณมหาศาลกว่า 2.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (คิดเป็นมูลค่าปัจจุบัน) โดยมีปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จ ดังนี้
- การแข่งขันทางอวกาศกับสหภาพโซเวียต: ในช่วงทศวรรษที่ 1960 สหรัฐอเมริกาและสหภาพโซเวียต ต่างแข่งขันกันเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีอวกาศ ภารกิจส่งยูริ กาการิน มนุษย์คนแรกของโลก ขึ้นสู่อวกาศโดยสหภาพโซเวียตในปี พ.ศ. 2504 กลายเป็นแรงกระตุ้นสำคัญที่ทำให้สหรัฐอเมริกามุ่งมั่นที่จะส่งมนุษย์ไปดวงจันทร์ให้ได้ก่อน
- วิสัยทัศน์ของประธานาธิบดีจอห์น เอฟ. เคนเนดี: ในปี พ.ศ. 2504 ประธานาธิบดีเคนเนดี ได้ประกาศจุดมุ่งหมายของสหรัฐอเมริกาที่จะ "ส่งมนุษย์ไปลงดวงจันทร์และนำเขากลับมายังโลกอย่างปลอดภัยภายในทศวรรษนี้" ซึ่งเป็นการปลุกกระแสความฮึกเหิมและรวมพลังของชาวอเมริกันให้เป็นหนึ่งเดียว
- ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี: องค์การนาซาได้พัฒนาเทคโนโลยีด้านอวกาศอย่างก้าวกระโดด ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาจรวดแซทเทิร์น 5 (Saturn V) ที่ทรงพลังที่สุดในขณะนั้น ระบบนำทางและควบคุมยานอวกาศที่แม่นยำ รวมถึงชุดอวกาศที่ช่วยให้นักบินอวกาศสามารถปฏิบัติภารกิจบนดวงจันทร์ได้อย่างปลอดภัย
มรดกจากภารกิจอะพอลโล 11
ภารกิจอะพอลโล 11 ไม่เพียงแต่เป็นชัยชนะของสหรัฐอเมริกา แต่ยังเป็นก้าวสำคัญของมวลมนุษยชาติ ที่นำไปสู่ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมากมาย อาทิเช่น
- ความรู้ใหม่เกี่ยวกับดวงจันทร์: ตัวอย่างหินและดินจากดวงจันทร์ที่นักบินอวกาศนำกลับมายังโลก ช่วยให้นักวิทยาศาสตร์เข้าใจถึงกำเนิดและวิวัฒนาการของดวงจันทร์และระบบสุริยะมากขึ้น
- เทคโนโลยีที่ใช้ในชีวิตประจำวัน: เทคโนโลยีหลายอย่างที่พัฒนาขึ้นเพื่อใช้ในโครงการอะพอลโล ถูกนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น อาหารแห้งแช่แข็ง, วัสดุกันความร้อน, ระบบกรองน้ำ, อุปกรณ์ทางการแพทย์ และอื่นๆ อีกมากมาย
- แรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นหลัง: ภารกิจอะพอลโล 11 เป็นแรงบันดาลใจให้กับคนทั่วโลก โดยเฉพาะเด็กๆ และเยาวชน ให้ใฝ่ฝันที่จะเป็นนักวิทยาศาสตร์ วิศวกร และนักบินอวกาศ รวมถึงกระตุ้นให้เกิดความสนใจในการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ (STEM)
ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจเกี่ยวกับภารกิจอะพอลโล 11
นอกจากเรื่องราวความสำเร็จอันน่าประทับใจแล้ว ภารกิจอะพอลโล 11 ยังมีข้อเท็จจริงที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น
ข้อเท็จจริง | รายละเอียด |
---|---|
ระยะทางที่ยานอวกาศอะพอลโล 11 เดินทาง | ประมาณ 1.5 ล้านกิโลเมตร |
ความเร็วสูงสุดของยานอวกาศอะพอลโล 11 | ประมาณ 39,897 กิโลเมตรต่อชั่วโมง |
ระยะเวลาที่นีล อาร์มสตรองและบัซ อัลดรินอยู่บนพื้นผิวดวงจันทร์ | ประมาณ 21 ชั่วโมง 36 นาที |
น้ำหนักของชุดอวกาศที่นักบินอวกาศสวมใส่บนดวงจันทร์ | ประมาณ 82 กิโลกรัม |
แม้เวลาจะผ่านไปกว่า 50 ปี นับตั้งแต่ภารกิจอะพอลโล 11 ประสบความสำเร็จ แต่เรื่องราวอันน่าทึ่งนี้ยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คนทั่วโลก และเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงศักยภาพอันไร้ขีดจำกัดของมนุษย์ในการสำรวจและค้นหาความรู้ใหม่ๆ ในจักรวาลอันกว้างใหญ่นี้ต่อไป
#อวกาศ #ดวงจันทร์ #นาซา #อะพอลโล11