09 เมษายน 2567

7 เคล็ดลับพิชิตขั้นเทพ ปราบความขี้เกียจ ลดการผัดวันประกันพรุ่งแบบอยู่หมัด


7 เคล็ดลับพิชิตขั้นเทพ ปราบความขี้เกียจ ลดการผัดวันประกันพรุ่งแบบอยู่หมัด

7 เคล็ดลับพิชิตขั้นเทพ ปราบความขี้เกียจ ลดการผัดวันประกันพรุ่งแบบอยู่หมัด

การผัดวันประกันพรุ่ง หรือ Procrastination เป็นเหมือนศัตรูตัวร้ายที่คอยขัดขวางความสำเร็จของใครหลายคน ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน นักศึกษา พนักงานออฟฟิศ หรือแม้กระทั่งเจ้าของธุรกิจ ต่างก็เคยเผชิญหน้ากับเจ้าความขี้เกียจ ที่คอยมากระซิบข้างหูให้เราผลัดงานไปทำวันพรุ่งนี้เสมอ งานวิจัยเผยว่ากว่า 95% ของประชากรโลก ต่างก็เคยผัดวันประกันพรุ่งกันมาแล้วทั้งสิ้น แต่รู้หรือไม่ว่า การผัดวันประกันพรุ่งนั้นส่งผลเสียมากกว่าที่คิด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความเครียด ความวิตกกังวล ประสิทธิภาพในการทำงานที่ลดลง และอาจส่งผลต่อความสัมพันธ์กับคนรอบข้างได้อีกด้วย

แต่ไม่ต้องกังวลไป บทความนี้ได้รวบรวม 7 เคล็ดลับเด็ด ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วจากงานวิจัย ที่จะช่วยให้คุณกำจัดความขี้เกียจ และลดการผัดวันประกันพรุ่งได้อย่างอยู่หมัด

1. เข้าใจต้นตอของปัญหา

ก่อนอื่น เราต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่า อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้เราผัดวันประกันพรุ่ง บางคนอาจจะเกิดจากความกลัวความล้มเหลว บางคนอาจจะรู้สึกว่างานที่ได้รับมอบหมายนั้นยากเกินไป หรือบางคนอาจจะแค่เบื่อง่ายและขาดแรงจูงใจในการทำงาน เมื่อเราเข้าใจสาเหตุที่แท้จริงของปัญหาแล้ว เราก็จะสามารถหาวิธีแก้ไขได้ตรงจุดมากขึ้น

2. กำหนดเป้าหมายให้ชัดเจนและแบ่งงานเป็นส่วนย่อย

หลายครั้งที่เรารู้สึกว่างานที่ได้รับมอบหมายนั้นใหญ่เกินไป จนทำให้เรารู้สึกท้อแท้และไม่อยากลงมือทำ ดังนั้น ลองแบ่งงานออกเป็นส่วนย่อยๆ ที่สามารถทำได้ง่ายขึ้น แล้วตั้งเป้าหมายเล็กๆ ในแต่ละวัน เช่น วันนี้จะอ่านหนังสือให้จบ 1 บท หรือจะเขียนรายงานให้ได้ 1 หน้า เมื่อเราทำเป้าหมายเล็กๆ สำเร็จได้ ก็จะทำให้เรารู้สึกดีกับตัวเองมากขึ้น และมีแรงจูงใจในการทำงานชิ้นต่อไปได้มากขึ้นด้วย

3. จัดลำดับความสำคัญของงาน

เทคนิค Eisenhower Matrix เป็นอีกหนึ่งเทคนิคง่ายๆ ที่จะช่วยให้คุณจัดลำดับความสำคัญของงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยแบ่งงานออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่

กลุ่ม รายละเอียด วิธีจัดการ
1. ด่วนและสำคัญ งานที่ต้องทำให้เสร็จโดยเร็วที่สุด และส่งผลกระทบต่องานโดยตรง ลงมือทำทันที
2. สำคัญแต่ไม่ด่วน งานที่ส่งผลในระยะยาว เช่น การพัฒนาตัวเอง การวางแผนชีวิต วางแผนและจัดสรรเวลาทำให้เสร็จ
3. ด่วนแต่ไม่สำคัญ งานที่รบกวนเวลา เช่น การตอบอีเมลล์ การรับโทรศัพท์ มอบหมายให้ผู้อื่น หรือ ทำภายหลัง
4. ไม่ด่วนและไม่สำคัญ งานที่ไม่เกิดประโยชน์ เช่น การเล่นโซเชียลมีเดีย ตัดทิ้งไปได้เลย

เมื่อคุณสามารถแยกแยะงานออกเป็น 4 กลุ่มนี้ได้แล้ว คุณจะสามารถจัดสรรเวลาและโฟกัสกับงานที่สำคัญที่สุดก่อน และลดเวลาในการทำกิจกรรมที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อเป้าหมายของคุณ

4. สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการทำงาน

สภาพแวดล้อมในการทำงานมีผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานมากกว่าที่คุณคิด ลองหาพื้นที่ที่เงียบสงบ ปราศจากสิ่งรบกวน เช่น เสียงโทรทัศน์ เสียงโทรศัพท์มือถือ หรือเสียงคุยกัน จัดโต๊ะทำงานให้เป็นระเบียบเรียบร้อย เปิดเพลงบรรเลงเบาๆ หรือจุดเทียนหอมอ่อนๆ เพื่อสร้างบรรยากาศผ่อนคลาย ช่วยให้มีสมาธิในการทำงานมากขึ้น

5. ใช้เทคนิค Pomodoro Technique

เทคนิค Pomodoro เป็นเทคนิคการจัดการเวลาที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย โดยมีหลักการง่ายๆ คือ การแบ่งเวลาทำงานออกเป็นช่วงๆ ช่วงละ 25 นาที สลับกับการพักผ่อน 5 นาที และเมื่อทำงานครบ 4 ช่วงแล้ว ให้พักยาว 20-30 นาที เทคนิคนี้จะช่วยให้สมองของคุณได้พักผ่อนเป็นระยะๆ ทำให้สามารถจดจ่ออยู่กับงานได้นานขึ้น และลดความเหนื่อยล้าจากการทำงานติดต่อกันเป็นเวลานานได้อีกด้วย

6. ให้รางวัลตัวเองบ้าง

อย่าลืมให้รางวัลตัวเองเมื่อทำเป้าหมายสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นการกินอาหารอร่อยๆ ดูหนัง ฟังเพลง หรือทำกิจกรรมที่ชอบ รางวัลเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ จะเป็นแรงจูงใจให้คุณอยากทำงานให้สำเร็จเร็วขึ้น และเป็นการเติมพลังบวกให้กับตัวเอง

7. อย่าโทษตัวเองเมื่อผิดพลาด

ไม่มีใครในโลกนี้ที่สมบูรณ์แบบ และไม่มีใครที่ไม่เคยทำผิดพลาด ดังนั้น หากคุณเผลอผัดวันประกันพรุ่งไปบ้าง ก็อย่าโทษตัวเอง แต่ให้มองว่ามันเป็นบทเรียนให้คุณได้เรียนรู้และปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้นในครั้งต่อไป

การลดการผัดวันประกันพรุ่ง ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพียงแค่คุณมีความตั้งใจจริงและลงมือทำอย่างสม่ำเสมอ เคล็ดลับที่กล่าวมาข้างต้นนี้ จะช่วยให้คุณเอาชนะความขี้เกียจในตัวคุณได้ และนำพาคุณไปสู่ความสำเร็จในชีวิตได้อย่างแน่นอน

#ลดการผัดวันประกันพรุ่ง #เพิ่มประสิทธิภาพ #จัดการเวลา #พัฒนาตัวเอง

บทความน่าสนใจ

บทความยอดนิยมตลอดกาล

บทความที่อยู่ในกระแส