การแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2024 ที่กรุงปารีสกำลังจะมาถึงในไม่ช้า นับเป็นมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกที่คนทั้งโลกต่างเฝ้ารอชม เหล่านักกีฬาต่างทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจเพื่อช่วงชิงเหรียญรางวัลอันทรงเกียรติ แต่เบื้องหลังความสำเร็จของนักกีฬาที่คว้าเหรียญทอง นอกจากความสามารถและความมุ่งมั่นแล้ว ปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งคือ บุคลิกภาพของพวกเขารวมถึงบุคลิกภาพด้านมืด ซึ่งอาจส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างโค้ชและนักกีฬาได้อย่างคาดไม่ถึง
บุคลิกภาพด้านมืด (Dark Triad) เป็นกลุ่มลักษณะบุคลิกภาพที่ประกอบด้วย
- นิยมความหลงตัวเอง (Narcissism) : มีแนวโน้มที่จะเห็นคุณค่าในตนเองสูงเกินจริง ชอบโอ้อวด ชอบเป็นจุดสนใจ
- นิยมความบงการ (Machiavellianism) : มักจะฉวยโอกาส ใช้เล่ห์เหลี่ยมเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ตนเองต้องการ โดยไม่สนใจศีลธรรม
- นิยมความโหดร้าย (Psychopathy) : ขาดความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ไม่มีความรู้สึกผิดชอบชั่วดี
แม้ว่าบุคลิกภาพเหล่านี้อาจฟังดูเป็นแง่ลบ แต่ในบางสถานการณ์ บุคลิกภาพด้านมืดกลับส่งผลดีต่อความสำเร็จของนักกีฬาได้ ตัวอย่างเช่น นักกีฬาที่มีแนวโน้มนิยมความหลงตัวเอง อาจมีความมั่นใจในตนเองสูง กล้าเสี่ยง กล้าแสดงออก ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่จำเป็นต่อการแข่งขันในระดับสูง นอกจากนี้ งานวิจัยบางชิ้นยังพบว่า นักกีฬาที่มีแนวโน้มนิยมความบงการ มักจะมีความมุ่งมั่นที่จะเอาชนะสูง มีแรงจูงใจในการฝึกซ้อมอย่างหนัก ซึ่งเป็นปัจจัยที่นำไปสู่ความสำเร็จในสนามแข่งขันได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม บุคลิกภาพด้านมืด ก็อาจส่งผลเสียต่อความสัมพันธ์ระหว่างโค้ชและนักกีฬาได้เช่นเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น นักกีฬาที่มีแนวโน้มนิยมความหลงตัวเอง อาจไม่ยอมรับฟังคำแนะนำจากโค้ช มักจะทำอะไรตามใจตนเอง ซึ่งอาจนำไปสู่ความขัดแย้งในทีมได้ ขณะที่นักกีฬาที่มีแนวโน้มนิยมความบงการ อาจใช้เล่ห์เหลี่ยมต่างๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ตนเองต้องการ แม้กระทั่งการทำลายเพื่อนร่วมทีม หรือไม่เคารพกฎกติกา ซึ่งส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของทีมในวงกว้างได้
ตารางด้านล่าง แสดงให้เห็นถึงตัวอย่างอิทธิพลของบุคลิกภาพด้านมืดต่อความสัมพันธ์ระหว่างโค้ชและนักกีฬา
บุคลิกภาพด้านมืด | ผลกระทบเชิงบวก | ผลกระทบเชิงลบ |
---|---|---|
นิยมความหลงตัวเอง | มีความมั่นใจในตนเองสูง กล้าแสดงออก | ไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นผู้อื่น ยึดตนเองเป็นศูนย์กลาง |
นิยมความบงการ | มีความมุ่งมั่นสูง มีแรงจูงใจในการเอาชนะ | ใช้เล่ห์เหลี่ยมเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ต้องการ ไม่สนใจศีลธรรม |
นิยมความโหดร้าย | ควบคุมอารมณ์ได้ดี ไม่หวั่นไหวง่าย | ขาดความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ก้าวร้าวรุนแรง |
จากข้อมูลข้างต้น แสดงให้เห็นว่า บุคลิกภาพด้านมืดนั้น เป็นดาบสองคมที่ส่งผลต่อทั้งแง่บวกและแง่ลบต่อความสัมพันธ์ระหว่างโค้ชและนักกีฬา ดังนั้น โค้ชจึงมีบทบาทสำคัญในการทำความเข้าใจบุคลิกภาพของนักกีฬาแต่ละคน เพื่อหาวิธีการฝึกฝนและกระตุ้นนักกีฬาอย่างเหมาะสม รวมถึงการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันบนพื้นฐานของความเคารพซึ่งกันและกัน เพื่อนำพานักกีฬาไปสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน
ในโอลิมปิก 2024 นี้ นอกจากจะได้ร่วมลุ้นผลการแข่งขันแล้ว การเฝ้าสังเกตความสัมพันธ์ระหว่างโค้ชและนักกีฬา ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะเบื้องหลังเหรียญทอง อาจมีเรื่องราวความสัมพันธ์อันซับซ้อนที่เราคาดไม่ถึงก็เป็นได้
#โอลิมปิก #จิตวิทยา