หากเอ่ยถึงชีส หลายคนคงนึกถึงอาหารยอดนิยมที่มีให้เลือกหลากหลายรสชาติและประเภท ตั้งแต่ชีสแผ่นบางเบา ไปจนถึงชีสแข็ง กลิ่นแรง แต่รู้หรือไม่ว่าในโลกนี้มีชีสอยู่ชนิดหนึ่งที่ขึ้นชื่อว่าแพงที่สุด นั่นคือ "Pule cheese" ชีสหายากที่ทำจากนมลา และมีราคาสูงถึง 576 ดอลลาร์สหรัฐต่อปอนด์ หรือตีเป็นเงินไทยก็ราวๆ 20,000 กว่าบาทต่อปอนด์
ทำไม Pule cheese ถึงแพง ?
เหตุผลหลักที่ทำให้ Pule cheese มีราคาสูงขนาดนี้ มาจากปัจจัยหลายอย่าง
- วัตถุดิบหายาก Pule cheese ผลิตจากนมของลา Balkan ซึ่งเป็นสายพันธุ์เฉพาะถิ่นของเซอร์เบียและมอนเตเนโกร ลาพันธุ์นี้ให้ปริมาณน้ำนมน้อยกว่าวัวมาก โดยให้เพียง 2 ลิตรต่อวัน เทียบกับวัวที่ให้ได้ถึง 40 ลิตรต่อวัน
- กรรมวิธีการผลิตที่ซับซ้อน นมลาไม่มีโปรตีนเคซีน ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในการผลิตชีส ดังนั้นการทำ Pule cheese จึงต้องใช้นมลาจำนวนมาก และต้องผ่านกรรมวิธีที่ซับซ้อน โดยนมลาจะถูกผสมกับนมแพะในอัตราส่วนที่เหมาะสม จากนั้นจึงนำไปบ่มนานหลายเดือน
- รสชาติและคุณภาพเป็นเลิศ Pule cheese มีรสชาติเข้มข้น เป็นเอกลักษณ์ เนื้อสัมผัสเนียนนุ่ม ละลายในปาก
Pule cheese กินกับอะไร ?
ด้วยรสชาติที่เข้มข้น Pule cheese จึงเหมาะที่จะรับประทานแบบเพียวๆ หรือจะนำไปเป็นส่วนผสมในอาหารก็ได้
วิธีการกิน | คำอธิบาย |
---|---|
ทานแบบเพียวๆ | ตัด Pule cheese เป็นชิ้นเล็กๆ รับประทานคู่กับไวน์ หรือผลไม้รสเปรี้ยว เพื่อดึงรสชาติของชีสให้โดดเด่น |
เป็นส่วนผสมในอาหาร | Pule cheese สามารถนำไปเป็นส่วนผสมในอาหารได้หลายประเภท เช่น โรยหน้าพิซซ่า พาสต้า สลัด หรือแม้แต่เบอร์เกอร์ |
Pule cheese ข้อมูลน่ารู้
- ปัจจุบัน Pule cheese ผลิตได้เพียงประมาณ 200 กิโลกรัมต่อปี เท่านั้น
- ฟาร์มที่ผลิต Pule cheese ส่วนใหญ่เป็นฟาร์มขนาดเล็ก ที่เลี้ยงลาแบบปล่อยอิสระ
- ในปี 2012 Pule cheese เคยถูกประมูลไปในราคาสูงถึง 1,700 ดอลลาร์สหรัฐต่อปอนด์
Pule cheese จึงเป็นมากกว่าชีสธรรมดา หากแต่เป็นผลผลิตที่สะท้อนถึงความทุ่มเทของผู้ผลิต และความหายากของวัตถุดิบ จนทำให้กลายเป็นชีสที่แพงที่สุดในโลก
#ชีส #Pulecheese #นมลา #อาหารราคาแพง