การนอนหลับเป็นสิ่งจำเป็นต่อชีวิตมนุษย์เช่นเดียวกับการกินอาหาร การดื่มน้ำ และการหายใจ ในขณะที่เราหลับ ร่างกายและจิตใจของเราจะได้พักผ่อน ฟื้นฟู และซ่อมแซมตัวเอง และในช่วงเวลาแห่งการหลับใหลนี้เองที่เราจะเข้าสู่โลกแห่งความฝัน อันเป็นดินแดนลึกลับที่เต็มไปด้วยภาพ เสียง ความรู้สึก และเรื่องราวต่างๆ มากมาย แต่คุณเคยสงสัยหรือไม่ว่า ตลอดชีวิตของคนคนหนึ่ง เราจะได้สัมผัสประสบการณ์การหลับฝันกี่ครั้ง?
วงจรการนอนหลับและความฝัน
ก่อนอื่น เราต้องมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับวงจรการนอนหลับของมนุษย์กันก่อน โดยทั่วไปแล้ว ในหนึ่งคืน เราจะผ่านวงจรการนอนหลับประมาณ 4-6 รอบ แต่ละรอบใช้เวลาประมาณ 90-110 นาที และในแต่ละรอบ จะประกอบไปด้วยระยะต่างๆ กัน ดังนี้
- ระยะที่ 1 (N1): เป็นช่วงระหว่างตื่นกับหลับ คลื่นสมองจะเริ่มช้าลง กล้ามเนื้อคลายตัว อาจมีอาการกระตุก
- ระยะที่ 2 (N2): เป็นช่วงเริ่มต้นของการนอนหลับ คลื่นสมองช้าลง อัตราการเต้นของหัวใจและการหายใจช้าลง
- ระยะที่ 3 (N3): เป็นช่วงหลับลึก คลื่นสมองช้าลงมาก ร่างกายผ่อนคลายอย่างเต็มที่ ยากที่จะปลุก
- ระยะ REM (Rapid Eye Movement): เป็นช่วงที่เกิดความฝัน คลื่นสมองจะมีลักษณะคล้ายกับตอนตื่น ลูกตาจะเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว กล้ามเนื้อเป็นอัมพาต
โดยส่วนใหญ่ ความฝันจะเกิดขึ้นในช่วง REM sleep ซึ่งมักเกิดขึ้นในช่วงท้ายของวงจรการนอนหลับ ดังนั้น ยิ่งเรานอนหลับนานเท่าไหร่ เราก็ยิ่งมีโอกาสฝันมากขึ้นเท่านั้น
คำนวณจำนวนครั้งแห่งความฝัน
แม้ว่าเราจะไม่สามารถระบุจำนวนครั้งที่แน่ชัดของความฝันตลอดชีวิตได้ แต่เราสามารถประมาณการคร่าวๆ ได้จากข้อมูลทางสถิติ โดยเฉลี่ยแล้ว คนเราจะใช้เวลาประมาณหนึ่งในสามของชีวิตไปกับการนอนหลับ และในช่วงเวลาการนอนหลับนั้น ประมาณ 20-25% จะเป็นช่วง REM sleep
ตัวอย่างเช่น หากคนเราอายุเฉลี่ย 80 ปี จะเท่ากับ 29,200 วัน และหากใช้เวลาหนึ่งในสามไปกับการนอนหลับ จะเท่ากับ 9,733 วัน หรือ 233,600 ชั่วโมง และจากนั้น หาก 20% ของเวลาการนอนหลับเป็น REM sleep จะเท่ากับ 46,720 ชั่วโมง นั่นหมายความว่า ตลอดชีวิต คนเราจะใช้เวลาไปกับการหลับฝันเกือบ 5 ปี
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขเหล่านี้เป็นเพียงการประมาณการเท่านั้น ปัจจัยหลายอย่างสามารถส่งผลต่อระยะเวลาและความถี่ของ REM sleep ได้ เช่น อายุ สุขภาพ ความเครียด และการใช้ยา นอกจากนี้ เราไม่ได้จดจำความฝันทุกครั้งที่เราตื่นขึ้นมา ดังนั้น จำนวนครั้งของความฝันที่เราจดจำได้จึงอาจน้อยกว่าจำนวนครั้งที่เกิดขึ้นจริงมาก
ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจเกี่ยวกับความฝัน
- คนตาบอดก็ฝันได้ แต่ลักษณะของความฝันจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาตาบอดตั้งแต่กำเนิดหรือไม่
- สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเกือบทุกชนิด รวมถึงสัตว์เลี้ยงของเรา ก็ฝันเช่นกัน สังเกตได้จากการเคลื่อนไหวของร่างกาย เสียงร้อง หรือการขยับใบหน้าในขณะที่พวกเขากำลังนอนหลับ
- เราไม่สามารถจดจำความฝันของเราได้ทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งความฝันที่เกิดขึ้นในช่วงต้นของการนอนหลับ
- ความฝันสามารถเป็นแรงบันดาลใจให้กับงานศิลปะ ดนตรี และวรรณกรรม ตัวอย่างเช่น นักประพันธ์เพลงชื่อดัง Paul McCartney แต่งเพลง "Yesterday" หลังจากที่เขาตื่นขึ้นมาจากความฝัน
แม้ว่าความฝันจะเป็นประสบการณ์ที่เกิดขึ้นภายในจิตใจของเรา แต่ก็มีความเชื่อมโยงอย่างมากกับโลกแห่งความเป็นจริง การทำความเข้าใจเกี่ยวกับวงจรการนอนหลับ ปัจจัยที่มีผลต่อความฝัน และความหมายของความฝัน สามารถช่วยให้เราดูแลสุขภาพกายและใจของเราได้ดียิ่งขึ้น
#ความฝัน #การนอนหลับ #REMsleep #จิตวิทยา