พระสุภัททะ: ผู้ขออุปสมบทเป็นพระอรหันต์รูปสุดท้าย

ในช่วงเวลาแห่งการดับขันธปรินิพพานของพระพุทธเจ้า ณ ป่าสาละแห่งเมืองกุสินารา มีเหตุการณ์อันเป็นที่น่าจดจำเกิดขึ้น เหตุการณ์นั้นคือ การปรากฏตัวของพระสุภัททะ ผู้ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นบุคคลสุดท้ายที่พระพุทธองค์ทรงอนุญาตให้บวชเป็นพระภิกษุ และเป็นพระอรหันต์รูปสุดท้ายในสมัยพุทธกาล บทความนี้จะพาไปสำรวจเรื่องราวอันน่าอัศจรรย์ของพระสุภัททะ ตั้งแต่ช่วงเวลาที่ท่านได้พบพระพุทธเจ้า จนกระทั่งถึงวาระสุดท้ายของชีวิต

ชีวิตก่อนพบพระพุทธเจ้า

พระสุภัททะเดิมทีเป็นชาวเมืองกุสินารา มีนามเดิมว่า “สุภัททะปริพาชก” ท่านเป็นนักบวชภายนอกศาสนาพุทธ ใช้ชีวิตศึกษาเล่าเรียนอยู่กับอาจารย์ผู้มีชื่อเสียง ณ กรุงราชคฤห์ แม้จะได้ชื่อว่าเป็นปริพาชกผู้คงแก่เรียน แต่ลึกๆ แล้ว ท่านกลับรู้สึกสับสนและไม่แน่ใจในคำสอนต่างๆ ที่ศึกษาเล่าเรียนมา

การพบพุทธองค์และการอุปสมบทอันน่าอัศจรรย์

จุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตของสุภัททะปริพาชก เกิดขึ้นเมื่อท่านทราบข่าวว่า พระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นศาสดาเอกของชาวพุทธ กำลังจะเสด็จดับขันธปรินิพพานในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี้ ณ ป่าสาละ ท่านจึงตัดสินใจออกเดินทางไปยังป่าสาละทันที ด้วยความปรารถนาที่จะได้พบพระพุทธองค์สักครั้งหนึ่งในชีวิต

เมื่อสุภัททะปริพาชกเดินทางไปถึงยังป่าสาละ ก็พบกับพระอานนท์ พระพุทธอนุชา จึงเอ่ยปากขอให้พระอานนท์ช่วยนำเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า แต่พระอานนท์ปฏิเสธ เนื่องจากเกรงว่าจะเป็นการรบกวนพระพุทธองค์ในเวลาที่ใกล้จะปรินิพพาน

ด้วยความมุ่งมั่น สุภัททะปริพาชกจึงพยายามร้องขอถึง 3 ครั้ง กระทั่งเสียงร้องขอของท่านดังไปถึงพระพุทธองค์ พระองค์ทรงทราบด้วยญาณว่า สุภัททะปริพาชกมีบุญบารมีมากพอที่จะบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ได้ จึงรับสั่งให้พระอานนท์พาเข้าเฝ้า

พระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมเทศนาแก่สุภัททะปริพาชก จนเกิดความเลื่อมใสศรัทธา ขอบวชเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา พระพุทธองค์ทรงอนุญาตให้พระอานนท์เป็นพระอุปัชฌาย์ ทำการบวชให้โดย “เอหิภิกขุอุปสัมปทา” อันเป็นวิธีการบวชแบบเร่งด่วนที่สมัยนี้ไม่มีแล้ว

หลังจากบวชแล้ว พระสุภัททะได้ฟังธรรมเทศนาจากพระพุทธองค์อีกครั้ง คราวนี้ท่านสามารถบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ สำเร็จอรหัตตผล พร้อมด้วยปฏิสัมภิทา 4 วิชชา 3 อภิญญา 6 นับเป็นพระอรหันต์รูปสุดท้ายในสมัยพุทธกาล

บทสรุปแห่งเส้นทางธรรม

แม้ช่วงเวลาที่พระสุภัททะจะได้พบกับพระพุทธเจ้านั้น จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ก่อนที่พระพุทธองค์จะเสด็จดับขันธปรินิพพาน แต่ท่านก็สามารถบรรลุธรรมขั้นสูงสุด กลายเป็นพระอรหันต์ผู้หมดกิเลส แสดงให้เห็นว่า การบรรลุธรรมนั้นไม่ขึ้นอยู่กับระยะเวลา แต่ขึ้นอยู่กับความตั้งใจ ความเพียรพยายาม และบุญบารมีที่ได้สั่งสมมา

เรื่องราวของพระสุภัททะ จึงเป็นเครื่องยืนยันคำสอนของพระพุทธองค์ที่ว่า “ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา” แม้กายเนื้อของพระองค์จะดับสูญไป แต่คำสอนของพระองค์ยังคงอยู่ และสามารถทำให้ผู้คนบรรลุธรรมได้ ตราบเท่าที่ยังมีความศรัทธาและปฏิบัติตามอย่างจริงจัง

#พระสุภัททะ #พระอรหันต์ #พุทธศาสนา #ธรรมะ