18 เมษายน 2567

วิกฤตภัยแล้ง: อเมริกาตะวันตกเผชิญความแห้งแล้งที่สุดในรอบ 1,200 ปี

วิกฤตภัยแล้ง: อเมริกาตะวันตกเผชิญความแห้งแล้งที่สุดในรอบ 1,200 ปี

วิกฤตภัยแล้ง: อเมริกาตะวันตกเผชิญความแห้งแล้งที่สุดในรอบ 1,200 ปี

ภูมิภาคตะวันตกของสหรัฐอเมริกากำลังเผชิญกับความแห้งแล้งที่รุนแรงที่สุดในรอบกว่าหนึ่งพันปี ผลการศึกษาใหม่เผยให้เห็นว่า ช่วงเวลา 22 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2543 เป็นช่วงเวลาที่แห้งแล้งที่สุดในรอบอย่างน้อย 1,200 ปี โดยนักวิทยาศาสตร์ด้านภูมิอากาศระบุว่า สาเหตุหลักเกิดจากภาวะโลกร้อนที่เกิดจากฝีมือมนุษย์ ซึ่งส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของรูปแบบสภาพภูมิอากาศและปริมาณน้ำฝน

หลักฐานจากวงปีไม้

การศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Nature Climate Change ได้วิเคราะห์วงปีของต้นไม้โบราณกว่า 1,200 ต้น ซึ่งเป็นบันทึกทางธรรมชาติที่แสดงให้เห็นถึงสภาพอากาศในอดีต วงปีที่แคบแสดงถึงปีที่แห้งแล้ง ในขณะที่วงปีที่กว้างบ่งบอกถึงปีที่มีฝนตกชุก นักวิจัยพบว่าช่วงปี พ.ศ. 2543-2564 มีความแห้งแล้งอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่าช่วงเวลาใดๆ ในบันทึก ซึ่งย้อนหลังไปถึงปี ค.ศ. 800

ผลกระทบรุนแรง

ความแห้งแล้งครั้งประวัติศาสตร์นี้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อภูมิภาคตะวันตกของสหรัฐอเมริกา แหล่งน้ำสำคัญเช่น แม่น้ำโคโลราโด และทะเลสาบมี้ด อยู่ในระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ส่งผลกระทบต่อการผลิตกระแสไฟฟ้า การเกษตร และการใช้น้ำในชีวิตประจำวันของประชากรนับล้านคน นอกจากนี้ ภัยแล้งยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดไฟป่ารุนแรง ซึ่งสร้างความเสียหายต่อระบบนิเวศและทรัพย์สิน

ตารางแสดงปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย

ปี พ.ศ. ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย (มม.)
2540 450
2545 400
2550 380
2555 350
2560 320

อนาคตที่ไม่แน่นอน

แบบจำลองสภาพภูมิอากาศคาดการณ์ว่าความแห้งแล้งในภูมิภาคตะวันตกของสหรัฐอเมริกาจะทวีความรุนแรงขึ้นในอนาคต เนื่องจากอุณหภูมิโลกยังคงสูงขึ้น หากไม่มีมาตรการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างจริงจัง วิกฤตภัยแล้งครั้งนี้จะส่งผลกระทบร้ายแรงต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมของภูมิภาคในระยะยาว

Fun Fact:

ทะเลสาบมี้ด ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำที่มนุษย์สร้างขึ้นที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา มีระดับน้ำลดลงอย่างมากจนเผยให้เห็นซากศพมนุษย์และเรือที่จมอยู่ใต้น้ำมานานหลายทศวรรษ!

#ภัยแล้ง #อเมริกาตะวันตก #การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ #วิกฤตน้ำ

บทความน่าสนใจ

บทความยอดนิยมตลอดกาล

บทความที่อยู่ในกระแส