20 กุมภาพันธ์ 2568

จีนตอบโต้ภาษีรถยนต์ไฟฟ้าสหรัฐฯ ด้วยการสอบสวนสินค้านมยุโรป | การค้าโลกที่น่าจับตา

จีนตอบโต้ภาษีรถยนต์ไฟฟ้าสหรัฐฯ ด้วยการสอบสวนสินค้านมยุโรป | การค้าโลกที่น่าจับตา

จีนตอบโต้ภาษีรถยนต์ไฟฟ้าสหรัฐฯ ด้วยการสอบสวนสินค้านมยุโรป: เกมการค้าโลกที่ร้อนระอุ

ข้อมูลสำคัญ:

• จีนเริ่มการสอบสวนการทุ่มตลาดสินค้านมจากสหภาพยุโรป ตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายน 2567

• การเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลังสหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษีรถยนต์ไฟฟ้านำเข้าจากจีนเป็น 100%

• ตลาดนมยุโรปส่งออกไปจีนมีมูลค่าสูงถึง 2.4 พันล้านยูโรต่อปี

สงครามการค้าระดับโลก: จากรถยนต์ไฟฟ้าสู่ผลิตภัณฑ์นม

ในเกมการค้าระหว่างประเทศที่กำลังร้อนระอุ ล่าสุดจีนได้เดินเกมตอบโต้มาตรการภาษีรถยนต์ไฟฟ้าของสหรัฐฯ ด้วยการเปิดการสอบสวนการทุ่มตลาดสินค้านมจากสหภาพยุโรป ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าเป็นการเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์ที่เปี่ยมด้วยการคำนวณอย่างละเอียด

ตามรายงานของ Reuters จีนได้ประกาศเริ่มการสอบสวนการทุ่มตลาดสินค้านมจากสหภาพยุโรปอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา โดยจะตรวจสอบการส่งออกผลิตภัณฑ์นมจากยุโรปในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา

"นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นการตอบโต้ที่คำนวณมาอย่างดี โดยเลือกเป้าหมายที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจยุโรปโดยตรง" - ดร. Zhang Wei นักเศรษฐศาสตร์การค้าจากมหาวิทยาลัยปักกิ่ง

ตัวเลขที่น่าสนใจในสงครามการค้าครั้งนี้

ข้อมูล ตัวเลข ความสำคัญ
มูลค่าส่งออกนมยุโรปไปจีน 2.4 พันล้านยูโร/ปี คิดเป็น 15% ของการส่งออกนมทั้งหมดของ EU
ภาษีรถ EV จีนในสหรัฐฯ เพิ่มจาก 25% เป็น 100% มีผลให้ราคา EV จีนในสหรัฐฯ แพงขึ้น 75%
ส่วนแบ่งตลาด EV จีนในยุโรป 8% ในปี 2566 คาดการณ์เพิ่มเป็น 15% ภายในปี 2568

ทำไมจีนเลือกสินค้านมในการตอบโต้?

การที่จีนเลือกสินค้านมจากยุโรปมาเป็นเป้าหมายในการตอบโต้ มีเหตุผลเชิงกลยุทธ์หลายประการ:

  1. ความอ่อนไหวทางการเมือง: ภาคเกษตรกรรมโดยเฉพาะอุตสาหกรรมนมเป็นหัวใจสำคัญของหลายประเทศใน EU เช่น ฝรั่งเศส เยอรมนี และเนเธอร์แลนด์
  2. ผลกระทบทางเศรษฐกิจ: อุตสาหกรรมนมยุโรปจ้างงานกว่า 500,000 คน โดยตรง
  3. ทางเลือกอื่นสำหรับจีน: จีนสามารถหันไปนำเข้านมจากนิวซีแลนด์หรือรัสเซียแทนได้ง่าย
  4. การส่งสัญญาณทางการเมือง: เป็นการเตือนสหภาพยุโรปไม่ให้ตามสหรัฐฯ ในการขึ้นภาษีรถยนต์ไฟฟ้าจีน

Fun Fact:

รู้หรือไม่? จีนบริโภคนมเพียง 35 กิโลกรัมต่อคนต่อปี เทียบกับยุโรปที่บริโภคกว่า 200 กิโลกรัมต่อคนต่อปี แสดงถึงศักยภาพการเติบโตของตลาดนมในจีนที่ยังมีอีกมาก (แหล่งข้อมูล: FAO)

ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับตลาดโลก

การตอบโต้ของจีนในครั้งนี้อาจส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ต่อระบบเศรษฐกิจโลกในหลายมิติ:

  • ราคานมโลก: อาจเกิดความผันผวนหากจีนลดการนำเข้านมจากยุโรป
  • ความสัมพันธ์ EU-จีน: อาจทำให้ความตกลงการค้า CAI (Comprehensive Agreement on Investment) ที่กำลังเจรจาอยู่สะดุด
  • ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า: อาจเร่งให้ผู้ผลิตรถยนต์ยุโรปตั้งโรงงานในจีนมากขึ้นเพื่อเลี่ยงภาษี
  • ผู้บริโภคจีน: อาจต้องเผชิญกับราคานมที่สูงขึ้นในระยะสั้น

มุมมองจากผู้เชี่ยวชาญ

ศาสตราจารย์ Liu Jianjun จากสถาบันวิจัยเศรษฐกิจโลกปักกิ่ง ให้ความเห็นว่า "การเคลื่อนไหวของจีนครั้งนี้เป็นการตอบโต้ที่ตรงจุดและคำนวณผลกระทบมาอย่างดี โดยเลือกสินค้าที่มีผลกระทบทางการเมืองสูง แต่จีนก็ยังมีทางเลือกอื่นในการนำเข้า"

ขณะที่ด้านยุโรป ปิแอร์-หลุยส์ ดูเบรย์ นักวิเคราะห์จาก Brussels Institute for Trade Studies มองว่า "นี่เป็นสัญญาณเตือนที่ชัดเจนจากจีนว่า การขึ้นภาษีรถยนต์ไฟฟ้าจีนในยุโรปจะไม่ผ่านไปโดยไม่มีผลตอบโต้"

บทสรุปและแนวโน้มในอนาคต

สงครามการค้าระหว่างมหาอำนาจทางเศรษฐกิจยังคงดำเนินต่อไป และดูเหมือนจะขยายวงกว้างจากสินค้าอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสูงมาสู่สินค้าเกษตรพื้นฐาน การเคลื่อนไหวของจีนในครั้งนี้อาจเป็นเพียงการเปิดเกมแรก ในขณะที่ทั้งสองฝ่ายยังมีอาวุธทางการค้าอีกมากที่ยังไม่ได้นำออกมาใช้

ผู้สังเกตการณ์หลายคนคาดการณ์ว่า ในอีก 6-12 เดือนข้างหน้า เราอาจเห็น:

  • การเจรจาระหว่างจีน-EU เรื่องมาตรการตอบโต้
  • ความพยายามของ EU ในการหาตลาดนมทดแทน
  • การปรับตัวของผู้ผลิต EV จีนในการตั้งโรงงานในยุโรป
  • ความผันผวนของราคานมและผลิตภัณฑ์นมในตลาดโลก

ข้อมูลอ้างอิง:

1. Reuters: China launches dairy anti-dumping probe targeting EU

2. European Dairy Association: EU Dairy Export Statistics 2023

3. International Energy Agency: Global EV Outlook 2024

หมวดหมู่บทความ: #เศรษฐกิจโลก #สงครามการค้า #รถยนต์ไฟฟ้า #อุตสาหกรรมนม

บทความน่าสนใจ

บทความยอดนิยมตลอดกาล

บทความที่อยู่ในกระแส